ก้อยได้ยินเสียงจึงหันหน้ากลับไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
สิดาใช้ไม้กวาดฟาดลงบนเอวของก้อยทันที แถมใช้พละกำลังสุดแรงก้อยเจ็บจนต้องสูดลมเย็นๆ เข้าปาก และโผล่ศีรษะออกจากใต้เตียง พร้อมทั้งจ้องมองสิดาด้วยดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าโกรธเคือง “ฉันเอง! ป้าทำอะไรเนี่ย?”
“กะ……ก้อยเหรอเนี่ย?” สิดาโยนไม้กวาดที่อยู่ในมือเธอทิ้งที่พื้นทันที พลันเร่งตรวจสอบช่วงเอวของก้อย “ขอโทษที แม่คิดว่าขโมยเข้าบ้าน รีบให้แม่ดูเอวแกเร็วว่าช่วงเอวไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“หลีกไปนะ แม่ฉันตายไปตั้งนานแล้ว! คุณเป็นป้าฉันไม่ใช่เหรอ?”
ก้อยความรู้สึกโกรธเคืองผสมปนเป พลันผลักสิดาออกอย่างสุดแรงเกิด
สิดามีความรู้สึกว่าตนเองทำร้ายจิตใจก้อยอยู่เต็มอก การถูกผลักไม่ทันระวังแบบนี้ จนทำให้ร่างกายหงายหลัง
ประจวบเหมาะกับท้ายทอยกระแทกชนเข้ากับขาเตียง
สิดาคลำท้ายทอยเล็กน้อย เหมือนจะมีแผลถลอก แถมยังมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย...
แต่เธอก็ไม่ได้สนใจบาดแผลสักนิด รีบลุกขึ้นจากพื้น และวิ่งไล่ตามก้อยอย่างร้อนรน
“ก้อย แกอย่าทำแบบนี้สิ แม่...แม่ก็ไม่มีวิธีอื่น ตอนนั้นแม่เป็นคนบอกกับทุกคนไปว่าแม่ไร้ญาติขาดมิตร ถ้าจู่ ๆ ดันมีลูกสาวโผล่มาหนึ่งคน ถ้าหากณิชาโกรธขึ้นมา จนไล่แม่ออกไป งั้นเราสองคนแม่ลูกก็ไร้ที่พึ่งอีกแล้วนะ...”
ไม้กวาดอันนั้นโชยกลิ่นแปลกประหลาดออกมา ก้อยรู้สึกสกปรกมาก จึงถอดเสื้อคลุมออกไปโยนลงถังขยะ พร้อมทั้งแสดงท่าทางรังเกียจที่สุด
เธอเดินกลับไปยังห้องนอนเพื่อเปิดตู้เสื้อผ้า ภายในยังแขวนเสื้อผ้าตัวใหม่เอาไว้
ขนาดยังไม่ได้แกะป้ายแบรนด์ที่คล้องเอาไว้ออกด้วยซ้ำ ซึ่งเธอใช้เงินของณิชาหรือสิดาซื้อมาทั้งหมด
หลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมทรงหลวมตัวยาวที่มีราคา 25,000 บาทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างหมดความอดทน “พูดตรงๆ คุณแค่เสียดายชีวิตเลิศหรูของคุณ ตอนนั้นที่ทอดทิ้งฉันกับพ่อก็คงเป็นแบบนี้แหละมั้ง?”
“…” การถูกลูกสาวแท้ๆ เยาะเย้ยใส่แบบนี้ ดวงตาสิดาแดงก่ำ เจ็บปวดหัวใจอย่างสุดทน
เธอแอบปาดน้ำตา เธอคลี่ยิ้มรอยยิ้มเล็กน้อย “แม่เห็นว่าแกเหมือนกำลังควานหาสิ่งของอะไรอยู่ ทำอะไรหายเหรอ?”
เดิมทีก้อยก็ไม่อยากสนใจสิดา เมื่อได้ยินเธอถามออกมาเช่นนี้ จึงแสร้งทำสีหน้าดีๆ ใส่ให้เธออย่างฝืนทน
เธอดึงสิดาเข้าไปในห้องนอน พร้อมทั้งชี้ไปที่ภาพครอบครัวขนาดใหญ่ที่ติดฝากำแพงรูปนั้น
“กำไลที่ณิชาใส่อยู่วงนี้อยู่ที่ไหน?” เธอไม่ใส่อยู่ จึงถามเธอตรงๆ
สิดามองไปตามมือเธอที่ชี้ไป พลันจ้องมองกำไลที่อยู่ในรูปภาพ พร้อมทั้งครุ่นคิดอยู่สักพัก “แก...แกถามถึงเรื่องนี้ทำไมกัน?”
“คุณอยากจะชดใช้ฉันคืนไม่ใช่เหรอ งั้นฉันต้องการให้คุณเอากำไลวงนี้มาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
สิดาพูดตะกุกตะกัก“กำไลวงนี้สุขุมเขาทิ้งไว้ให้ณิชา บอกว่าเป็นสิ่งของที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าแหละ แกเอาอันนี้ไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ถ้าแกชอบกำไล เอาไว้วันอื่นฉันจะไปซื้อวงใหม่ให้แกหนึ่งวง”
“สิ่งของที่แม่เธอทิ้งไว้ดูต่างหน้างั้นเหรอ?” ก้อยพูดซ้ำทวนประโยคนี้ พลันคว้าสิดาทันที “พูดมาคำเดียวตกลงว่าคุณจะให้ฉันมั้ย!”
“ฉัน...” หัวใจหดหู่สะท้อนออกทางแววตาของสิดา “คุณสุขุมย้ำนักย้ำหนากำไลนั่นเอาไว้ณิชา...”
ก้อยโมโหทันที เธอสะบัดสิดาอย่างสุดแรง พลันพูดอย่างเยือกเย็น “พูดไปพูดมา ลูกสาวของคนอื่นมันสำคัญกว่าฉันใช่มั้ย? คุณยังอยากจะให้ฉันยอมรับคุณ งั้นคุณก็ต้องเอากำไลวงนี้มาให้ฉัน! ไม่งั้นฉันจะย้ายออกไปเดี๋ยวนี้ ไปนอนหิวตายข้างถนนคุณก็ไม่ต้องมาสนใจ!”
“ก้อย แกอย่าเพิ่งเอาแต่ใจเลย ตอนนี้ณิชาเป็นคนของคุณเวธัส แกเชื่อฟังหน่อย ถึงเวลานั้นค่อยให้พี่เขยของแกแนะนำผู้ชายดีๆ ให้แกสักคน ครึ่งชีวิตที่เหลือของฉันก็ไม่ต้องมานั่งวิตกกังวลอีกแล้ว...”
ศีรษะของสิดาในตอนนี้เริ่มแสดงอาการมึนเล็กน้อย บริเวณที่ถูกกระแทกจนได้รับบาดเจ็บ เจ็บจี๊ดเหมือนมีอะไรทิ่มแทง เหงื่อเย็นผุดเต็มหน้าผาก
ก้อยเห็นว่าเธอไม่ยอมเอากำไลมาให้เธอ จึงเดินออกไปทางด้านนอกอย่างโกรธเคือง
สิดารีบวิ่งตามทันควัน ด้านหน้าปรากฏเงาตะคุ่ม พลันดึงมือของเธอเอาไว้ “ก้อย แกฟังแม่นะ กำไลอันนี้ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ยอมให้แก แต่ว่า...”
แอ๊ด...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...