กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 337

มากสุดกันญ่าก็ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

ในตอนที่ณิชาได้ยินการรายงานข่าว เธอกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่

เธอไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลานานแล้ว สิดาก็ไม่ได้ทำอาหารบ่อย มีบางมุมของห้องครัวที่ยังจำเป็นต้องทำความสะอาด

หลังจากทิ้งขยะในครัวแล้ว ณิชาก็ได้ยินรายงานข่าวทางทีวีเกี่ยวกับคดีของกันญ่าและเตชินท์

ในข่าวระบุว่ากันญ่าและเตชินท์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปที่สถานีตำรวจ

ทั้งสองคนลงจากเครื่องบินที่เดินทางมาไกล ใบหน้าพวกเขาดูเหนื่อยล้ามาก

โดยเฉพาะกันญ่า ในดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอเบ้า เหมือนจะไหลลงมาตลอดเวลา แต่เธอแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ท่าทางเธอก็ดูงดงาม ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าเธอโดนใส่ร้ายหรือเปล่า

เตชินท์ดูโทรมกว่าเดิมมาก

หนวดเครารกรุงรัง นัยน์ตาของเขาก็ไม่เป็นประกายเลย เขาเดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเหมือนกับเครื่องกล

นักข่าวกลุ่มหนึ่งที่ได้ข่าวมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ รีบไปล้อมพวกเขาไว้

เพราะนี่คือเรื่องซุบซิบของสองตระกูลผู้มั่งคั่งในเมืองพร

“คุณกันญ่า คุณโดนคุณเวธัสปฏิเสธกลางงานแต่งงาน เพราะก่อนหน้านี้คุณเวธัสจับได้หลายครั้งว่าคุณไปนอนกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม เขารู้ว่าคุณนอกใจเขา”

“ครั้งนี้ทางตำรวจจับกุมคุณในข้อหาฆาตกรรม ได้ยินมาว่าเป็นการเจตนาฆ่า...

“แม้ว่าคุณเวธัสจะยกเลิกงานแต่งงานกับคุณ แต่ตระกูลสถานนท์ก็ได้รับผลประโยชน์มากมายจากตระกูลสนธิไชย สุดท้ายแล้วตระกูลที่เสียเปรียบก็คือตระกูลสนธิไชย…”

“มีคนว่าคุณกันญ่าเป็นผู้หญิงที่อำมหิตที่สุด คุณมีความคิดเห็นกับคำพูดนี้ยังไงคะ”

“คุณกันญ่า ช่วยตอบหน่อยค่ะ...”

เสียงแฟลชดังอย่างต่อเนื่อง แสงแฟลชก็กระพริบไม่หยุด

กันญ่าไม่คิดว่าจะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แววตาของเธอดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อต้องเผชิญกับคำถามที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ของนักข่าว น้ำเสียงของเธอก็สั่นเล็กน้อย

“คุณเป็นนักข่าวจากสำนักไหน? อย่าพูดจาไร้สาระถ้าไม่มีหลักฐาน! ฉันไม่ได้ทำ เรื่องพวกนี้เตชินท์เป็นคนทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ตัวเขาเองก็ยอมรับหมดแล้ว... "

เมื่อนักข่าวได้ยินคำพูดของกันญ่า พวกเขาก็ยื่นไมค์ไปทางเตชินท์อย่างรวดเร็ว

“คุณเตชินท์ สิ่งที่คุณกันญ่าพูดจริงมั้ยคะ? คุณคือฆาตกรตัวจริงที่วางยาพิษคุณเวธัสใช่หรือไม่”

“มีข่าวลือว่าคุณกับคุณกันญ่าเป็นเพื่อนกัน และคุณก็แอบชอบคุณกันญ่ามาโดยตลอด นั่นเป็นเหตุผลที่คุณรับผิดแทนเธอหรือเปล่า”

“คุณเตชินท์ มีคนแจ้งข่าวว่าคุณเชิญสูตินรีแพทย์ไปที่บ้านตอนดึก คุณกันญ่าตั้งท้องลูกคุณหรือเปล่า กี่เดือนแล้ว คุณเวธัสรู้เรื่องนี้ไหม”

ใบหน้าของกันญ่าซีดมากกว่าเดิม แม้แต่นักข่าวก็รู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ!

เป็นไปได้ยังไง?

เธอเก็บเป็นความลับอย่างดี...

ณิชาเหรอ? ณิชาตั้งใจให้นักข่าวมาเพื่อทำให้เธอดูแย่?

กันญ่ามองไปรอบๆ ดวงตาของเธอเคร่งขรึมมาก สีหน้าเธอก็ดูประหม่า

ดวงตาของเตชินท์มองผ่านไปที่หน้าท้องของกันญ่า เขาหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปข้างหน้ากันญ่าอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อกันคำพูดของนักข่าวให้เธอ

“กันญ่าพูดชัดเจนแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง!”

“อะไรนะ นี่คุณยอมรับจริงๆ เหรอ?”

“หากเป็นแบบนี้โทษสูงสุดคือประหารชีวิตเลยนะ!”

“คุณเตชินท์ คุณอย่าให้คนอื่นหลอกใช้เลย...”

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นเสียงโห่ร้องของทุกคน อดทนไม่ไหวจริงๆ จึงผลักนักข่าวที่อยู่ตรงกลางให้หลีกทาง

กันญ่าและเตชินท์ตรงไปที่สถานีตำรวจ

กันญ่าจับมือของเตชินท์ไว้ด้วยความกังวลใจ เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก

“เต เป็นความผิดของฉันเอง คุณต้องช่วยฉันนะ เราจะปล่อยให้ลูกของเราคลอดในคุกไม่ได้ ไม่ต้องห่วง เมื่อฉันออกไป ฉันจะหาทนายที่เก่งที่สุดมาสู้คดีเพื่อคุณอย่างแน่นอน และคุณจะต้องปลอดภัย……”

เตชินท์สะบัดมือของเธอออกไปอย่างเย็นชา “คุณควรจำสิ่งที่คุณเคยสัญญากับผมไว้”

“ฉันจำได้ ฉันจะให้ลูกใช้ชื่อรังสิกุล และเป็นทายาทของตระกูลรังสิกุล…”

……

ณิชาใช้มือข้างหนึ่งจับไม้ถูพื้นไว้ ตรงเอวเธอมีผ้ากันเปื้อนพันเอาไว้

สายตาเธอจับจ้องไปที่ทีวี

ช่องนี้เป็นรายการข่าวสดที่เปิดจัดโดยบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ชาลีอยากจะทำให้ชื่อเสียงของทั้งสองคนพังทลาย แต่เขาคิดไม่ถึงว่ากันญ่าจะโยนความผิดทั้งหมดให้เตชินท์!

สมองของเตชินท์มีปัญหาเหรอ?

แบกรับความผิดที่หนักหนาสาหัสแบบนี้ อีกทั้งได้รับความกดดันของตระกูลสนธิไชย อย่างน้อยเขาก็น่าจะจำคุก 10 กว่าปี...

……

ตอนกลางคืน คฤหาสน์ตระกูลสนธิไชย

ผู้เฒ่าคนหนึ่งและเด็กสองคนนั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหาร โดยมีลุงพรดูแลอยู่ด้านข้าง และเวธัสไม่ได้อยู่ที่นี่

เด็กน้อยสองคนรู้สึกโกรธมากที่จู่ๆ ก็ถูกจับกลับมาที่เมืองพร

ระหว่างนั้นก็โวยวายหนักมาก บอกว่าจะออกไป

แต่คฤหาสน์ถูกสร้างขึ้นที่บริเวณชานเมือง และมีสนามหญ้าอยู่รอบข้าง ทางเข้าหลักก็มีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ แม้แต่แมลงวันตัวหนึ่งก็ไม่สามารถบินออกไปได้ นับประสาอะไรกับคนสองคนที่ตัวโตขนาดนี้

ปัณณ์บอกว่าจะแกล้งป่วย...

แต่เพราะว่าท่านประเสริฐอายุเยอะมากแล้ว ดังนั้นในคฤหาสน์จึงมีหมอประจำอยู่!

ตรงด้านหน้าเป็นกำแพงทองแดง เด็กน้อยทั้งสองไม่สามารถทำอะไรได้เลย และพวกเขาก็ต้องยอมแพ้

เวลาอรัลอารมณ์เสียเขาก็เป็นเด็กดีมาก เขาขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่พูดไม่กินอะไรเลย

ชายชราพูดขู่ทันที บอกว่ารอให้เขาหิวจนสลบไปก็จะฉีดยาบำรุงให้ ยังไงก็ไม่ตายหรอก

อรัลหมดคำจะพูด “...”

ปัณณ์ก็เอากับเขาด้วย

เขาเองก็โกรธมากๆ และพลังทำลายล้างของเขาก็แข็งแกร่งมาก

เดี๋ยวก็ทุบแจกันโบราณของชายชราทิ้ง เดี๋ยวก็ทำให้ภาพวาดตัวอักษรของชายชราเปื้อน หรือไม่ก็เผาภาพวาดตัวอักษรที่หวงแหนของชายชราทิ้ง...

ชายชราโกรธมากๆ ลุงพรต้องรู้สึกตกใจในทุกๆ วัน จนต้องขอให้แพทย์มาวัดความดันโลหิตของเขาถึงสามครั้ง

คืนนี้ ลุงพรบอกเด็กน้อยทั้งสองคนว่า เวธัสกลับมาในประเทศแล้ว เด็กๆ ก็นั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารอย่างเชื่อฟัง...

ชายชราขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทั้งสองไม่ยอมกินผักเลย

เขาคีบผักให้เด็กน้อยทั้งสองคน

“เด็กห้ามเลือกกิน หนีออกไปตั้งหลายเดือน ณิชาสอนพวกหนูแบบนี้เหรอ รีบๆ กิน ถ้าไม่กินผักจะไม่โตนะ!”

ตอนแรกปัณณ์เห็นว่าปีศาจกษัตริย์แก่เป็นผู้อาวุโส แม้ว่าเขาจะไม่อยากกินผักจริงๆ แต่จะทำให้เขาเสียน้ำใจไม่ได้

ขณะที่เขากำลังจะเอาผักเข้าปาก เขาก็ได้ยินคำพูดที่ชายชราตำหนิณิชา...

เขากลอกตา ก่อนจะเอาผักกลับไปไว้ในชามของชายชรา

เขาเลิกคิ้วขึ้นส่งยั่วยุชายชรา

“หม่ามี๊สอนพวกผมเยอะมากๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแรกคือ อย่ากินน้ำลายของคนอื่น”

ชะงักไปครู่หนึ่ง เขานึกได้ว่าหม่ามี๊มักจะหอมแก้มปีศาจกษัตริย์บ่อยๆ

ก่อนจะพูดเสริมไปอีกว่า “ยกเว้นภรรยาในอนาคตของผม”

“…” ลุงพรอดหัวเราะไม่ได้

อายุน้อยขนาดนี้ก็รู้แล้วเหรอว่าอะไรคือภรรยา?

เมื่อเห็นรอยยิ้มของลุงพร ประเสริฐก็มองเขาอย่างเย็นชา และใบหน้าของเขาก็มืดมน

เขาอุตส่าห์คีบอาหารให้เขาด้วยความหวังดี แต่ปัณณ์กลับไม่เห็นคุณค่าเลยเหรอ?

ดูก็รู้ว่าเป็นเพระาณิชาเลี้ยงเขาให้หยิ่งผยองแบบนี้

“คุณปู่ทวด เราจะกลับไปที่คฤหาสน์สนธิไชยเมื่อไหร่ครับ?” อรัลสังเกตใบหน้าของประเสริฐ และเป็นคนชวนเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา

“ทำไม พวกหนูไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนี้เหรอ?” ประเสริฐจ้องไปที่ผักในชามด้วยความหงุดหงิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊