กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 334

เวธัสชำเลืองมองท่าทางปากแข็งแต่ใจอ่อนของเธอ เกิดกระแสน้ำอุ่นไหลพาดผ่านเข้ามาในหัวใจ และเพลิดเพลินความรู้สึกหวงแหนจากความใส่ใจของเธอ

“Ok ครับ ครั้งนี้ผมทำผิดเอง ไม่ควรจะเอาเรื่องนี้มาล้อคุณเล่นเลย แต่ผมก็อยากเห็นท่าทางคุณเขินอายนะครับ ทุกครั้งตอนที่คุณเขินอาย มันทำให้ผมรู้สึกพอใจมากๆ”

ณิชาโดนเขาพูดแต่กลับโมโหหนักกว่าเดิม จึงใช้แรงหยิกลงผ้าขนหนู “ความรู้สึกพอใจของคุณมันกลายเป็นป้อมพื้นฐานในการหยอกล้อฉันเหรอคะ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ” ดวงตาเรียวแคบของเวธัสสบตามองเธออย่างจริงจัง “ผมไม่ได้มีรสนิยมย่ำแย่ขนาดนั้น พูดอีกอย่างก็คือ ผมก็ไม่เคยหยอกล้อผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลย”

ณิชาโยนผ้าขนหนูหนึ่งผืนมาอยู่บนหน้าของเขา พร้อมทั้งพูดเสียงแข็งมะนาวไม่มีน้ำ “เหรอ? งั้นฉันก็ควรจะรู้สึกเป็นเกียรติใช่มั้ย? คุณอาบเองแล้วกัน!”

เวธัสสะบัดผ้าขนหนูออกจากใบหน้า จนเห็นณิชาปิดประตูและเดินหนีออกไป

เสียงประตูห้องน้ำกระแทกจนเกิดเสียงดังลั่น

เวธัส “…”

พอยิ่งคุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อย อารมณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น

แต่เขาชอบ

ไม่นานนัก โทนี่ก็มาเคาะประตูห้องน้ำ แต่เขาไม่กล้าบุกเข้ามาอย่างโจ่งแจ้ง พลันยืนขวางอยู่ตรงหน้าประตู

“คุณเวธัส คุณยังสบายดีมั้ย? คุณณิชาให้ผมเข้ามาดูคุณหน่อย”

“เข้ามาสิ”

เสียงทุ้มต่ำของเวธัสดังขึ้น โทนี่ถึงได้ผลักประตูเข้ามา

ภายในห้องน้ำเหมือนเพิ่งผ่านอะไรมาบ้าง บนพื้นมีน้ำเจิ่งนอง และยังมีครีมอาบน้ำจำนวนหนึ่งและขวดแชมพู ที่ติดอยู่ตรงมุมอ่างอาบน้ำ

เนื่องจากเมื่อครู่เวธัสนั่งรถเข็นอาบน้ำ ดังนั้นบนรถเข็นจึงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำในจำนวนไม่น้อย

พลันฉุกคิดถึงณิชาที่พุ่งเดินออกไปเหมือนโกรธควันออกหู....

โทนี่เป็นห่วงว่าทั้งสองคนคงทะเลาะกันอีกแล้ว แถมยังระมัดระวังมาก ไม่คาดคิดเลยว่ามุมปากเวธัสกลับยิ้มจางๆ ออกมา ราวกับท่าทางอารมณ์ดีเลยแหละ จนเขาถอนหายใจโล่งอกทันที

“คุณเวธัส เดี๋ยวผมเข็นคุณออกไปนะ”

เวธัสตอบรับเสียงพึมพำอย่างเบาเสียง แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเลย

……

ถึงแม้ชาลีจะอยู่ในประเทศ แต่กลับสนใจความเคลื่อนไหวที่ประเทศฝรั่งเศสในเวลานี้

เขาเปิดวิดิโอคอลหาเวธัส เมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถเข็น พลันหัวเราะร่าและพูดอย่างอดเสียไม่ได้

เวธัสค้อนให้เขาอย่างเย็นชา “แกลองหัวเราะอีกครั้งสิ?”

“OK” ชาลีทำท่ารูดซิปที่ปาก พลันมีพลังงานเพิ่มเป็นเท่าตัว “แต่ฉันก็ยกนิ้วให้แกเลย ไปตามเมีย จนจะเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว น้ำที่เข้าไปสมองแกนในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นเลือดที่ไหลเวียนบนตัวแก”

ระยะนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนสภาพอากาศ คุณย่าศิริจันทร์ไม่สู้ดีนัก ชาลีต้องคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายตลอดเวลา

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไปรู้เรื่องราวความพลิกผันระหว่างเวธัสกับณิชานะ

เขาหลุดโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง บางทีเวธัสมี EQ สูงมาก แต่เมื่อเจอกับความรัก พริบตาเดียวก็เป็นเด็กอนุบาลไปเสียนี่

ไม่สิ ไม่ถูก อายุน้อยกว่าเด็กอนุบาลเสียอีก แถมยังอายุน้อยกว่าน้องอรัลอีกรุ่นหนึ่งเลย

โทนี่ชำเลืองมองสีหน้าเวธัสที่ยิ่งหม่นหมองลงเรื่อย พลันพูดแทรกทันที “คุณชาลี คุณพูดเรื่องหลักเถอะ ตอนนี้ทางตระกูลสถานนท์กับตระกูลรังสิกุลเริ่มเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?”

“ยังจะมีความเคลื่อนไหวอะไร?” ชาลีลากโทนเสียงยาว “ตระกูลสถานนท์ก็ต้องร้อนใจจนเป็นบ้าไปแล้ว กันญ่าลูกสาวสุดที่รักนี่ แต่ดูเหมือนทางตระกูลรังสิกุลจะไม่เห็นหัวเตชินท์เลยวะ”

ชลิดาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีอำนาจอยู่ในมือตระกูลรังสิกุลในเวลานี้

ตราบใดที่ชลิดาไม่ไปก่อเรื่อง คนอื่นจะเป็นไปไง ต้นตระกูลรังสิกุลก็ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง

เวธัสจิบช้าอุ่นๆ เข้าปากอย่างเชื่องช้า

การที่ต้องส่งตัวเตชินท์และกันญ่าเข้าคุกเข้าตาราง ก็แค่อยากจะเล่นสนุกกับพวกเขาอย่างช้าๆ ...

“ช่วยจับตามองพวกเขาแทนฉันที มีความเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติมค่อยมาบอกกับฉันด้วย”

“จับพลัดจับผลูจนเป็นมิตรสหายกันจริงๆ แกใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับลูกเมียอย่างมีความสุข ฉันเนี่ยโดดเดี่ยวคนเดียว แถมยังทำงานแทนแก เงินเดือนก็ไม่ฉันสักบาท!” ชาลีพูดด้วยท่าทางโกรธเคือง พลันส่ายหน้าไปมา

เวธัสกลอกตาบนให้เขา เมื่อครุ่นคิดสักพัก จึงเอ่ยถาม “ได้ข่าวว่าบ้านพักวิลล่าส่วนตัวหลังใหม่ที่แกเพิ่งซื้อโดนคุณย่าศิริจันทร์ไปค้นเจอที่อยู่เข้าเหรอวะ?”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ชาลีกองไฟสุมทรวง คุณย่าศิริจันทร์บีบให้เขาไปดูตัว เขาไม่สามารถบอกปัดจึงซ่อนตัวไว้ จงใจทุ่มเงินซื้อบ้านพักที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก

ใครจะไปรู้เพิ่งเข้าไปพักได้ไม่ถึงสามวัน คุณย่าก็บุกมาถึงหน้าประตูบ้าน!

“ถ้ากูรู้ว่าไอ้หมาตัวไหนมันเอาเรื่องไปแพร่งพราย กูจะจับมันถลกหนังทันที!”

“แค่ก...” โทนี่อดใจไม่ไหว พลันกระแอมออกมา

คล้ายว่าเรื่องนี้คุณเวธัสให้เขาเป็นคนเปิดเผยออกไป

ชาลีชำเลืองมองโทนี่แสดงความรู้สึกผิดออกมา พลันหัวเราะร่า “คงจะไม่ใช่พวกแกสองตัวทำเรื่องบ้าบอนี้ใช่มั้ย?”

เวธัสไม่รู้สึกผิดสักนิด แถมยังนิ่งจิบชาอย่างสง่างาม “ฉันซื้อบ้านพักสองหลังมาใหม่ที่เกาลูนเบย์ กุญแจอยู่ที่ทีปกร แกไปเอากุญแจบ้านหลังหนึ่งจากเขาได้เลย”

“เกาลูนเบย์?” ชาลีดวงตาเปล่งประกาย ตรงนั้นมันโอบล้อมด้วยภูเขาและลำธารน้ำไหล แถมยังติดน้ำพุร้อนอีก เป็นสถานที่ที่ดีและหาได้ยากมาก แกเต็มใจเหรอวะ?”

“ไม่อยากได้ก็ทำเหมือนว่าฉันไม่ได้พูดถึงแล้วกัน”

“ได้สิ่งของเล็กๆ น้อยจากตัวแกมันยากกว่าปีนขึ้นบนท้องฟ้าเสียอีก ทำไมฉันจะไม่เอาวะ? ต้องเอาสิ! ตอนบ่ายฉันจะไปเอากุญแจกับทีปกรเลย...”

เวธัสพูดต่ออย่างสง่างาม “ช่วยเก็บกวาดบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกันด้วย เดี๋ยวฉันกลับไปจะพาณิชาและเด็กสองคนไปพักผ่อน”

“…เวร ฉันก็รู้ว่าแกไม่ได้ใจดีขนาดนี้!”

ใช้แรงงานเขาฟรีเพื่อทำความสะอาดบ้านของเขาว่างั้น

……

พริบตาเดียว เวลาผ่านพ้นไปหลายวัน

อาการบาดเจ็บของเวธัสยังไม่หายดีนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรมากนัก

หมอได้อนุมัติให้เขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้

ทันใดนั้นท่านประเสริฐก็ปรากฏตัวด้านหน้าของเขาราวกับวิญญาณ ซึ่งแสดงความหมายได้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อต้องการพาเวธัสกลับประเทศ

เวธัสควรประเทศได้แล้วจริงๆ การที่อ้อยอิ่งอยู่ประเทศฝรั่งเศส ก็เพื่อณิชา

ณิชาก็อยากกลับประเทศจริงๆ เดิมทีเธอมายังต่างบ้านต่างเมือง ก็เพื่อจะหลบเลี่งการไล่ตามจากเวธัส

ซึ่งในเวลานี้ลูกทั้งสองคนก็อยู่ในประเทศ แล้วเธอจะอยู่ที่ฝรั่งเศสได้อย่างไรกัน?

ช่างบังเอิญตรงที่ Williamไม่รู้ว่าไปได้ข่าวมาจากไหน จึงค้นพบว่าณิชาเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จึงมาหาเธอ

โรงอาหารชั้นล่างของโรงพยาบาล Williamนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของณิชา มีความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม

“คุณณิชาครับ คุณไม่ลองคิดความร่วมมือของเราก่อนหน้านี้จริงๆ เหรอครับ?”

ณิชาประเมินWilliam พลันก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก “เวธัสไม่น่าจะฟังฉันค่ะ คุณอย่าคิดอีกเลย”

“เรื่องมันขึ้นอยู่ที่คนครับ บริษัทของเราในเวลานี้ประสบปัญหาหนักมากจากการเปิดตลาดทางตะวันออก เวลานี้จำเป็นต้องเปิดตลาดให้ได้จริงๆ ครับ!”

Williamนำคำสั่งของเจ้านายมาด้วย จึงไม่ยอมล่าถอยเพียงเพราะคำพูดของณิชาไม่กี่คำตามธรรมชาติ

“งั้นคุณเคยคิดหรือเปล่าคะ บางทีคนที่รับผิดชอบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอาจจะผิดพลาดก็ได้นะ?” ณิชาขยิบตาให้เขา

William ตะลึงทันที “เป็นไปไม่ได้ครับ พวกเราเปลี่ยนคนไปแล้วสามกลุ่ม ทุกกลุ่มมีประสิทธิภาพไม่ดีเลย”

วีเอสเอ กรุ๊ปอยู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระดับไฮเอนด์ น่าจะมีศักยภาพมากมายในโซนตะวันออก แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับล้มเหลวหลายครั้ง

ทางเจ้าของกิจการจวนจะยกเลิกภูมิภาคแถบนี้ไปแล้ว...

เมื่อณิชาได้ยินถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็เกิดความสนใจขึ้นมา พลันเพ่งมองWilliamอย่างจริงจัง “ให้โอกาสฉันสักครั้งได้มั้ยคะ?”

Williamไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร จึงจ้องมองเธอ ราวกับกำลังตั้งตารอฟังประโยคท้ายของเธอ

สมองของณิชาฉายความคิดบ้าคลั่งขึ้นมา--

“คุณยกตลาดภูมิภาคตะวันออกให้ฉันรับผิดชอบ ฉันเข้าใจความต้องการของพวกเขามากกว่าคุณ บางทีไม่แน่นี่อาจเป็นการพลิกโอกาสก็ได้นะคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊