น้ำตาลที่กำลังพูดด่าอยู่เงียบไปเลย “เธอรู้จักณิชาเหรอ?”
“พ่อของเธอชื่อสุขุมใช่ไหม?” จู่ ๆ ก้อยก็กำมือแน่น พร้อมกับทำสีหน้าโมโห
น้ำตาลเลิกคิ้วขึ้นสูง “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?”
“เป็นสองพ่อลูกนั่นจริง ๆ ! พ่อของเธอแย่งแม่ของฉันไป ฉันเกลียดพวกมัน!” ก้อยที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับณิชา พอพูดถึงชื่อของสุขุม เธอก็แสดงอาการเกลียดชังออกมา
ทำให้น้ำตาลรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมาทันที……
……
ใกล้เวลาเลิกงานในตอนเย็นของวันศุกร์แล้ว ณิชาก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากทางDS Groupเลย
น้ำเพชรได้ยินเรื่องราว ก็เอามือปิดปากแอบหัวเราะคิกคัก ร่างเล็กของเธอก็สั่น และหัวหน้ากับผู้บริหารทุกคนที่ขี้ประจบสอพลอเหมือนเธอก็ต่างพากันมองมาที่เธอ และถามว่าเรื่องอะไรทำให้ขำขนาดนั้น
น้ำเพชรเล่าสภาพที่ณิชาต้องทนรอการตอบกลับจากทางDS Groupอย่างใส่สีตีไข่ให้ทุกคนฟัง
ทันใดนั้น ทุกคนก็หัวเราะกันออกมา
พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ทางDS Groupยอมรับณิชา แต่ณิชาก็ได้ไปนัดเจอกับกองทัพมาแล้วด้วย เธอไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?
เสียงหัวเราะของทุกคน ดังไปถึงห้องทำงานของณิชา
“หัวเราะกันอยู่ได้ ไม่รู้ว่าลมบ้าหมูจะมีเสียงหัวเราะแบบเดียวกับพวกเขาไหมนะ?” อลิสาจ้องห้องทำงานของรองผู้บริหารน้ำเพชรที่อยู่ข้าง ๆ อย่างหงุดหงิด
“ปากก็ปากพวกเขา อยากจะหัวเราะยังไงก็ช่างเขาเถอะ” ณิชาตบบ่าอลิสาเบา ๆ “เอกสารที่ฉันให้เธอจัดการเมื่อวานเรียบร้อยหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้ว ฉันจะส่งให้เดี๋ยวนี้เลย” อลิสาพูด แล้วจู่ ๆ ก็มองไปที่ณิชาอย่างคาดคั้น “จะว่าไป เธอกับเวธัสก็ไปจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อไรจะจัดงานแต่งล่ะ?”
ณิชาคิดไม่ถึงว่าอลิสาจะเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวขนาดนี้ เธอส่ายหัวไปมา
“ฉันเองก็ไม่รู้ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติก็แล้วกัน”
“ฉันล่ะอยากให้มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานแต่งของเธอกับเวธัสจริง ๆ พอถึงตอนนั้น พวกคนที่นั่งหัวเราะกันอยู่ตอนี้ ก็คงจะเสียใจมากจนลำไส้ช้ำในไปเลย มีแม่พระมาโปรดแต่ไม่รู้จักมาทำดีด้วย กลับไปเข้าข้างผู้หญิงอย่างน้ำเพชร……”
“ตื่นก่อน เธอต้องตั้งสติได้แล้ว”
“ฉันพูดจากใจนะ!” อลิสาเบ้ปากไปมา และจัดการงานทั้งหมดกับณิชาจนเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะกลับ อลิสาเอาสมุดที่เธอเพิ่งวาดมาใหม่ให้ณิชาดู
ณิชาแกล้งทำท่าทียืดยาด และไม่ยอมดูสมุดของเธอ
สามีของเธอจะไปคบกับชาลี แค่คิดก็รู้สึกว่าบ้ามาก
อลิสาทำหน้ายิ้มร้ายและยัดสมุดภาพใส่ในกระเป๋าของณิชา “เอากลับไปชื่นชมที่บ้านนะ ฉันตั้งใจเอาไปเข้าเล่มมาให้เลย แต่ว่าเธอห้ามให้เวธัสเห็นเด็ดขาด ถ้าเขามาเอาเรื่องฉัน ฉันก็จะบอกไปว่าเธอเป็นคนสั่งให้ฉันวาด”
“...ถ้าจะบอกก็บอกไปว่าเจนนี่ให้วาดสิ!”
ยัยคนหื่นหนีไปอยู่ที่อเมริกาก็ตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
……
เวลาเลิกงาน เวธัสขับรถมารับเธอเหมือนทุกวัน
และเป็นเพราะเพิ่งเลิกเรียน ปัณณ์กับอรัลยังคงอยู่ในชุดเครื่องแบบโรงเรียนอนุบาลที่เหมือนกันเด๊ะอยู่
ทั้งสีและขนาดความยาวก็เหมือนกันหมด เป็นสาเหตุให้ตอนอยู่ที่โรงเรียน มักมีคนจำพวกเขาสลับกันเสมอ
ช่วงหลัง ๆ มานี้ เด็กน้อยสองคนจึงพากันคิดหาวิธีที่จะขอทางโรงเรียนว่าไม่ต้องใส่ชุดเครื่องแบบอีก หรือคิดว่าจะหาป้ายชื่อมาติดที่หน้าอกดี แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็ดูเชยเกินไป จะทำให้เสียลุคได้
เด็กน้อยทั้งสองยื่นมือน้อย ๆ ไปหยิบซองขนมของตัวเองจากกระโปรงท้ายรถ
พร้อมกับหยิบเสื้อผ้าที่ทั้งคู่ชอบใส่ประจำ และเปลี่ยนชุดอย่างเรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ก็ทำให้แยกออกมากขึ้นแล้ว
ณิชาพับเก็บชุดเครื่องแบบที่ลูก ๆ ถอดออกเมื่อกี้อย่างเป็นระเบียบ และใส่เข้าไปในถุงอีกครั้ง
ปัณณ์สวมเสื้อกันแจ็คเก็ตสีดำของเขา คู่กับหมวกแก๊ปและกางเกงลายทหาร บวกกับสวมรองเท้าบูทสีเหลืองที่น่ารัก พร้อมกับเงยหน้ามองณิชาอย่างเท่ ๆ ขาดแค่แว่นกันแดดเท่านั้น ถ้าใส่แว่นด้วยแล้ว ก็เหมือนกับว่าเป็นดาราเด็กที่กำลังจะไปขึ้นเวทีเดินแบบเลย
“หม่ามี๊ รู้สึกไหมครับว่าช่วงนี้ปัณณ์หล่อขึ้นอีกแล้ว?”
ณิชาพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือ “มันก็แน่อยู่แล้ว ปัณณ์หล่อขึ้นทุกวันเลย”
“รอให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมจะต้องหล่อเหล่ายิ่งกว่าปีศาจกษัตริย์แน่ เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็ต้องผมหงอกเต็มหัว เหมือนกับคุณทวด ฟันก็ร่วงหมดปากแล้วด้วย” ปัณณ์โยกตัวไปมาอย่างมีความสุขตรงหน้าณิชา
เวธัสชินกับการต้องถูกปัณณ์พูดจาเหยียบย่ำเขาเป็นพัก ๆ แบบนี้ไปแล้ว
เขาจึงมองค้อนใส่หนึ่งที
“ต่อให้ฉันผมขาวเต็มหัว แกก็ยังต้องเรียกฉันว่าพ่ออยู่ดี”
ปัณณ์เกาหัวอย่างไม่ยอมแพ้ และตัดสินใจว่าจะไม่สนใจปีศาจกษัตริย์แล้ว จึงวิ่งไปจับมือณิชา “หม่ามี๊ ถ้าต่อไปปีศาจกษัตริย์ทำไม่ดีกับหม่ามี๊ ปัณณ์ก็จะหาสามีใหม่ให้”
“การที่จะหาสามีใหม่ที่เก่งกว่าแดดดี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” อรัลมองพ่อของตัวเอง และถอนหายใจออกมาเบา ๆ
ทำไมปัณณ์กับแดดดี้ต้องทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้าด้วยนะ?
“ลุงชาลีก็ใช้ได้นี่นา!” ปัณณ์แอบฉีกยิ้มที่มุมปากเบา ๆ
เวธัสหรี่ตาเล็กน้อย รอบกายแผ่ไอเย็นออกมาเต็มไปหมด และใช้สายตาแหลมคมปานนกเหยี่ยวจับสีหน้าแอบยิ้มของปัณณ์ไว้ได้ “อยากเจ็บตัวอีกแล้วใช่ไหม?”
ปัณณ์เอาหัวหลบ และไปซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของณิชา จากนั้นก็เล่นหน้าเล่นตาให้เวธัสดู
ณิชาก็รีบปกป้องลูกชาย และสังเกตเห็นว่าที่กระโปรงท้ายรถยังมีกล่องของขวัญที่เพิ่งซื้อมามากมายอยู่
นอกจากจะมีของบำรุงที่ราคาแพงแล้ว ยังมีเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่ราคาไม่เบาอีกด้วย
เธอจึงมองไปที่เวธัสอย่างอึ้ง ๆ
เวธัสปิดฝากระโปรงท้ายรถ “ลืมไปแล้วเหรอ? วันนี้เราจะไปเยี่ยมแม่ยายกันไง”
“ความจำของฉันนี่ไม่ไหวเลย ช่วงนี้ยุ่งมากจนหัวหมุนไปหมด” ณิชานึกออกทันที อันที่จริงพวกเธอควรจะไปเยี่ยมสิดาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว แต่ตอนนั้นเวธัสมาดักที่ใต้ตึกไว้โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ณิชาไม่มีโอกาสไปบอกสิดาเลย
หวังว่าเดี๋ยวตอนเจอกัน สิดาจะไม่โกรธนะ……
“กลับไปคืนนี้ผมจะต้มโจ๊กให้หม่ามี๊กิน” ปัณณ์ยื่นหัวออกมาและพูดเสนอตัว
อรัลก็ไม่ยอมแพ้ เขาจะมานวดให้ณิชา
ณิชามองลูกน้อยสองคนที่กำลังแย่งกันเอาใจเธออยู่ จู่ ๆ ก็เริ่มนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสใหม่ ๆ ปัณณ์กับอรัลก็เป็นเหมือนตอนนี้เลย แม่ลูกสามคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและมีแต่เสียงหัวเราะ
แตกต่างกันก็ตรงที่ตอนนี้มีเวธัสเพิ่มเข้ามา
เวธัสขมวดคิ้วแน่น เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหงุดหงิดที่มีลูกชายสองคน เพราะปัณณ์กับอรัลมาแย่งหน้าที่ของเวธัสไปหมด แถมยังพูดจาเหยียบย่ำเขาต่อหน้าณิชาจนเป็นนิสัยด้วย ยิ่งทำให้เวธัสอยากจะได้ลูกสาวที่ใส่ใจคนอื่นมากขึ้นไปอีก
เวธัสมองไปที่หน้าท้องอันแบนเรียบของณิชา……
เธอรู้ว่าเขาเป็นหมัน ดังนั้นจึงไม่เคยพูดถึงเรื่องคุมกำเนิดเลย
……
ณิชาจูงมือลูกไว้คนละข้าง และกลับไปที่หมูบ้านออเรนจ์
พอออกมาจากลิฟท์ ณิชาก็มองไปที่ห้องของเจนนี่ด้วยควาวมเคยชิน ที่หน้าประตูมีชั้นวางรองเท้าที่เต็มไปด้วยรองเท้าแตะของเจนนี่ หมายความว่าเธอยังไม่ได้กลับมา……
เวธัสถือของฝากที่จะเอามาให้สิดาไว้ในมือ และเดินตามหลังพวกเธอมาด้วย
ณิชากำลังล้วงกุญแจออกมาเปิดประตู และกำลังบิดลูกบิดประตูอยู่ แต่ประตูกลับถูกเปิดจากด้านในเสียก่อน
“แม่ ฉันกับลูกสองคน……”
ณิชาที่กำลังพูดทักทายต้องชะงัก เมื่อเห็นหญิงสาวแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอมาก่อนยืนอยู่ตรงนี้
เธอคนนี้แต่งตัวเรียบ ๆ เสื้อผ้าก็ไม่ใช่แบรนด์เนมอะไร มัดผมทรงหางม้า รองเท้าผ้าใบที่สวมอยู่ก็เริ่มซีดเพราะซักบ่อยแล้ว มือของเธอจับลูกบิดประตูไว้แน่น และทำตาเหมือนกำลังจะร้องไห้
แต่ก็ไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา เห็นแล้วช่างน่าสงสาร
ณิชามองดูเลขห้องอีกที และมั่นใจว่าที่นี่คือบ้านของตัวเอง แต่ณิชาก็มั่นใจว่าไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน
“เธอคือ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...