กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 369

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้นั้น มือของน้ำตาลสั่นเทาไม่หยุด จนโทรศัพท์หล่นลงพื้นจนมีเสียงดังตึง จากนั้นจึงส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย อย่างไม่อยากจะเชื่อ

ไม่มั้ง ทุกคนก็รู้ดี ณิชาเป็นลูกสาวของสุขุม!

ตอนนั้นกานต์รวีไปหลงรักคนต่างชาติเข้าคนหนึ่ง จากนั้นก็หอบผ้าหอบผ่อนกลับประเทศไปกับเขา ซึ่งเป็นไปตามนี้ คุณท่านไม่ปล่อยให้กานต์รวีแต่งงานไปอยู่ในที่ไกลๆได้ และอยากให้เธอกับผู้ชายคนนั้นตัดขาดการคบหากัน และอยู่ที่เมืองพรเพื่อเลือกลูกเขย

ผู้ชายคนนั้นต้องไม่ใช่สุขุมแน่ ๆ ...

……

ณิชากลับไม่รู้ว่าน้ำตาลกำลังเตรียมเล่นงานเธอ และกำลังปวดหัวกับความร่วมมือDS Group

เมื่อมองเห็นหมายกำหนดส่งงานที่รวินทร์แจ้งไว้ใกล้จะมาถึงเต็มสองตา กองทัพกลับไม่ได้แจ้งข่าวให้เธอเลย

หรือว่าแรงจูงใจของที่ดินผืนนั้นยังไม่เพียงพอเหรอ?

เวธัสไปอาบน้ำเป็นเพื่อนเด็กน้อยทั้งสองคนในห้องน้ำ เนื้อตัวเปียกโชก พลันหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำของเด็กออกมาสองชุดเพื่อคลุมตัวให้เด็กๆ จากนั้นจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ พลางทิ้งตัวลงบนเตียง และห่มผ้าห่ม

ปัณณ์โผล่ศีรษะดำขลับออกมาจากผ้าห่ม “คืนนี้หม่ามี๊จะนอนเป็นเพื่อนพวกเรา”

“…” เวธัสเดินออกมาโดยที่ไม่หันกลับไปมอง

เมื่อออกมาแล้ว ยังเห็นไฟในห้องหนังสือกำลังเปิดอยู่ จึงอุ่นนมร้อนๆ หนึ่งแก้ว พลันวางอยู่ด้านหน้าณิชา

“งานยากมากเหรอครับ?”

เขายืนพิงโต๊ะทำงาน พลันงอขาข้างหนึ่ง เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ลักษณะท่าทางเกียจคร้านมากที่สุด

แต่เส้นผมที่ยังเป่าไม่แห้ง ยังเห็นหยดน้ำเกาะอย่างชัดเจน...

ณิชายกแก้วนมดื่มอึกหนึ่ง มุมปากยังมีคราบนมติดเป็นดวง

ตอนที่อยากจะเอ่ยปากจึงเห็นลักษณะท่าทางเซ็กซี่ของชายหนุ่ม และผมสั้นที่ยังไม่ได้เป่าให้แห้ง

เธอขมวดคิ้ว วางแก้วใสลงและไปหยิบผ้าขนหนูผืนสะอาดออกมาผืนหนึ่ง และกดเวธัสให้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ และจัดการเช็ดผมสั้นๆ แทนเขาอย่างเบามือ

ทุกการกระทำอ่อนโยนมาก เวธัสเพลิดเพลินมาก ใช้สายตาแหงนหน้ามองมุมสูงเล็กน้อย มองเห็นคราบนมที่ติดมุมปากของเธอเอาไว้ ช่างน่ารักที่สุดเลย น่ารักกว่าฝาแฝดเสียอีก

ณิชาไม่ทันสังเกตตนเอง ริมฝีปากเชอร์รี่บ่นพึมพำ “คนเจ้าเล่ห์อย่างกองทัพถ่วงเวลาฉันอยู่ตลอดเลย เริ่มยากขึ้นมาแล้วนะ”

“ตอนนั้นคุณน่าจะไปหาชลิดาโดยตรงเลย”

ณิชาได้ยินชื่อชลิดามาจากปากของคนหลายคนหลายครั้งแล้ว

เจนนี่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิง ณิชาย่อมให้ความสนใจนิตยสารซุบซิบเหล่านี้ด้วย อัตราการปรากฏตัวอยู่ในนิตยสารของชลิดาก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าชาลี

สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ พวกเขาสองคนคนหนึ่งซุกซนอยู่กับผู้หญิง อีกคนซุกซนอยู่กับหนุ่มๆ

“คุณสามีขา คุณรู้จักมักจี่ชลิดาขนาดไหนคะ?”

เมื่อเวธัสได้ยินคำว่าคุณสามี รู้สึกอบอุ่นหัวใจทันที พลันเอนตัวเข้าหามุมปากริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธอที่มีคราบนมติดอยู่พลางเลียอย่างแผ่วเบา

ณิชารู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย ราวกับขนนกพาดผ่าน

เวธัสดูดคราบนมตรงมุมปากของเธอเข้าปากของตนเอง ไม่นานนักก็ลุกพรวดหลังตรง และขมวดคิ้วให้เธอ “คุณควรถามเก้านะว่ารู้จักมักจี่กับชลิดาขนาดไหน”

ณิชาคลำมุมปากที่ถูกเขาจูบตามสัญชาตญาณ พลันเงยหน้ามองเขา “คุณหมายความว่าคุณเก้ากับชลิดาคบหากันอยู่หรือคะ?”

เวธัสขมวดคิ้วเล็กน้อย วิธีการพูดกับเธอถือว่าเป็นการแสดงความรู้สึกที่แปลกใหม่

“ก็สามารถเข้าใจในแบบนี้ได้นะ”

ณิชาถามกลับอย่างกระตือรือร้น “ฉันก็แปลกใจมาตลอดจริงๆ นะ ระหว่างคุณกับคุณเก้าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงได้รังเกียจเขานักหนา? เพียงเพราะยืนอยู่คนละฝั่งเหรอคะ?”

แต่เธอรู้สึกว่า ถ้าเพียงเพราะเป็นศัตรูกันในบริษัท จึงต้องรังเกียจนายเก้าขนาดนั้นด้วย เวธัสทำเกินเหตุไปแล้ว

ต้องมีเรื่องลับๆ ล่อๆ อะไร ที่เธอไม่รู้แน่

หัวคิ้วเวธัสชมวดเข้าหากันจนแน่นกว่าเดิม “มีเรื่องราวมากมายที่ไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ในคำสองคำ อย่างไรเสียคุณก็อยู่ห่างๆ เขาสักหน่อยแล้วกัน”

“รับทราบค่ะ คุณสามีเป็นคนขี้หึง แล้วฉันจะไม่อยู่ห่างๆ เขาได้ยังไงล่ะคะ?”

แต่ความร่วมมือของเธอกับDS Group จะทำยังไงดี?

เมื่อเห็นความวิตกกังวลของเธอ เวธัสเคาะผิวโต๊ะอย่างแผ่วเบา แสดงท่าทางตนเองได้รับชัยชนะ “วางใจเถอะ เอกสารที่คุณส่งขึ้นไปขนาดผมยังหวั่นไหวเลย ไม่มีเหตุผลไหนนะที่ชลิดาจะไม่ให้คุณผ่าน”

……

เช้าวันรุ่งขึ้น ณิชากำลังเดินทางไปบริษัท ในที่สุดก็ได้รับโทรศัพท์จากกองทัพ

หัวใจดวงนั้นของณิชาไม่สบายใจ พริบตาเดียวก็มาถึงถิ่นเดิม

เมื่อกลับมาถึงวีเอสเอ กรุ๊ป น้ำเพชรเป็นคนพาเธอมาทำความรู้จักกับผู้บริหารระดับสูงกลุ่มหนึ่งที่คอยออกมาต้อนรับขับสู้

“คุณณิชา จวนจะถึงเวลาแล้ว ใกล้จะถึงเวลาที่คุณกับคุณกองทัพของDS Groupต้องเจรจากันแล้วใช่มั้ยคะ?”

“ถ้าไม่มีความสามารถ ก็อย่าให้เสียเงินเพื่อรักษาหน้าตาไว้เลย”

“ตอนนี้บริษัทของเรากำลังเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ถ้าไม่สามารถร่วมมือกับDS Groupได้ ยังมีเวลาไปคิดวิธีอื่นๆ ถ้าบริษัทเสียเวลากับคุณอยู่แบบนี้ ถึงเวลานั้นบริษัทล้มเลิกการแบ่งสาขาออกไป คุณก็สะบัดก้นลาออก แล้วเราจะทำยังไงกันคะ?”

“ใช่ครับ! ท่านประธาน ดูเหมือนว่าเราให้ความสำคัญกับคุณณิชามากไปแล้วครับ...”

ทุกคนต่างถกเถียงกันอย่างวุ่นวาย รวินทร์เอาแต่ส่ายหน้าอย่างหมดอารมณ์

ถ้าสามารถเจรจาลงนามกับDS Groupถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุด เจรจาล้มเหลว สิ้นปีนี้จำต้องผลักณิชาออกไปรับหน้าคนจากสำนักงานใหญ่เสียแล้ว

เรื่องนี้โทษเขาไม่ได้นะ ตัวณิชาประกาศกร้าวเอาไว้เอง

น้ำเพชรเอามือปิดปากแอบหัวเราะเยาะ “คุณณิชา คุณควรทำตามสัญญาได้หรือยัง ลาออกจากตำแหน่งเพื่อยกตำแหน่งกับคนที่คู่ควรใช่มั้ยคะ?”

“คนที่ต้องรักษาสัญญาไม่ใช่ฉันค่ะ แต่เป็นท่านประธานต่างหาก” ณิชาจ้องมองน้ำเพชรที่กำลังแสดงท่าทางมีความสุขท่ามกลางความทุกข์ของคนอื่น และพูดกับรวินทร์ “คุณกองทัพเพิ่งโทรศัพท์หาฉันเมื่อกี้เอง ยอมร่วมมือกับเราแล้ว ให้ไปเซ็นสัญญาวันจันทร์หน้าเวลาบ่ายสามโมงค่ะ”

พอน้ำเพชรได้ยิน เบิกตาโตทันที พร้อมทั้งแสดงรู้สึกไม่อยากจะเชื่ออย่างเต็มที่

“นี่คุณกำลังโกหกอยู่ใช่มั้ย? บริษัทที่อยากจะร่วมมือกับDS Groupมีมากมาย เอาอะไรมาวัดที่พวกเขาจะเลือกคุณ?”

นอกจากมีคนอื่นเห็นด้วย--

“เซ็นสัญญาจริงๆ เหรอ?”

“ว่ากันว่าโครงการความร่วมมือขนาดใหญ่ของDS Groupต้องผ่านมือคุณหนูใหญ่ของตระกูลรังสิกุลไม่ใช่เหรอ?”

“หรือว่าคุณณิชารู้จักคุณหนูใหญ่ของตระกูลรังสิกุล?”

ใบหน้ามีแต่ความแปลกใจและหวาดหวั่น “คุณรู้จักกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลรังสิกุล?”

“ไม่รู้จักค่ะ” ณิชาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างซื่อตรง เธอเห็นแค่กองทัพ โดยที่กองทัพเป็นคนประสานงานกับความร่วมมือทั้งหมด

หลังจากสิ้นเสียงณิชา จู่ ๆ น้ำเพชรก็แสยะยิ้มจนส่งเสียงออกมา พลางกล่าวถากถางอย่างไม่เกรงใจ “น่าจะมีใครบางคนใช้วิธีการที่ยอดเยี่ยมมากถึงทำให้คุณกองทัพยอมเปลี่ยนความคิด มิน่าล่ะคนของเราตั้งมากมายเจรจาไม่ผ่านสักที หน้าตาไม่สวยเท่าคนอื่นเขา แถมวิธีการก็ไม่ได้เด็ดดวงอย่างที่คนอื่นเขาทำ ลงทุนไม่ไหว จึงเจรจาไม่ผ่านสักที”

ขณะที่น้ำเพชรพูดคำพูดนี้ออกมานั้น ยังเหล่ตามองณิชา แถมนั่งกอดอกไว้ด้วย

นั่นไม่ใช่ลักษณะท่าทางดูแคลน ซึ่งมันเป็นการแอบหัวเราะเยาะถึงเรื่องที่ณิชากับกองทัพใช้วิธีการบางอย่างในการเจรจาทำข้อตกลงที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ โดยเปลี่ยนมาใช้ร่างกายมาเป็นข้อเจรจา

รวินทร์กับผู้บริหารเพศชายคนอื่นๆ ต่างใช้สายตาอื่นจ้องมองณิชาในชั่วพริบตา

อลิสาหัวเราะอย่างเย็นชา “พอคุณน้ำเพชรอ้าปากพูด เสียบรรยากาศหมดเลยค่ะ”

รวินทร์กระแอมลำคอ พลันรีบฉวยจังหวะที่น้ำเพชรกับอลิสากำลังทะเลาะกัน กล่าวพูดปลอบใจณิชา “ครั้งนี้ คุณเสียสละอย่างยากลำบาก ผมจะพิจารณาว่าจะเพิ่มโบนัสสิ้นปีให้คุณอีก 20 เปอร์เซ็นต์”

เขาคุ้นๆ กองทัพอยู่เล็กน้อย เจ้าชู้ตัวพ่อ พุงพลุ้ย รูปร่างเคลื่อนไหวลำบาก

ณิชาเสียสละใหญ่หลวงจริงๆ

ณิชาแสร้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไรอยู่ “ท่านประธานไม่ต้องเกรงใจค่ะ ฉันเอาที่ดินก่อสร้างมาแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับDS Group ส่วนเรื่องโบนัสสิ้นปีฉันไม่กล้ารับไว้หรอกค่ะ”

“ที่ดินก่อสร้างเหรอ?”

“ใช่ค่ะ พื้นที่เขตชานเมืองที่บริษัทได้ประมูลมาเมื่อหลายปีก่อนผืนนั้นไงคะ บังเอิญที่ว่าDS Groupอยากได้ที่ดินผืนนี้ใจจะขาดเพื่อนำมาก่อสร้างเป็นศูนย์กลางพักร้อน ดังนั้นคุณกองทัพเลยยอมเห็นด้วย”

รวินทร์สูดลมเย็นเข้าปากทันที “ที่ดินผืนนั้นบริษัทจ่ายเงินประมูลไป 250 ล้านกว่าบาทในการประมูลมานะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊