กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 371

เจนนี่ปาดเหงื่อเปียกชุ่มใต้หน้าม้า พลันก้มหน้าเล็กน้อย ประหม่าที่สุด

“ฉันเพิ่งตื่นนอน สมองยังไม่ค่อยตื่นตัวสักเท่าไหร่”

พี่ซีทำตาขวางใส่เจนนี่แวบหนึ่ง พลันเดินเต๊ะท่าเข้ามาภายในบ้าน แถมไม่เปลี่ยนรองเท้าด้วยซ้ำ และยังหยิบเอกสารกองโตออกจากกระเป๋า พร้อมทั้งกระแทกลงบนโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์ทันที

“เจนนี่ ใช่ว่าพี่ก็อยากจะว่าแกนะ แค่ไม่พอใจตามที่คาดหวังเอาไว้เท่านั้นเอง ตอนนี้นะ มีโอกาสดีๆ มาจ่ออยู่ด้านหน้าของแก บริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่เทคโอเวอร์บริษัทเราไปแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ สัญญาว่าจ้างของแกจะโอนไปที่บริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ แกเซ็นสัญญาฉบับนี้เสียสิ รีบไปรายงานตัวที่เซ็นจูรี่ก่อนถึงจันทร์หน้านะ ถึงเวลานั้นฉัน...”

“เทคโอเวอร์? บริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่?” ดวงตากลมโตของเจนนี่ถลึงตาขึ้นทันที

“ใช่ ถือว่าแกส้มหล่น ท่านประธานของเซ็นจูรี่เป็นคนจิ้มสั่งการมาเองว่าให้แกเข้าไปเซ็นสัญญา ต่อไปได้ดิบได้ดี อย่าลืมเรียกพี่ซีด้วยล่ะ”

แม้ว่าพี่ซีพูดออกมาแบบนี้ แต่กลับไม่ได้จริงจังสักนิด

เจนนี่ไม่ถูกกับคนในวงการบันเทิง

หากบริษัทไม่ได้ผลักดันเธอในหลายปีที่ผ่านมานี้ โดยขยายความเรื่องเสียๆหายๆให้เรื่องราวใหญ่โตอย่างไร้ขีดจำกัด จนตกเป็นประเด็นกลายเป็นข่าวดัง เพื่อให้เธอมีกระแสอยู่ตลอด ประมาณว่าน่าจะตกต่ำเป็นดาราตัวประกอบมานานแล้ว ไม่สิ ไม่ถือว่าเป็นดาราตัวประกอบ เรียกว่าออกจากวงการบันเทิงไปนานแล้วต่างหาก

พอเจนนี่ได้ยินชาลีเป็นคนจิ้มมาเลยว่าจะเซ็นสัญญากับเธอ ราวกับเกิดหายนะภัยพิบัติเลยแหละ ชีวิตที่ไร้ความหมายจบสิ้นกันเสียแล้ว

ชาลีต้องตั้งใจแน่ ๆ รอให้เธอเซ็นสัญญากับบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ ต้องโดนแบนแน่ ๆ

ไม่แน่อาจให้เธอไปถ่ายนิตยสารและหนังสั้นสะเปะสะปะพวกนั้นก็ได้...

หรือไม่ก็ให้เธอไปเป็นเด็กเอนเตอร์เทน

ชาลี เป็นพวกใจแคบชอบคิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น เรื่องสมัยเรียนตั้งแต่มหาวิทยาลัยตอนนี้เขายังจดจำได้อยู่เลย!

“ไม่ ฉันไม่ไป! พี่ซีฉันขายชีวิตให้ทีวาย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไปแล้ว...”

“ทีวายตกเป็นของเซ็นจูรี่ไปแล้วนะสิ แกก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของเซ็นจูรี่ไปด้วย รีบเข้าไปเซ็นสัญญาให้เร็วๆ เถอะ!” พี่ซีเร่งรัดอย่างหมดความอดทน

ไม่ว่าเจนนี่จะพูดว่าอะไรก็ไม่เซ็นทั้งนั้นแหละ พลันวิงวอนอย่างน่าสงสาร “เซ็นสัญญากับเซ็นจูรี่ฉันจะตายอย่างเวทนาเลยแหละ”

พี่ซีไม่มีความหวั่นไหวใด พลันดันเจนนี่ให้เดินมาอยู่ทางด้านหน้าเคาน์เตอร์หน้าโซฟา พร้อมทั้งนำปากกาเซ็นชื่อยัดใส่อุ้งมือของเธอ พลางพูดปลอบโยน “แต่ถ้าแกไม่เซ็น ฉันก็จะตายอย่างน่าเวทนา ถือว่าเห็นแก่ที่พี่ซีดูแลแกมาตั้งนานหลายปี เด็กดี เซ็นแล้วเราก็จะมีแต่สุขสบายมากๆ...”

เจนนี่ถูกบีบให้ถือปากกาเซ็นชื่อสีดำเอาไว้

พี่ซีนำเอกสารพลิกไปยังหน้าสุดท้ายตรงเซ็นชื่อ พร้อมทั้งดึงรั้งให้เธอเซ็นชื่อลงไปด้านบน

“ขอโทษที พี่ซีฉันเซ็นไม่ได้จริงๆ!” เจนนี่ตั้งใจแข็งข้อ พยายามแกะมือของพี่ซีให้หลุดออก

พี่ซีเห็นกับตาว่าปากกาเซ็นชื่อถูกเจนนี่สะบัดจนกระเด็นตกอยู่ที่พื้น จึงใช้มือข้างเดียวเท้าเอว พร้อมทั้งชี้มาที่เจนนี่อย่างกราดเกรี้ยว “เจนนี่ แกปีกกล้าขาแข็งแล้วสิ ตอนนี้ก็เลยไม่เชื่อฟังแล้วใช่มั้ย? สัญญาฉบับนี้ แกต้องเซ็น ไม่อยากเซ็นก็ต้องเซ็น!”

“งั้นฉันจะฉีกสัญญาก็หมดเรื่องแล้วใช่ป่ะ?” เจนนี่ตะเบ็งเสียงกร้าว

พี่ซีตะลึง ซึ่งเหมือนได้ยินเรื่องตลกที่แสนตลกขบขันอะไรนั่น

“ฉีกสัญญา? ตอนนั้นแกเซ็นสัญญากับบริษัทไว้ 15 ปี บริษัทก็ไม่ได้ปฏิบัติไม่ดีกับแก แกมีสิทธิ์อะไรที่ต้องฉีกสัญญา? ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ขายให้กับบริษัทเซ็นจูรี่ แกก็เข้าไปวุ่นวายไม่ได้ ถึงแม้ไม่ได้ขายให้ แล้วแกมีปัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาได้มั้ยล่ะ?”

“…ไม่ต้องมายุ่ง ยังไงถ้าให้ฉันเซ็นสัญญากับเซ็นจูรี่ให้ได้ ฉันก็จะยุติสัญญากับทีวาย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์!” เจนนี่แสดงท่าทางโหดเหี้ยมออกมา

ไร้อิทธิพลสักนิด ในทางกลับกันพี่ซีถึงกับเห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน

“ประธานของเซ็นจูรี่เป็นคนโอนย้ายสัญญาของแก หากแกมีปัญญา แกก็ไปหาคุณชาลีเขาเสียสิ ตราบใดที่เขายอมตกลง ฉันก็จะยุติสัญญาและปล่อยแกไปโดยที่ไม่พูดอะไรเลย!”

หน้าตาเหมือนตุ๊กตาของเจนนี่แดงระเรื่อ “ไปก็ได้! ยังไงฉันก็ไม่เซ็นสัญญากับเซ็นจูรี่อยู่แล้ว!”

หลังจากนั้น 20 นาทีให้หลัง เจนนี่ก็ยืนอยู่ทางด้านหน้าตึกใหญ่ของบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ และเริ่มเกิดอาการขี้ขลาดตาขาว

หากชาลีแก้แค้นเธอแล้วจะทำยังไงล่ะ?

แต่ถ้าเธอไม่ขึ้นไปหาชาลี พี่ซีก็จะบีบบังคับให้เอาสัญญาของเธอโอนมาที่เซ็นจูรี่

ขณะที่เจนนี่เดินไปเดินมาอยู่ใต้ตึกอย่างตัดสินใจไม่ได้สักที ทันใดนั้นก็มีรถโรลส์-รอยซ์เคลื่อนตัวเข้ามาจนเห็นมาแต่ไกล

ดวงตาเจนนี่เปล่งประกายวูบวาบทันที

รถโรลส์-รอยซ์คันนี้เธอเคยเห็นมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ เป็นรถประจำของชาลี

ซึ่งเมื่อเอามาเปรียบเทียบกับการถ่อสังขารขึ้นไปหาชาลีชั้นบนสุดของบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่ ยังไม่เท่ากับหาสถานที่เงียบๆ เช่นที่จอดรถชั้นใต้ดิน เพื่อพูดคุยกับชาลีเป็นการส่วนตัวถือว่าสะดวกหน่อย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจนนี่จึงวิ่งเข้าไปยังที่จอดรถชั้นใต้ดินทันที

ประจวบเหมาะที่สามารถขวางหน้ารถโรลส์-รอยซ์ชะลอความเร็วลงตอนเลี้ยวรถเข้ามา

เธอใช้มือข้างหนึ่งทุบลงบนหน้ารถหรู พร้อมทั้งแหกปากตะโกนไปด้วย “ชาลี ลงมาเดี๋ยวนี่! ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย!”

ภายในรถยนต์ไร้การเคลื่อนไหว

คนขับรถมองผ่านกระจกรถยนต์ ก็เห็นสาวน้อยยืนอยู่หน้ารถ

บนตัวยังมีกระเป๋าถือแบบสะพายข้าง สวมใส่เสื้อโค้ตสีอ่อนและสวมหมวกแก๊ปไว้บนหัว

ปีกหมวกกดลงต่ำมาก เห็นแค่ครึ่งหน้าล่างของเธอเท่านั้น

คนขับรถหันกลับไปมองเงาคนที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังตามสัญชาตญาณ...

คนคนนั้นกลับไม่ตอบกลับมา เอาแต่เพ่งมองเจนนี่ที่กำลังแสดงท่าทางจองหองอยู่อย่างเงียบเชียบ

เจนนี่เห็นว่าคนในรถไม่มีคนสนใจเธอเลย หัวใจเต้นรัวขึ้นมาก และโกรธหนักกว่าเก่า

เธอมั่นใจมากว่าชาลีเคยขับรถคันนี้!

“ในบริษัทของคุณมีนักแสดงอยู่ตั้งมากมาย มีสิทธิอะไร ที่ให้ฉันเซ็นสัญญา? ฉันรู้ เมื่อก่อนฉันเคยไอ้นั่นกับคุณ คุณอยากจะล้างแค้นฉันใช่มั้ย แต่สัญญาฉันยังมีอยู่สิบกว่าปี คุณไม่มีเหตุผลแบบนี้ไม่ได้นะ อย่างน้อย ฉันก็จะให้คุณ...ไอ้นั่นกลับถือเป็นการชดใช้คืนให้”

เอาข้าวราดแกงใส่หัวตัวเอง พูดออกไปมันช่างไม่น่าอายเหลือเกิน

ให้คนขับรถได้ยินต้องหัวเราะเยาะชาลีแน่นอน

ดังนั้น เธอจึงใช้คำว่า “ไอ้นั่น” จำกัดความหมายอย่างใส่ใจ ชาลีน่าจะเห็นใจมั้ง?

กระจกค่อยๆ ลดลงอย่างกะทันหัน แต่สิ่งที่เผยออกมากลับเป็นใบหน้ามีอายุไร้รอยยิ้มของหญิงชราแทน บนใบหน้ามีรอยย่น แต่กลับเปล่งออร่าอันน่าเกรงขาม โดยใช้สายตาจ้องมองราวกับสิ่งค้า เพื่อประเมินเจนนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”

เจนนี่อ้าปากกว้างเป็นรูปตัว O พลันตั้งใจก้มหน้ามองทะเบียนรถ

...หรือนี่ไม่ใช่รถยนต์ของชาลีงั้นเหรอ?

“คุณ...คุณยายคะ ขอโทษค่ะ ฉันจำผิดคนแล้วค่ะ” ใบหน้าเจนนี่แดงระเรื่อ อดไม่ไหวจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี กระทั่งมาแหกปายโวยวายจองหองต่อคุณยายคนแปลกหน้าคนนี้

พูดจบเธอก็ย่างเท้าออกเพื่อต้องการจะเดินหนี

คุณย่าศิริจันทร์ตะโกนเรียกอย่างไม่รีบร้อน “ฉันสั่งให้เธอไปแล้วเหรอ?”

เจนนี่อายจนตัวสั่นไม่เป็นตัวของตนเอง พลันยิ้มให้คุณย่าศิริจันทร์เพื่อเป็นการไถ่โทษ “ขอโทษค่ะ”

สายตาช่างเลือกของคุณย่าศิริจันทร์ค่อยๆ เลื่อนจากใบหน้าของเจนนี่ ย้ายลงมาที่ก้นของเธอ

หน้ากลมมีเนื้อมีหนัง ก้นไม่ใหญ่เลย...

มอบแวบเดียวก็มองออกว่าคลอดลูกยากแน่

ปกติแล้วสาวๆของชาลีทุกคน จะต้องเซ็กซี่ก้นสะบั้นหั่นแหลกแบบนั้น แล้วไปยุ่งกับเด็กคนนี้ทำไมกัน?

“เมื่อกี้หนูเพิ่งพูดว่าหนูกับชาลี...ไอ้นั่นกันแล้วเหรอ?” คุณย่าศิริจันทร์ถามด้วยความสงสัย

หูของเจนนี่อื้ออึง จึงไม่ได้ไตร่ตรองถึงความหมายอันลึกซึ้งของคุณย่าศิริจันทร์อีกชั้นไว้ พลันทวนคำพูดของตนเอง และพยักหน้าหงึกหงักราวกับไก่จิกข้าวเปลือก

“แต่ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ หลังจากเกิดเรื่องหนูก็ขอโทษเขาแล้ว! แต่เขากลับไม่ยอมยกโทษให้ คุณยายค่ะ คุณยายรู้จักคุณชาลีด้วยเหรอคะ?”

“เขาออกข่าวทุกวัน ฉันจะไม่รู้จักได้ยังไง?” คุณย่าศิริจันทร์ให้คะแนนเจนนี่อยู่ในใจ

แต่กลับสงสัยมากขึ้น...

หลานชายของตนเองไปพัวพันกับเด็กสาวคนนี้ไม่ยอมปล่อยสักทีงั้นเหรอ?

ใช่สิ เธอมายุติสัญญานี่ แถมเจ้าหลานชายก็อยากจะผูกมัดกับเธอสิบกว่าปีอีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊