กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 336

ณิชารู้สึกงงเล็กน้อย

“มีอะไรที่ไม่ได้บอกเธอ?”

อลิสาแสดงสีหน้าราวกับกำลังบอกเธอว่าเลิกแสร้งเป็นไม่รู้ได้แล้ว เธอหยิบเอกสารจากด้านหลังออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ

“คุณWilliam บอกว่าทางบริษัทย้ายเธอกลับมาที่เมืองพร และให้เธอเป็นผู้อำนวยฝ่ายการออกแบบของสาขาย่อย และให้ฉันเป็นผู้ช่วยของเธอด้วย! นี่เธอเห็นฉันเป็นเพื่อนบ้างไหม? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ฉันกลับเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้..”

ณิชามองดูเอกสารบนโต๊ะ มันเป็นเอกสารคำสั่งย้ายงานของอลิสา

“ฉันไม่ได้จะปิดบังเธอ แต่ฉันยังไม่ทันได้…เดี๋ยวก่อน Williamให้เธอกลับไปหาเมืองพรพร้อมกับฉัน? ฉันช่วยเธอตอบกลับเขาเอง”

“อย่า!” อลิสารีบวิ่งไปห้ามณิชาไม่ให้โทรออก และเงยหน้าขึ้น “มีโอกาสที่ดีที่จะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด แน่นอนว่าฉันยินดีที่จะกลับไปอยู่แล้ว”

“เธอตั้งใจที่จะทำงานในฝรั่งเศสไม่ใช่หรอ?”

“ขอร้องเหอะ ที่นี่มีแต่การแบ่งแยก อีกอย่างฉันก็คิดถึงบ้านมากๆ ก่อนหน้านี้ฉันแค่ปากแข็งน่ะ เอาแต่สนใจกับเงินเดือนที่นี่” อลิสายิ้มให้ณิชา แล้วกอดไหล่เธอไว้ จากนั้นก็ขยิบตาให้เธอ “ต่อไปนี้ฉันคงพึ่งเธอให้คอยดูแลฉันแล้วแหละ!”

ณิชายิ้มกลับ แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเหมือนอลิสา

เห็นได้ชัดว่า Williamกำลังเอาอลิสามาผูกกับเรือที่ยังไม่รู้ทิศทางอย่างเธอ...

ปีหน้าหากผลงานในไตรมาสแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พวกเธอทั้งคู่ก็คงต้องถูกไล่ออก จู่ๆ ก็รู้สึกว่าภาระบนบ่าของเธอนั้นหนักกว่าเดิมเยอะมาก

……

หลังจากการบินกว่าสิบสองชั่วโมง ขณะที่เครื่องบินลงจอดบนพื้น ณิชาได้กลับมาที่เมืองพรอีกครั้ง

ในตอนที่เธอจากเมืองนี้ไปคือช่วงกลางฤดูร้อน ในตอนที่เธอกลับมาก็อยู่ในช่วงฤดูหนาวแล้ว

ณิชายืนอยู่ที่สนามบินและคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอถึงได้เดินลากกระเป๋าเดินทางจากไปพร้อมกับอลิสา

อลิสามีคนในครอบครัวมารับเธอ และคนขับรถโดยเฉพาะด้วย ดูเหมือนว่าครอบครัวของเธอจะมีฐานะดี

สิ่งนี้ทำให้ณิชาประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อก่อนเธอไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมาก่อนเลย

อลิสามองไปรอบๆ สนามบิน และพูดบึนปากพูดว่า “เฮ้ย คุณเวธัสไม่ได้เตรียมรถมารับเธอหรอ”

ณิชากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็สั่น

เธอเหลือบมองข้อความที่ส่งเข้ามาใหม่ และมีเพียงแค่คำสามคำง่ายๆ

“หันหลังมา”

ณิชาหันหลังกลับไป เธอเห็นรถ Spyker สีดำเป็นไฟฉุกเฉินอยู่ที่ลานจอดรถตรงข้าม

อลิสาก็เห็นรถคันนั้นเช่นกัน เธอหันไปหัวเราะอย่างชั่วร้ายกับเธอ “ฉันก็ว่า คุณเวธัสจะไม่มารับเธอได้ยังไง”

ณิชาตอบแค่เหอะ เธอไม่ค่อยอยากจะขึ้นรถของเขา

อลิสาดันเธอไปทางที่เวธัสยืนอยู่ทันที

ณิชาถูกบังคับให้ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปหาเขา

เวธัสลงจากรถ พร้อมกับรูปร่างที่สูงโปร่ง ภายใต้แสงอาทิตย์ในยามเช้า เขายื่นมือมารับถือกระเป๋าของเธอด้วยมือข้างเดียว

ณิชามองสำรวจไปที่เขาด้วยท่าทีที่สงสัย การออกจากโรงพยาบาลไม่ได้หมายความว่าเขาหายดีแล้ว การที่เขาออกมาแบบนี้ มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

เวธัสเอากระเป๋าเดินทางไปไว้ข้างหลังรถ เมื่อหันกลับมาเขาก็เห็นณิชาจ้องมองมาที่เขา

“นั่งเครื่องบินมานานมากแล้ว หิวไหม?” คำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใย

ณิชามองไปทางอื่น เห็นแก่ที่เขาทำตัวดีกับเธอ เธอจะไม่เอาเรื่องเขาแล้วกัน

“แน่นอนว่าหิวอยู่แล้ว ฉันไม่ชินกับอาหารบนเครื่อง แต่โชคดีที่ฉันไม่เมาเครื่องบิน มีป้าคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ฉัน เธออาเจียนทันทีที่ขึ้นเครื่องบิน ดูแล้วคงจะทรมานมาก”

“งั้นเดี๋ยวผมจะพาคุณไปกินอาหารเช้า”

เขาจับมือเธอ และเปิดประตูรถข้างคนขับให้เธอ

ณิชามีความสุขกับการดูแลของเขามากๆ เธอก้มลงนั่งเข้าไปในรถ

ตอนที่เวธัสเดินไปที่นั่งคนขับเพื่อขับรถ เขาได้กวาดสายตามองไปยังอลิสาที่กำลังจะขึ้นรถโดยไม่ได้ตั้งใจ

เลขทะเบียนรถที่มารับอลิสา เขาเคยเห็นในงานประมูลหนึ่งมาก่อน

สุดท้ายตระกูลสมรัตก็ได้ซื้อไป

……

เวธัสพาณิชาไปยังร้านอาหารเช้าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

เขาได้จองสถานที่และอาหารไว้ล่วงหน้าแล้ว

มีทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก แต่ณิชาคงจะชอบอาหารจีนมากกว่า เธอจึงเลือกเค้กไข่ธรรมดาและโจ๊ก

“คุณไม่กินเหรอ?”

ณิชาเห็นว่าเวธัสเอาแต่จ้องเธอกิน เธอจับไปที่เมล็ดข้าวตรงมุมปาก

เวธัสค่อยๆ จิบชาช้าๆ “ผมคิดถึงช่วงเวลาที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล”

หลังจากได้ยินณิชารู้สึกแปลกๆ เธอเงยหน้าขึ้นจากชามโจ๊ก “ทำไม?”

ดวงตาของเวธัสค่อยๆ ขยับจากใบหน้าของเธอไปยังริมฝีปากของเธอ มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มที่อธิบายไม่ถูก

รอยยิ้มนั้นช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกิน

จู่ๆ ณิชาก็นึกถึงภาพที่เธอป้อนน้ำและป้อนข้าวให้เขาอย่างล่อแหลม แก้มของเธอก็แดงขึ้นมาทันที

“หน้าไม่อาย!” เธอพูดพลางกินเค้กไข่

เวธัสเลิกคิ้ว สีหน้าของเขากลับไปเฉยเมยตามปกติ “ในเมื่อคุณตัดสินผมแล้ว ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย มันจะทำให้คุณเสียหน้าได้นะ?”

สัญชาตญาณของณิชาบอกว่าอันตราย แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ เธอก็เห็นชายผู้นั้นยื่นแขนที่ยาวของเขาออกมา ก่อนจะคว้าเค้กไข่จากมือของเธอไป

เขาจงใจกัดตำแหน่งที่เธอกัดไปแล้วอีกครั้ง

ปากของเขาใหญ่กว่าเธอ ซึ่งมันปกคลุมรอยกัดของเธอจนหมด

ใบหน้าของณิชาแดงมากๆ

……

เด็กทั้งสองยังคงอยู่ในคฤหาสน์สนธิไชย และณิชาก็ยังไม่สามารถเจอพวกเขาได้ทันที

เธอไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมสิดาเป็นเวลานานแล้ว สถานที่แรกที่เธอไปก็คือหมู่บ้านออเรนจ์

เวธัสก็ไม่มีเหตุผลที่จะห้ามเธอ ดังนั้นเขาจึงไปส่งเธอที่ชั้นล่างของหมู่บ้าน

“ให้ผมช่วยเอาขึ้นไปไหม?” เวธัสลากกระเป๋าเดินทางออกมา

ณิชารับกระเป๋าเดินทางไว้ ในกระเป๋าเธอไม่ได้มีของเยอะมาก เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันยกขึ้นไปเองได้ คุณรีบไปรับพวกลูกๆ มาที่นี่นะ เมื่อคืนฉันฝันว่าพวกเขากำลังร้องเรียกฉัน...”

ตั้งแต่อยู่ในรถเมื่อครู่นี้ เธอพูดถึงลูกๆ ทั้งสองมาโดยตลอด

ใบหน้าที่หล่อเหลาของเวธัสครึมขึ้นเล็กน้อย “ผมไม่เห็นเคยได้ยินคุณพูดว่า คุณฝันถึงผมเลย”

“ขนาดเป็นลูกๆ ก็ยังจะหึงอีกเหรอ” ณิชามองที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เวธัสรู้ตัวว่าการกระทำของเขาดูเด็กเกินไป ดังนั้นเขาจึงก้มศีรษะและจูบลงบนริมฝีปากของเธอ ก่อนจะกัดริมฝีปากล่างของเธอเพื่อแก้แค้น และดึงมันออกมา

“คุณนี่ทรมานคนอื่นเก่งจริงๆ เมื่อไหร่คุณจะไปจดทะเบียนสมรสกับผม”

“รอให้งานของฉันมั่นคงกว่านี้ได้ไหม” ณิชาเริ่มแกล้งทำเป็นซื่อบื้อ ตอนนี้เขาไม่ได้แย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกจากเธออีกต่อไป

แล้วจำเป็นต้องรีบลากเธอกลับไปยังหลุมดำของตระกูลสนธิไชยเร็วขนาดนี้เลยหรอ?

ใบหน้าที่อ่อนโยนในตอนแรกของเวธัสเปลี่ยนเป็นสีหน้าอึมครึมในทันที “ผมไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูด พูดอีกครั้งสิ”

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาป่วย เขาคงลากเธอไปลาสเวกัสนานแล้ว

กันญ่าคงบ้าไปแล้วเพราะเอาแต่ตามรังควานเขา เธออยากเป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชยของเขา

เธอนี่หน้าไม่อายเลยจริงๆ!

“ฮ่า วันนี้แดดดีจริงๆ คุณต้องโชคดีมากแน่ๆ ฉันกลับบ้านก่อนนะ แม่ฉันต้องคิดถึงฉันมากแน่ๆ” ณิชามองใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา เขาเตรียมเนคไทให้เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะออกไปอย่างเงียบๆ

หลังจากลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในลิฟต์ เธอเพิ่งนึกได้ว่าบาดแผลที่แขนขวาของเขายังไม่หายดี

เธอจึงส่งข้อความไปหาเขาอีกข้อความ...

“ขับรถระวังด้วยนะ ถ้ารู้สึกไม่สบาย ให้โทรเรียกคนขับรถหรือให้เอกมารับคุณ”

……

กันญ่าและเตชินท์ถูกนำตัวกลับมายังประเทศเพื่อพิจารณาคดีต่อ แต่สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่ณิชาคาดไว้

ตอนแรกที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงพยาบาล เตชินท์คงเกลียดกันญ่ามากๆ และตั้งใจว่าโยนความผิดต่างๆ ให้กันญ่า

ไม่รู้ว่าทั้งสองได้ตกลงอะไรกันไว้ สุดท้ายเตชินท์ยอมรับผิดทั้งหมด...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊