กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 332

“เอาจริงๆ นะฉันก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน”

รวมถึงป้ายโฆษณาที่หล่นลงมาก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยหวาดหวั่นขนาดนี้มาก่อนเลย

ในเมื่อเวลานี้เขาว่องไวมากพอ ได้รับบาดเจ็บหนักมาก แต่อัตราการตายพูดยากมาก

ทว่าครั้งนี้ เขารู้อยู่เต็มอกว่ารถมีปัญหา แต่ก็ยังขับออกไปอย่างไม่รีรอ...

เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ ความรู้สึกซาบซึ้งและเจ็บปวดมันไม่สามารถเอามาผสมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเรื่องเดียวกัน

ช่างเหมือนบุญกับบาป ไม่เพียงแต่การลบออกและยกเลิกโดยพึ่งพาในแบบฉบับความเรียบง่าย แต่ตอนที่เธอรู้ว่าเขา “ฟื้นคืนจากความตาย” กลับมาได้ในชั่วขณะนั้น ในใจพลันมีคนตัวเล็กๆ ค่อยพร่ำตะโกนเรียกเธออย่างไม่หยุดหย่อน--

เชื่อเขาอีกสักครั้ง ลองกล้าหาญอีกสักครั้ง

ดังนั้นเธอค่อยๆ ยอมแพ้ยกธงขาว พ่ายแพ้ให้กับการไล่ตามด้วยความบ้าคลั่งจากเขา

……

ภายในด้านข้างห้องพักผู้ป่วย เอกกำลังเอ่ยถึงเรื่องคนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวกับเวธัส

ในเวลานั้นเขากับโทนี่ได้รับข่าวมา จึงรีบหักศอกรถกลับในละแวกนั้นทันที เวธัสตกจากหน้าผาไปแล้ว ส่วนณิชาก็สลบไสลไม่ได้สติอยู่บนพื้นหญ้า

นอกจากนี้ยังมีคนร้ายอีกหลายคนที่เตรียมจะฆ่าณิชา...

ช่วงเวลาคับขันลูกน้องของเอกที่เป็นทหารรับจ้างปลิดชีพสองคนในกลุ่ม และรักษาชีวิตณิชาให้รอดไว้ได้

ส่วนอีกสองคนที่เหลือ หนึ่งในนั้นเป็นแก๊งเรียกค่าไถ่ที่เตชินท์เป็นคนไปหามา ถูกแทงบริเวณท้อง แต่รอดชีวิตมาได้ และรู้แค่ว่าเตชินท์อยู่ที่นี่

ส่วนอีกคนมีข้อมูลมากมาย แต่กลับซับซ้อนมาก

เขากับผู้ว่าจ้างได้เจรจาผ่านตลาดการซื้อ Bitcoin หลังจากได้รับเงินมัดจำเพื่อเอาชีวิตเวธัสแล้ว คนจ้างที่อยู่เบื้องหลังสุดเป็นใครกัน เขาไม่รู้สักนิด

“คุณเวธัสครับ คำพูดของเตชินท์กับคนร้ายคนนั้นเหมือนกัน ยังมีคนลึกลับคอยแอบซ่อนอยู่เบื้องหลังจริงๆ ครับ”

เอกก้มหน้าลง เพราะเกิดความรู้สึกละอายใจเพราะตนเองปกป้องเวธัสได้ไม่ดีพอ

“ต้องการเอาชีวิตฉัน งั้นก็ต้องคอยดูว่าพวกเขามีปัญญาพอสำหรับเรื่องนี้หรือเปล่า” ในขณะนี้เวธัสนอนพิงหัวเตียงที่ปรับให้สูงขึ้น แววตาเย็นชามาก

เอกพยักหน้าเล็กน้อย พลันถามทันที “แล้วจะจัดการกับคนร้ายและแก๊งลักพาตัวยังไงดีครับ?”

ภายในดวงตาดำขลับของเวธัส ฉายความโหดเหี้ยมออกมา

“มันไร้ประโยชน์แล้วนี่ ก็จัดการมันซะสิ”

ลักษณะท่าทางเรียบง่าย ราวกับเป็นการพูดออกมาว่าสภาพอากาศวันนี้ถือว่าไม่เลวเลย

เอกเข้าใจความหมายดีว่าหมายถึงฆ่าปิดปาก พลันพยักหน้าเล็กน้อย

……

หัวค่ำ ณิชานั่งทานอาหารเย็นเป็นเวธัสในห้องพักผู้ป่วย

โทนี่ได้สั่งอาหารที่มีโภชนาการที่คนป่วยสามารถรับประทานได้เอาไว้

ทั้งๆ ที่เวธัสควรจะนอนอยู่บนเตียง แต่กลับไม่ใช่ แม้จะนั่งอยู่บนรถเข็นแต่ก็เข็นไปทั่ว

ตอนที่ณิชามาถึงนั้น เขาเพิ่งจะควบคุมรถเข็นมุ่งหน้าไปยังระเบียงด้านนอก พลันชะเง้อมองไกลๆ อยู่เงียบๆ มุมปากปรากฏรอยยิ้มจางๆ ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แสงอาทิตย์อัสดงอาบรอบตัวของเขา แสดงให้การใช้ชีวิตสุขสงบแบบนี้ต่อไปเรื่อยก็ดีมาก

จิตใจคิดไม่ดีของณิชาเริ่มต้นขึ้น พลันแอบเดินเข้าไปหา ฉวยจังหวะตอนที่เขาไม่ทันสังเกตแอบปิดตาเขาเอาไว้

“เดาสิคะฉันคือใคร?”

เธอจงใจกดเสียงให้ทุ้มต่ำ เมื่อได้ยินก็ไม่สามารถแยกแยะออกว่าเป็นชายหรือหญิง

เวธัสยกมือขึ้น พลันทับหลังฝ่ามือของเธอ “กลิ่นน้ำหอมการ์ดิเนียมันทรยศคุณแล้วครับ”

“ไม่สนุกเลย” ณิชายังไม่ยอมเอามือลง พลันปิดตาทั้งสองข้างของเขาต่อ “คุณก็ไม่เล่นด้วยสักหน่อยเลย แกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยไม่ได้เหรอคะ?”

เสียงอ่อนหวานเหมือนแปรงอันเล็กๆ พลันโบกพัดอยู่บนขั้วหัวใจอย่างแผ่วเบา ในหัวใจเวธัสอ่อนระทวยอย่างไม่รู้ความ

“ครับ ไม่ทราบคุณผู้หญิงที่อยู่ทางด้านหลังของผม คือใครเหรอครับ?”

ปฏิกิริยาตอบกลับของณิชาคือการหยิกแก้มของเขาเล็กน้อย พลันปล่อยมือออก “บ้าแล้ว”

สายตาทางด้านหน้าหลุดจากความมืดมัวมาเป็นความสว่างไสว หางตาเวธัสมองเห็นณิชากำลังยืนเท้าเอว พลันอดใจพูดหยอกเย้าไม่ไหว “ทำไมเมื่อก่อนไม่รู้เลยว่าคุณชอบเล่นละครปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วยล่ะครับ?”

ถึงขั้นพูดว่าเธอปัญญาอ่อน! นี่มันเป็นการสร้างอารมณ์รู้หรือเปล่า?

ณิชาค้อนใส่เขาหนึ่งครั้ง พลันเข็นเขากลับไปยังห้องอาหารทั้งที่รู้สึกโกรธเคือง

นัยน์ตาเวธัสฉายความรู้สึกทะนุถนอมออกมา

เมื่อถึงห้องอาหาร บนโต๊ะได้จัดเตรียมอาหารไว้สมบูรณ์แบบ นอกจากอาหารโภชนาการอย่างเรียบง่ายแล้ว ยังมีอาหารร้อนๆ ที่เพิ่งปลุงเสร็จใหม่ที่ณิชาค่อนข้างชอบวางอยู่จำนวนหนึ่ง

กระทั่งยังมีขนมหวานอย่างเพียบพร้อม ที่ทำให้ณิชามองจนเวียนหัว

เวธัสนั่งอยู่ขวามือของณิชา ทั้งสองนั่งตัวติดกัน และหยิบช้อนส้อมให้เธอ “ได้ข่าวว่าร้านอาหารจีนร้านนี้ทำอาหารอร่อย คุณลองชิมหน่อยว่าอร่อยมั้ย? ถ้าชอบ ผมจะให้โทนี่สั่งร้านนี้ไว้ตลอด”

ณิชาถูดดึงดูดใจจนน้ำลายสอ แถมยังเห็นเต้าฮวยอีกหนึ่งกระปุก

เธอเป็นคนเริ่มต้นก่อน พลันหยิบช้อนตักขึ้นมาหนึ่งช้อนใส่เข้าปาก

เมื่อเข้าปากทั้งลื่นไหลเนียนละเอียด รสชาติต้นตำรับมาก

“อร่อยมากจริงๆ ค่ะ” ณิชาพยักหน้าหงึกหงักออกปากชม พลันตักขึ้นมาอีกช้อน

เวธัสมองเห็นริมฝีปากสีลูกเชอร์รี่งับเต้าฮวยเข้าปากคำแล้วคำเล่า สีปากอันงดงาม ราวกับเป็นการเชื้อเชิญอย่างไร้เสียง พลันเกิดความคิดอยู่ในใจเล็กน้อย เขาเขยิบตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น และไม่พูดพร่ำทำเพลง อ้าปากเป็นมุมโค้งแน่นอนเอาไว้ เหมือนทำที่รอให้เธอป้อนใส่ปากให้เขา

การที่เขาเขยิบเข้ามาใกล้ชิดทันทีทันใด ใบหน้าอันหล่อเหลาขยายใหญ่ขึ้นด้านหน้าของเธอ หัวใจของเธอราวกับถูกกวางตัวน้อยกระแทกชน เพื่อปกปิดความรู้สึกผิดนี้ เธอจึงลุกขึ้นเพื่อไปหยิบจานชามสะอาดมาจัดวางไว้ทางด้านหน้าของเขาอีกชุดอย่างเป็นธรรมชาติมาก

ฝ่ามือใหญ่ของเวธัส ตรึงหัวเข่าของเธอเอาไว้ พลันใช้ดวงตาอันลึกซึ้งจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ

“ผมชอบของที่คุณใช้แล้วมากกว่า”

ณิชาฉุกคิดเมื่อนวานที่เธอป้อนน้ำให้เขาดื่ม เขายกชมว่ารสชาติไม่เลว จนใบหูแดงแจ๋ขึ้นมาทันควัน

เธอไม่สนใจที่เขาหยอกล้อ พลันไปหยิบช้อนส้อมสะอาดด้วยตนเองต่อ และตักขึ้นมาเล็กน้อยบริเวณมุมปากของเขา

เวธัสงับช้อนเอาไว้ตามสถานการณ์ ปลายลิ้นค่อยๆ เลีย เพื่อชิมรสชาติของเต้าฮวย

ณิชาชอบของหวานชนิดนี้มาก และก็อยากได้รับการยอมรับจากเขา พลันกะพริบตาให้เขา “รู้สึกยังไงคะ? อร่อยมั้ย?”

เวธัสไม่ค่อยชอบของหวาน จึงตอบไป “ถ้าเหมือนกับตอนที่คุณป้อนผมเมื่อวาน มันยิ่งอร่อยกว่า”

“…” เป็นบ้าไปแล้ว หยอกล้อเธออีกแล้ว!

แค่กินข้าวเอง ณิชากลับรู้สึกร่างกายถูกแผดเผาไปทั้งตัว

แต่เขาเดินเหินไม่สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านหลังแขนขวาที่มีแผลโดนยิงมา ขนาดยกมือขึ้นก็ยังยากลำบาก เธอจำใจอดกลั้นความเขินอายจนหน้าแดงหูแดงเอาไว้ และป้อนให้เขากินข้าวต่อไป

ช้อนแล้วช้อนเล่า เส้นผมของเธอสะบัดผ่านแก้มของเขา จนเริ่มจักจี้

พอป้อนไปเรื่อย มือซ้ายของเวธัสพลันตรึงช่วงเอวของเธอไว้ทันที พลันโน้มตัวลงเพื่อต้องการจูบปากเธอ แผงอกกำยำอันร้อนรุ่ม แถมยังจงใจพ่นลมหายใจเป่ารดต้นคอของเธออย่างมีเลศนัยอีก

ณิชารับรู้ได้ว่ามีอันตราย พลันคิดว่าโดนเขาหยอกล้อหลายครั้งติดๆ จู่ๆ เธอก็เปลี่ยนท่าทางเดิน พลางจงใจแนบชิดแผงอกของเขา พร้อมทั้งทำจมูกฟุดฟิด เหมือนกำลังดมกลิ่นอะไรบางอย่าง...

จากนั้นเธอก็แหงนหน้าเล็กๆ ออกมาจากแผงอกกำยำของเขา ชะเง้อมองเขาอย่างมีเยื่อใยเต็มเปี่ยม

“เวธัส คุณรู้สึกหรือเปล่าว่าบนตัวคุณมีกลิ่นแปลกๆ?”

ในปากเวธัสที่ยังมีอาหารอยู่ พลันกลืนอาหารช้าๆ ถึงได้พูดอย่างมั่นใจ “แน่นอน บนตัวผมมีกลิ่นผู้ชายเต็มตัว”

“…” ณิชากลอกตามองบนตามปกติ

เวธัสยังคงเอาปลายจมูกถูไถใบหน้าของเธอ

พลันเกิดความรู้สึกลำบากใจขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนั้นต้องโทษคนร้ายพวกนั้น ทำให้เขาทำได้แค่จ้องมองเธออยู่แบบนี้ได้อย่างเดียว ได้แต่ถูไถเธอไป ทำเรื่องอื่นไม่ได้เลย!

“คุณหลงตัวเองให้มันน้อยหน่อย ฉันหมายความว่า คุณไม่ได้อาบน้ำมานานแล้วใช่มั้ย บนตัวถึงมีแต่กลิ่นเหม็นสาบจากเหงื่อ? เหมือนกลิ่นไข่เค็มเลย!” ณิชาเลิกคิ้วงดงามขึ้น พลันแสร้งทำทีรังเกียจรังงอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊