กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 368

ก้อยพยักหน้าอย่างขอโทษขอโพย พลันแสดงออกอย่างขวยเขินและลำบากใจพลางแอบมองมาทางเวธัส “ฉันกลัวว่าพี่จะเข้าใจพี่เขยผิดไป ดังนั้นจึงไม่กล้าจะพูดออกมาตรงๆ”

“งั้นตอนนี้แกมาถามซ้ำมันหมายความว่ายังไง?”

ก้อยสะอึกเล็กน้อย

“ธัสคะ คุณเห็นลิปสติกของก้อยหรือเปล่าคะ?” ณิชาถามเวธัส

เวธัสพูดกับก้อยทันที โดยไร้การคิดผ่านสมองด้วยซ้ำ “คุณลองไปถามพนักงานทำความสะอาดดู ไม่แน่อาจจะหาเจอในถังขยะนั่นแหละ”

ก้อยกัดริมฝีปากล่าง น้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งน้อยอกน้อยใจและกระอักกระอ่วนอย่างเต็มเปี่ยม เธอเป็นคนเอาลิปสติกไปไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทของเวธัสเองกับมือ แล้วจะไปอยู่ในถังขยะได้ยังไงกัน?

“ไม่เป็นไรนะ ก้อยแกอย่าเพิ่งร้องไห้ไป แค่ลิปสติกแท่งเดียวเอง หายก็ไปหายไปสิ เอาไว้วันหน้าพี่จะซื้อให้แกใหม่อีกหนึ่งแท่งเอง” ณิชาปลอบใจก้อย จริงใจที่สุด

ก้อยรู้สึกเหมือนถูกเสียดสีมากขึ้นกว่าเดิม น้ำตาหยดไหลหยดจากเบ้าตา

เวธัสก็เหมือนมองไม่เห็นน้ำตาของเธอ พลันหาข้ออ้างว่าไม่ได้ไปทางนั้น และพาตัวณิชาเดินไปทันที โดยที่ไม่ไว้หน้าเธอสักนิด

ณิชาฉุกคิดความรู้สึกผิดที่มีต่อสิดาและก้อย จึงให้เงินก้อย500บาท เพื่อให้เธอเรียกรถกลับเอง

ไม่ว่าจะพูดว่ายังไง จากนี้ไปก็ยังหวังให้เธออย่าเดินออกนอกลู่นอกทาง

ก้อยยืนอยู่หัวถนนอยู่คนเดียว คอยชะเง้อมองคนเดินไปมากันอย่างขวักไขว่ พลันนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นและร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมา ปีที่แล้วเธอเพิ่งเรียนจบบวส. พูดแล้วประสบการณ์ยังน้อยยังอ่อนต่อโลกมาก...

พลันคิดถึงการแสดงออกเมื่อครู่ของเวธัสแล้ว คือความพ่ายแพ้ที่สุดแล้ว

ขณะนั้นเอง น้ำตาลโทรศัพท์มาหา

ก้อยสะอึกสะอื้นเพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้ “ฮัลโหล? คุณน้ำตาล...”

15 นาทีหลังจากนั้น

น้ำตาลมารับก้อยแล้ว

ก้อยนั่งอยู่ในรถแวนของน้ำตาล ร้องไห้ฟูมฟายจนปลายจมูกแดงระเรื่อ น้ำตาลเก็บอาการ และเทน้ำอุ่นให้เธอหนึ่งแก้ว “เป็นไงบ้าง ฉันให้แกไปสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างเวธัสกับณิชา พวกเขามั่นคงต่อกันมั้ย แล้วทางตระกูลสนธิไชยมีท่าทีว่ายังไงบ้าง?”

ก้อยพยักหน้าสุดแรง ส่ายหน้าไปด้วย

น้ำตาลร้อนใจขึ้นมา “ตกลงว่ายังมั่นคงอยู่หรือเปล่า?”

“มั่นคงค่ะ” น้ำตาลสูดจมูกเข้า และเอาเรื่องที่ตนเองทดสอบกับเวธัสบอกน้ำตาล แต่เธอไม่กล้าพูดว่าตนเองไปนอนบนโซฟาของเวธัสเพื่อให้ท่าเขา

อย่างไรก็ตาม เธอรู้ดีว่าน้ำตาลชอบเวธัสมาโดยตลอด

น้ำตาลฟังเพียงครึ่งเดียวก็ย่นคิ้วขมวดเข้าหากันจนแน่น รอก้อยพูดจบแล้ว บรรยากาศภายในรถแวนก็ยิ่งลดระดับลงจนน่ากลัว

ก้อยชะเง้อมองน้ำตาลอย่างระแวดระวัง “คุณน้ำตาล...”

“อีโง่!” น้ำตาลโชกโชนต่อโลกภายนอกกว่าก้อย เล็บยาวเรียวราวกับต้นหอมเกือบจะทิ่มมาที่ศีรษะของก้อย “ณิชาต้องเจอลิปสติกแท่งนั้นตั้งนานแล้ว นางกับคุณเวธัสรวมหัวกันแกล้งแก!”

ก้อยหน้าซีดเผือด “ปะ...เป็นไปไม่ได้?”

“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ไม่มีคำสั่งของฉัน แกห้ามทำอะไรทั้งสิ้น นางต้องเริ่มสงสัยในตัวแกแล้วแน่!”

น้ำตาลยังคิดว่าตนเองได้หมากดีมาตัวหนึ่ง

แต่ผลที่ได้คือไม่มีสมองเลย...

พลันฉุกคิดถึงพี่สาวของเธอตอนนั้นก็เป็นแบบนี้แหละ ทั้งที่ไม่มีอุบายจนยากแก่การเดาใจ ถึงถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิต ก็หงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

แม้ว่าเธอกับมะนาวจะเติบโตมาพร้อมกัน แต่น้ำตาลก็รู้สึกว่ามะนาวเป็นลูกสมุนคอยติดสอยห้อยตามตนเองมาตลอด ดังนั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสำนวนว่ามะนาวกระโดดตึกตาย เธอแทบไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรด้วยซ้ำ

ทว่าตอนนี้มาเห็นก้อย เธออดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงไปยังพี่สาวอีกครั้ง

ก้อยหวาดกลัวหลังจากนั้นมาสักระยะ พลันพยักหน้าอย่างหนักแน่น และหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างหวาดหวั่นจนตัวสั่นเทา เธอแอบถ่ายรูปณิชากับเวธัสและส่งให้กับน้ำตาล

เธอไม่มองตัวคน น้ำตาลต้องมองจากในรูปภาพได้อย่างชัดเจนอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊