กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 372

เจนนี่รู้สึกว่าคุณย่าใช้สายตาประเมินตนเองจนเริ่มแปลกใจเล็กน้อย

เมื่อตั้งสติกลับมา ไม่นานนักก็รู้สึกแย่แล้ว คุณย่าเหมือนเข้าใจผิด

เธอกำลังคิดอธิบาย “ไอ้นั่น” คุณย่าคงไม่ได้หมายถึง...

“ช่วงบ่ายฉันรีบร้อนมา ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง หนูช่วยไปกินอะไรกับฉันสักหน่อยสิ” คุณย่าศิริจันทร์พูดขัดจังหวะคำพูดที่ติดอยู่ริมฝีปากของเจนนี่

เจนนี่เหลือบมองมาทางลิฟต์อย่างลำบากใจแวบหนึ่ง

เธอยังต้องเจรจาการยุติสัญญากับชาลีนะเนี่ย พี่ซีต้องรอคำตอบกลับของเธออย่างแน่นอน

คุณย่าศิริจันทร์เห็นเธอทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่เต็มใจเหรอจ้ะ?”

น้ำเสียงกดต่ำเล็กน้อย บรรยากาศถึงขั้นกลัวตัวเองด้วยซ้ำ เจนนี่ยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว “เต็มใจค่ะ หนูเต็มใจค่ะ!”

ตกลงว่าหญิงชราคนนี้คือใครกัน...

เจนนี่ฝืนอมขมกลืน

คุณย่าศิริจันทร์คอยตั้งใจสังเกตเจนนี่อยู่ตลอดทาง

แม้ว่าเธอจะเกรงใจแต่กลับไม่เคยยกยอปอปั้นสักนิด ท่าทางเป็นมิตร มีความกระตือรือร้นเมื่อปฏิบัติต่อคนอื่น

ถ้าพูดว่าเธอไม่รู้ว่าตนเองเป็นใคร จนตั้งใจแสร้งทำทีท่าเช่นนี้ออกมา ถือว่าฝีมือการแสดงไม่เลวเลย

คุณย่าศิริจันทร์ให้คนขับรถพาทั้งสองคนไปยังร้านปิ้งย่างที่อยู่ข้างทางทั้งที่สภาพย่ำแย่มาก ๆ

เมื่อคุณย่าศิริจันทร์ได้นั่งก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนทันที แต่เจนนี่กลับไม่รู้สึกมีปัญหาสักนิด...

ความจริงคุณย่าอยู่ในร้านอาหารหรูหราจนเคยชิน ดังนั้นถึงได้รู้สึกว่าร้านปิ้งย่างในละแวกนี้สภาพแวดล้อมย่ำแย่มาก

ในความจริง เป็นร้านข้างทางที่แสนธรรมดามากๆ เงื่อนไขจำกัดแต่ใช่ว่าไม่รักษาสุขอนามัย

เจนนี่กับปัณณ์มีความเหมือนกัน นั่นคือเป็นสายกินด้วยกันทั้งคู่

การไปอยู่ต่างประเทศมาครึ่งเดือน เธอคิดถึงร้านปิ้งย่างข้างทางเอามากๆ พลันหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดโต๊ะเก้าอี้ พร้อมทั้งประคองหญิงชราให้นั่งลง

“คุณยายคะ คุณยายก็ชอบกินปิ้งย่างเหมือนกันหรือคะ? หนูก็ชอบมาก! หนูจะบอกว่า หนูชอบกินมะเขือย่างมากๆ เลยค่ะ...”

“มีบางคนชอบกินสมองหมูย่าง แต่หนูรู้สึกว่ามะเขือย่างอร่อยกว่าหมูย่างตั้งเยอะค่ะ ย่างเสร็จแล้วข้างในนุ่ม ด้านนอกกรอบ บวกกับใส่กระเทียมและเครื่องปรุงปิ้งย่างที่ปรุงพิเศษ รสชาติอร่อยที่สุด ขอบอกเลยว่าคนกินครั้งแรกก็อยากกินครั้งที่สองอย่างแน่นอนค่ะ!”

คุณย่าศิริจันทร์ฝืนกลั้นความขยะแขยงอยู่ในใจพลันนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติก แถมไม่กล้าเอาเสื้อผ้าเขยิบให้เฉียดใกล้บนโต๊ะ บนนั้นมีคราบมันจนทำให้เธอขนพองสยองเกล้า

เมื่อได้ยินเจนนี่พูดจนน้ำลายแตกฟอง ทำเหมือนไม่สนใจอาหารข้างถนนประเภทนี้เลย...

น่าจะไม่ใช่พวกผู้หญิงเห็นแก่เงิน

“หนูกับชาลีรู้จักกันมานานขนาดไหนแล้วจ้ะ?” หญิงชราถามต่อ

เจนนี่เกาศีรษะ เพื่อนับเวลา “หลายปีอยู่ค่ะ ตอนหนูเรียนปีสองก็รู้จักเขาแล้วค่ะ”

“หนูอายุเท่าไหร่แล้ว?”

“24 ปีค่ะ หนูเรียนปีสองตอนอายุ 19 ปีค่ะ ตัวหนูเองก็ไม่คิดว่า พริบตาเดียวห้าปีผ่านไปแล้ว...”

ห้าปีเหรอ?

คุณย่าศิริจันทร์ครุ่นคิดหวนนึกถึงเมื่อห้าปีก่อน ราวกับชาลีออกไปจากตระกูลรุ่งโรจน์ เริ่มตั้งแต่เวลานั้นจริงๆ เพื่อสร้างบริษัทการบันเทิงเซ็นจูรี่

หรือว่าเพื่อผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าคนนี้เหรอ?

คุณย่าศิริจันทร์ดึงสายตากลับมา และพูดอย่างเชื่องช้า “ฉันคอแห้งแล้วแหละ”

“งั้นคุณย่ารอหนูสักครู่นะคะ หนูจะไปเทน้ำมาให้คุณย่าค่ะ” เจนนี่ได้ยินแล้วลุกขึ้นทันที พลันหยิบกระเป๋าและยกขึ้นวางบนเก้าอี้

คุณย่าศิริจันทร์ฉวยจังหวะตอนที่เจนนี่ไปเทน้ำ ช้อนกระเป๋าถือใบนั้นมา

คุณภาพไม่ถือว่าหยาบกร้าน จนสามารถมองออก แต่ก็ไม่ถือว่าแบรนด์ดังอะไร...

รอเจนนี่เทน้ำเสร็จแล้วกลับมาแล้ว คุณย่าศิริจันทร์ก็นั่งอย่างเป็นทางการแล้ว

“น้ำค่ะคุณยาย” เจนนี่นำแก้วใสที่ใส่น้ำอุ่นแก้วหนึ่งยื่นให้คุณย่าศิริจันทร์

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้คุณย่าศิริจันทร์ดื่มไม่ลง จึงลูบคลำข้างแก้ว “มันเย็นเกินไปนิด”

“เย็นไปเหรอคะ? หนูตั้งใจลองอุณหภูมิให้แล้วนะคะ!” เจนนี่ครุ่นคิดถึงอายุที่มากของคุณย่า พลันรีบเปลี่ยนแก้วที่อุณหภูมิสูงกว่านี้ และมองมาทางคุณย่าศิริจันทร์และพูดอย่างอ่อนโยน “คุณย่าคะ อุณหภูมิของแก้วนี้น่าจะพอได้แล้วค่ะ”

คุณย่าศิริจันทร์ขมวดคิ้วทันที จังหวะที่ยื่นมือออกไปสัมผัสแก้วน้ำนั้น ตั้งใจทำให้แก้วเอียงเล็กน้อย...

เพล้ง!

แก้วน้ำทั้งใบหกคะเมนคว่ำลงบนพื้น จนแก้วแตกละเอียด

เจนนี่กลัวว่าเศษแก้วแตกจะกระเด็นไปถูกตัวของหญิงชรา จึงดึงเธอให้ถอยหลังมาตามสัญชาตญาณ

แต่ว่ายังมีน้ำกระเซ็นมาโดนหลังฝ่ามือของคุณย่าศิริจันทร์อยู่เล็กน้อย

เจนนี่ฉุกคิดได้ว่าน้ำในอุณหภูมิในแก้วนั้นถือว่าร้อนมาก จึงรีบหยิบทิชชูสะอาดออกมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดให้คุณย่าศิริจันทร์

ซึ่งมือของท่านไม่ได้เนียนนุ่มเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่มีรอยย่น

แต่การถูกเจนนี่กุมฝ่ามือเอาไว้ แต่กลับรู้สึกสบายเกินคาด

เมื่อมองจากสายตาของเธอกลับไม่เห็นความรังเกียจเดียดฉันท์สักนิด

แม้ว่าเด็กสาวคนนี้ไม่มีจุดไหนที่ยอดเยี่ยมเลย แต่พอได้รู้จักก็รู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมากๆ

คุณย่าศิริจันทร์ดึงมือกลับ “พอแล้ว ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

“งั้นเราสั่งอาหารกันต่อเถอะค่ะ” เจนนี่ดึงเก้าอี้กลับมาให้หญิงชรา พลางประคองหญิงชรามานั่ง

คุณย่าศิริจันทร์ยืนนิ่งไร้การขยับเขยื้อน “ตอนนี้ฉันไม่หิวแล้ว หนูจะรังเกียจหรือเปล่าที่จะไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉัน?”

เจนนี่เพ่งมองหญิงชราทันทีทันใด ซึ่งไม่เข้าใจว่าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

พูดว่าหิว พอมาถึงร้านปิ้งย่างข้างทางก็ไม่กินเสียนี่

“งั้นคุณย่ารอหนูเดี๋ยวนะคะ หนูขอไปจ่ายค่าเสียหายที่ทำแก้วแตกก่อนนะคะ...” เจนนี่ถือกระเป๋าขึ้นเพื่อหยิบกระเป๋าเงิน

กระเป๋าเงินวางอยู่ด้านในซอกหลืบ เธอคลำอยู่นานถึงได้คลำออกมา

ที่ตรวจครรภ์สีขาวอ่อนก็ถูกดึงออกมาในเวลานี้อย่างไม่คาดคิด จนหล่นลงอยู่ที่พื้น...

เจนนี่มองเห็นที่ตรวจครรภ์อันนั้น และรีบหยิบขึ้นมายัดใส่กระเป๋าอย่างตาลีตาเหลือก

คุณย่าศิริจันทร์มือไว้ พลันคว้าจากพื้นขึ้นมาก่อนเธอ จึงมองเห็นเส้นสีแดงสองขีด ลักษณะอาการพลันชะงักในชั่วพริบตา...

“อันนี้ของหนูค่ะ”

เจนนี่ลำบากจนทนไม่ไหว พลันฉวยจังหวะตอนที่คุณย่าศิริจันทร์สติหลุดอยู่กลางอากาศ พลันแย่งที่ตรวจครรภ์กลับมา และยัดใส่กระเป๋า รูดซิปปิดอย่างสุดแรง

ใบหูแดงระเรื่อ อายจนหน้าแดงแจ๋จริงๆ

คุณย่าศิริจันทร์อดกลั้นความตื่นตระหนกที่อยู่ในใจ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้แสดงออกมา “ฉันจำได้แล้วว่าฉันยังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนนะ”

“ไม่ต้องให้หนูไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเหรอคะ?” เจนนี่แหงนหน้าเล็กๆ เอ่ยปากถาม

“ไม่ต้องแล้วแหละ” เธอยังต้องรีบไปให้ชาลียืนยัน จะเดินเที่ยวเล่นอะไรล่ะ!

เธอใกล้จะมีเหลนแล้ว!

พลันชะเง้อมองด้านหลังของหญิงชราที่อดทนรอไม่ไหวที่จะกลับออกไป ราวกับกำลังหลบอะไรอยู่ เจนนี่เยาะเย้ยให้ตนเองตรงมุมปาก ดูเถอะ เธอก็รู้อยู่เต็มอก หญิงชรารังเกียจที่เธอไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ต้องรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีอย่างแน่นอน...

ยังไม่ได้แต่งงานแต่ถูกคนทำท้องโตเสียนี่

เจนนี่กัดฟัน เธอเอาเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้

เธอต้องไปทำแท้งเพื่อเอาเด็กคนนี้ออก

พ่อเด็กเป็นใครก็ไม่รู้เลย ถึงแม้คลอดออกมา ก็ต้องทนรับสภาพจากสายตาแปลกประหลาดของคนอื่น

เธอไม่สามารถให้ลูกของเธอเติบโตขึ้นในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ได้

จู่ ๆ เจนนี่ราวกับบอลที่ถูกเจาะลมออก จนหมดอารมณ์จะไปขอยุติสัญญากับชาลีด้วยซ้ำ

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว พลันจองคิวทำแท้งในเว็บไซต์ทันที

เธอไม่สามารถไปโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ประเภทนั้นได้ จึงจำต้องไปคลินิกส่วนตัวที่น่าเชื่อถือได้ ไม่งั้นข่าวที่เธอทำแท้งก็ดังแพร่กระจายออกไป ไม่ต้องรอให้ชาลีมาแก้แค้น ก็หมดโอกาสพลิกชะตาชั่วชีวิต

เธอหาคลินิกส่วนตัวในระดับไฮเอ็นด์แห่งหนึ่งที่มีคนในวงการมากมายไปทำแท้งกัน

พยาบาลสาวสวยในคลินิกนิสัยดีมาก คอยให้คำแนะนำกับเธออีกมากมาย รอจนมาตรฐานตัวชี้วัดในร่างกายทุกอย่างได้มาตรฐานแล้วถึงสามารถดำเนินการทำแท้งได้

เจนนี่จ้องมองข้อควรระวังที่พยาบาลส่งมาให้ทางหน้าจอ เมื่อเห็นหมายกำหนดการจัดคิวให้อีกสามวันหลังจากนี้แล้ว

“งั้นฉันจองคิวผ่าตัดอีกสามวันจากนี้ ได้มั้ยคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊