หูณิชารู้สึกจักจี้อย่างไม่รู้ตัว รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองชอบเขามากมายเพียงใด...
ความจริงแล้วเธอชอบแบบอ่อนหวานไม่ชอบพวกขึงขังใส่ ถ้าเวธัสต้องการบีบคั้นเธอให้ได้ บางทีเธออาจจะวิ่งออกไปถีบประตูและวิ่งหนีเตลิดไปเลย แต่ตอนที่เขาพูดดีๆ เธอกลับไม่มีอารมณ์โกรธเคือง
เธอหน้าแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ พลันบ่นพึมพำ “งั้นคุณยังกักขังฉัน แย่งลูกฉันไป กระทั่งซื้อตัวทนายทั่วเมืองด้วยเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าตอนนั้นคุณไม่ยอมเจอหน้าฉัน จนฉันใกล้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินว่าเธอเริ่มฟื้นฝอยถึงบัญชีเก่าเพื่อต่อสู้กับเวธัสแต่กลับรู้สึกโล่งใจแล้ว
ถ้าเธออดกลั้นไม่ยอมพูดจา ไม่ว่าเป็นเพราะว่าซาบซึ้งใจและคืนดีกลับเขาแล้ว เรื่องเหล่านี้จึงเป็นหนามยอกอกอยู่ในหัวใจของเธอ
เขาตัดบทโยนความผิดไปให้ท่านประเสริฐทันที “ผมไม่ได้ไปแย่งลูกมา”
“ฉันไม่เชื่อ!” ณิชาคิดว่าเขาพูดโกหก พลันตีหน้าแข็งทื่อทันที และค้อนขวับด้วยดวงตาไม่พอใจ “คนคนนั้นพูดออกมาเต็มปากว่าฉันไม่คู่ควรที่จะเลี้ยงดูคุณหนูอรัลของตระกูลสนธิไชย ไม่ใช่คุณแล้วจะใครล่ะคะ?”
ใบหน้าเวธัสมองไม่ออกความถึงร่องรอยความพลั้งเผลสักนิด มีแต่อาการความเบื่อหน่ายเพิ่มขึ้น
“กันญ่าบอกความลับเรื่องฝาแฝดกับคุณปู่ บวกกับคุณเคยไปก่อเรื่องวุ่นวายในงานแต่งงาน คุณปู่ถึงกับส่งคนไปลักพาตัวเด็กสองคนด้วยความโกรธเคือง ผมเองก็เพิ่งจะรู้หลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”
ณิชาเบิกตาอย่างประหลาดใจ สันกรามอันงดงามวิจิตรบรรจงตรึงแน่น ราวกับกำลังสงสัยในความน่าเชื่อถือในคำพูดของเขา
เวธัสเพ่งจ้องติ่งหูอันชุ่มชื้นของเธอ แสงหักเหของแสงอาทิตย์ช่างแวววาวยั่วใจ น้ำเสียงอ่อนโยนมากขึ้น “คุณไตร่ตรองดูคนเหล่านั้นคุ้นหน้าคุ้นตาหรือเปล่า? หากผมต้องการแย่งลูกมา เอกจะเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”
ณิชายังคงค้อนตอนเหลือบมองเขาต่อ
แต่ตอนที่เธอวิ่งไปหาเอกในตอนนั้น นายเอกก็มึนงงมากจริงๆ ...
แต่แม้ไม่ใช่เขาที่ไปแย่งลูกมา แต่เขาก็ใช้เรื่องนี้ในการบีบบังคับไล่ต้อนเธอไม่ให้มีทางหนี!
เธอต้องการไปหาเขาเพื่อเจรจาต่อรอง จนวิ่งฝ่าลมฝนจนเปียกปอนอยู่นานโดยไม่มีท่าทีรีรอ...
“ผมยอมรับว่าหลังจากนั้นผมสุดโต่งเกินเหตุจริงๆ แต่ตอนนี้ผมก็จ่ายราคาไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” เวธัสอดใจไม่ไหวจนเรื่องนี้พลิกตลบขึ้นมาทันที พลันทาบทรวงอก พลันเผยความเจ็บปวดขื่นขมเล็กน้อย
หัวใจณิชาอ่อนยวบยาบอย่างแท้จริง พลันส่งเสียงพึมพำออกมา “งั้นฉันต้องการให้คุณสัญญากับฉันสามข้อค่ะ!”
หัวคิ้วอันเย็นชาของเวธัสอ่อนโยนลงเยอะ “ตราบใดที่คุณไม่ตอกย้ำกับเรื่องอดีตที่ผ่านมา จะให้สัญญาสามสิบข้อก็ได้ครับ”
“คุณยอมตกลงเองแล้วนะ แต่สัญญาสามสิบข้อฉันยังคิดไม่ออก ตอนนี้เอาสัญญาไปสามข้อก่อนแล้วกันค่ะ” ณิชาคอยประจบไปตามน้ำ เพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจในภายหลัง
หัวคิ้วเวธัสเลิกคิ้ว พลันเกิดภาพหลินที่ขุดหลุมฝังตนเองอย่างนั้น
ณิชาเหมือนจะค้นพบว่า ตอนนี้เวธัสพูดง่ายมากเป็นพิเศษ...
เธอพูดทันที “ข้อแรก ไม่อนุญาตให้คุณกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน ข้อสอง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตามไม่อนุญาตให้คุณลิดรอนสิทธิส่วนบุคคลของฉันไป ข้อสาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งกับงานและการคบหาสมาคมในพื้นที่ส่วนตัว การคบหาเพื่อนอยู่บนพื้นฐานความเสมอภาคและสิทธิเสรีเบื้องต้น”
สองข้อแรกเวธัสไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ ในทางกลับกันเด็กๆ ก็อยู่ที่บ้านตระกูลสนธิไชย ยังไงเธอก็ต้องกลับไปกลับเขาอยู่แล้ว
แต่ข้อสุดท้ายนั้น...
คิ้วโก่งอันงดงามของชายหนุ่มขมวดแน่น พลันพูดอย่างไม่มีความสุข “มีเพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะ?”
“…” ณิชากลอกตามองบนจนพุ่งสูงเสียดฟ้า เขาผูกขาดอยู่คนเดียวเกิดเหตุไปมั้ง
“ผู้หญิงทั่วไปได้อยู่ สาวหล่อไม่ได้ ผู้ชายก็ไม่ได้ ต้องเว้นระยะห่างไว้ห้าเมตร” เวธัสหรี่ตาลงเล็กน้อย
ณิชา “…”
ในเวลานั้น นอกประตูมีความเคลื่อนไหวอยู่หลายเสียง
บอดี้การ์ดกำลังซักถามคุณหมอที่เตรียมจะเข้ามาในห้องพักของเวธัส
ทางด้านหลังของหัวหน้าแพทย์ใส่ชุดกาวน์สีขาวท่านหนึ่งมีบุรุษพยาบาลเดินตามมา และหยุดอยู่หน้าประตู
คุณหมอออกตัวถอดหน้ากากอนามัยเพื่อให้บอดี้การ์ดได้ตรวจสอบ
บอดี้การ์ดย่อมรู้จักเขา พลันชำเลืองมองแวบหนึ่งเพื่อแน่ใจว่าไร้ความผิดพลาด จึงถามด้วยความสงสัย “คุณหมอโรเบิร์ตคุณมาได้ยังไงครับ? ตอนนั้นบอกว่าให้คุณเวธัสพักผ่อนเป็นการส่วนตัวสักพักไม่ใช่เหรอครับ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊