ณิชามองลูกน้อยสองคนที่กำลังหลับลึกเลย จากนั้นก็หันมาดุเวธัสว่า “เธอก็เป็นน้องสาวคุณเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”
“น้องสาวของฉันในตระกูลสนธิไชยแม้มีไม่ถึงร้อยคน แต่ก็มีประมาณ 60-70 คนได้ เธอคิดดูสิว่าฉันเคยช่วยพวกนั้นบ้างไหม?” เวธัสยกมุมปากขึ้น และยิ้มออกมาอย่างร้าย ๆ ดูแล้วเหมือนเป็นปีศาจกระชากวิญญาณเลย
ณิชาเลียปากเบา ๆ ทำให้ริมฝีปากเงาวับ
“คุณอยากให้ฉันตอบแทนยังไง?”
ลูกกระเดือกของเวธัสขยับขึ้นลง เขาพยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองบุ่มบ่าม ก่อนเคาะที่กระจกกั้นคนขับ
คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าเปิดกระจกกั้นออก และได้ยินเพียงเสียงแหบแห้งของเวธัสที่ดูรีบร้อนและทนไม่ไหวแล้วดังมาจากที่นั่งแถวหลัง
“ขับให้เร็วกว่านี้หน่อย”
ณิชาเอามือปิดหน้า และไม่กล้าคิดถึงสีหน้าของคนขับรถในตอนนี้เลย
“คุณทำภาพลักษณ์ของฉันเสียหายหมด……”
……
ผ่านไปไม่นาน ก็มาถึงวันจันทร์แล้ว
สิดากลัวว่าถ้าให้ก้อยไปที่สนธิไชยกรุ๊ปคนเดียว เธอจะไม่กล้า สิดาจึงแอบโทรหาณิชา บอกให้ณิชาไปส่งก้อย
ณิชาเองที่ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากกองทัพ และคนในบริษัทต่างก็รอดูความอับอายของเธออยู่ เธอจึงตอบตกลงสิดา
เวธัสฝากก้อยให้ทำงานกับโทนี่ และให้เธอทำตามคำสั่งของโทนี่
ส่วนเรื่องประวัติของเธอ โทนี่ก็จะพยายามพูดถึงให้น้อยที่สุด เพื่อที่พวกขี้อิจฉาจะได้ไม่ต้องมาคาดเดาต่าง ๆ นานา
ชุดที่ก้อยใส่วันนี้ ณิชาก็เป็นคนเลือกให้เอง
ตอนที่ก้อยเห็นณิชารูดบัตรซื้อเสื้อผ้า เธอไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด เพราะนี่คือสิ่งที่พวกคนตระกูลสถานนท์ติดค้างเธอ
พอณิชาส่งก้อยแล้ว ณิชาก็ได้เจอกับณมนที่หน้าตึกบริษัทสนธิไชยกรุ๊ป
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายเดือน ทำให้ณมนแอบทำตัวไม่ค่อยถูก จากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินจากไปทันที
ณิชาเองก็เดินสวนกับเธออย่างไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ราวกับว่าทั้งคู่เป็นคนแปลกหน้า
เรื่องในอดีตได้ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันหายไปเถอะ
ณิชาเองก็เพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าณมนเป็นนักศึกษายากจนที่เวธัสให้เงินทุนห้องหนังสืออยู่เป็นประจำ ในตอนแรก เป็นเพราะเธอมีหลายข้อที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการรับเข้าทำงาน จึงถูกบริษัทปฏิเสธซ้ำ ๆ
เวธัสไปเห็นไฟล์ของเธอจากเอกสารประวัติผู้สมัครงานโดยบังเอิญ ถึงสั่งให้ฝ่ายบุคคลรับเธอเข้าทำงาน……
ได้ยินว่าตอนนี้เธอได้เป็นนักออกแบบในแผนกออกแบบอย่างเป็นทางการแล้วด้วย
แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับณิชาแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้ กองทัพพินิจพิจารณาอยู่นานหลายวัน และได้ไปปรึกษากับเพื่อนร่วมงานหลายคน สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะนำข้อเสนอแนะของณิชาไปบอกชลิดา คุณหนูใหญ่ของตระกูลรังสิกุล
ปกติแล้วชลิดาไม่ค่อยเข้าบริษัท ถ้ามาก็อยู่ในห้องทำงานประมาณชั่วโมงสองชั่วโมงเท่านั้น
แต่ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของเธอเลย เพราะชลิดาคนนี้แตกต่างจากคนอื่น เธอสวยงามดึงดูดคนมากมาย และคิดว่าตัวเองสวยจึงมีสิทธิ์ทำตามใจตัวเอง มีชายนับไม่ถ้วนที่แวะเวียนมาขายขนมจีบให้กับเธอ
รวมถึงDS Groupด้วย มีผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้ชายหลายคนคิดว่าจะเป็นเกียรติมากเมื่อได้ร่วมรับประทานอาหารกับเธอ
และมีแม้กระทั่งข่าวลือที่ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน เศรษฐีคนหนึ่งยอมทิ้งลูกเมียเพื่อชลิดา สรุปก็โดนชลิดาเทในวันที่เขาเซ็นหย่ากับเมียทันที
เศรษฐีคนนั้นเสียใจมากจึงไปกระโดดน้ำตาย แต่รอดมาได้
ผู้อาวุโสของตระกูลโมโหมาก จึงสั่งห้ามไม่ให้ชลิดาออกไปไหน ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ชลิดายังคงเป็นคุณหนูตระกูลรังสิกุลที่ชื่อเสียงเลื่องลือเหมือนเดิม
พอได้รับข้อความจากกองทัพ ในหน้างดงามหยดย้อยของชลิดาเริ่มแสดงสีหน้าสนุกขึ้นมา นิ้วเรียวยาวของเธอคล้องพวงกุญแจรถเฟอรารี่ไว้ แล้วขับไปยังออฟฟิศของดนัยทันที
ดนัยก็ทำงานในสนธิไชยกรุ๊ปเหมือนกัน แต่ไม่ได้อยู่ในบอร์ดผู้บริหาร เป็นเพียงบริษัทเทคโนโลยีในเครือเท่านั้น
เขาต้องทำผลงานให้ดีกว่าบริษัทคู่แข่ง จึงจะมีสิทธิ์ร่วมนั่งเก้าอี้ผู้บริหารได้
พอได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย ดนัยที่กำลังง่วนอยู่กับกองเอกสารมากมายก็เงยหน้าขึ้นมา เห็นชลิดาในชุดกระโปรงหนังสีดำเซ็กซี่กับถุงน่องแนบเนื้อเผยให้เห็นเรียวขาสวย
เหนือสิ่งอื่นใด ใบหน้าเซ็กซี่ของเธอก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายหลงใหลได้แล้ว
“เธอมาได้ยังไง?” ดนัยไม่พอใจที่เธอมาโดยไม่บอกก่อน
ชลิดาล็อคประตูห้องทำงานของดนัยจากด้านหลัง และเดินมาที่โต๊ะทำงานของเขา เอาหลังของเธอพิงขอบโต๊ะไว้และไขว้ขา โน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย นิ้วเรียวยาวดึงเน็กไทสีน้ำเงินขึ้น
“ฉันเหงา อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อย”
ระห่างพูด เธอก็ตั้งใจใช้ปลายรองเท้าค่อย ๆ เขี่ยขึ้นตามกางเกงของเขา
ดนัยสูดหายใจเข้าลึก ทำหน้านิ่งและดันแว่นกรอบทองขึ้นเล็กน้อย “ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ฉันจะให้เลขาพาเธอไปรอที่ห้องรับแขกข้าง ๆ”
“ไม่สนุกเลย ทำไมฉันต้องมาชอบคนไร้ความรู้สึกอย่างคุณด้วยนะ?”
ปากแดงของชลิดายกขึ้นเล็กน้อย และยิ้มยั่วยวนออกมา “ณิชาน่ะ แฟนสาวของน้องชายของคุณ เธอเสนอที่ดินก่อสร้างมา เพราะอยากร่วมงานกับDS Group คุณว่าฉันตอบรับข้อเสนอนี้ดีไหม?”
ดนัยยังคงทำท่าทีเป็นทองไม่รู้ร้อน
“สุดตามแต่คุณหนูจะเห็นชอบ”
“แต่เวธัสเป็นศัตรูของคุณ งั้นฉันก็ไม่ยอมรับข้อเสนอจากเธอดีกว่า?”
“ตามใจ”
ชลิดาชอบดูดนัยเสียอาหาร แต่เหมือนว่าไม่ว่าเธอจะทำอย่างไร ก็ไม่สามารถกระตุ้นให้เขามีความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ได้เลย
มีผู้ชายมากมายที่มารุมชอบชลิดา แต่ดนัยกลับเป็นคนเดียวที่ไม่หวั่นไหวเลย……
เธอรู้สึกผิดหวังมาก หรือเสน่ห์ของเธอยังไม่พอมัดใจเขา?
“ขอแค่คุณจูบฉันครั้งเดียว ฉันก็จะทำให้วีเอสเอ กรุ๊ป ของณิชาหายปจากเมืองพร และนั่นจะทำให้เวธัสขายหน้าไปด้วย คุณว่าข้อเสนอนี้ของฉันเป็นไงบ้าง?”
ในที่สุดดนัยก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
ชลิดาเข้าใจผิดคิดว่าเขาเริ่มหวั่นไหวแล้ว วินาทีต่อมา สิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นสีหน้ายิ้ม ๆ ของเขา “ฉันไม่ใช้จูบเป็นข้อตกลงหรอกนะ”
“……” ชลิดาก็ไม่ได้โกรธ เธอกัดที่คางของดนัยไปหนึ่งที และพูดขู่ว่า “คุณอย่ามาเสียดายทีหลังล่ะ”
เธอมักจะทาปากสีแดงสดเป็นประจำ งดงามและยั่วยวนมาก
ใบหน้าเย็นชาของดนัยเริ่มแสดงสีหน้ารังเกียจ และดึงทิชชู่เปียกออกมาเช็ดรอยลิปสติกที่คางออกอย่างสง่า กดโทรเบอร์โทรศัพท์ภายใน และพูดสั่งว่า “มาพาคุณดาไปรอที่ห้องรับแขกที”
ชลิดาเองก็ไม่ได้อยากนั่งอยู่เฉย ๆ ที่นี่ จึงเดินออกไปอย่างสง่างาม
รอยยิ้มบนใบหน้าเย็นชาของดนัยค่อย ๆ จางหายไป มือที่จับปากกาสีดำอยู่ก็วางมันลงอย่างกะทันหัน ด้วยความที่เขาได้กดอารมณ์และความหงุดหงิดเอาไว้นานแล้ว……
……
ก้อยทำงานที่สนธิไชยกรุ๊ปมาได้หลายวันแล้ว
เธอยังจำที่คุณน้ำตาลบอกได้ดีว่าให้เธอไปประจบเลขากับพวกไว้ โดยเอาจิวเวลรี่กับของขวัญที่เวธัสให้สิดามาให้พวกคนในบริษัทให้หมด
พอทำแบบนี้ แม้ว่าทุกคนจะยังสงสัยว่าเด็กใหม่คนนี้เป็นใคร แต่พวกเขาก็น่าจะต้อนรับเธอมากกว่าเดิม
ก้อยเป็นลูกน้องของโทนี่ ปกติก็ไม่ได้รับผิดชอบงานที่สำคัญอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็ช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาเอกสารไปถ่ายบ้าง และส่งเอกสารตามแผนกบ้าง
ก้อยเองก็ตั้งใจทำงานมาก ไม่ว่าใครจะบอกให้เธอทำอะไร ถ้าเธอพอจะทำได้ก็จะรับปากทำให้หมดเลย
ถึงจะเป็นแบบนี้แล้ว แต่กลับไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา เพราะเธอเป็นคนของโทนี่ ไม่แน่ว่าทั้งคู่อาจจะมีความลับอะไรก็ได้
น้ำตาลบอกก้อยว่า ช่วงนี้ยังไม่ต้องทำอะไร ให้จับตามองณิชาก็พอ แต่ก้อยไม่อยากเลย เพราะเธอไม่อยากมาดูณิชากับเวธัสหวานกันขนาดนี้……
อีกอย่าง เธอเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
แต่ก้อยไม่มีโอกาสได้เข้าถึงตัวเวธัสเลย
วันนี้ โทนี่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ จึงสั่งให้ก้อยเอาเอกสารรายงานฉบับหนึ่งไปส่งให้เวธัส
เธอแอบดีใจ และรีบขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารทันที……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊