กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 377

เธอไม่กินอาหารมานานมาก หิวจนดวงตาพร่ามัว กรดไหลย้อนกำลังกัดกินกระเพาะของเธอ ณิชาเตรียมตักโจ๊กที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้า และค่อยๆ ป้อนเธอทีละน้อยๆ

น้ำตาแวววาวในดวงตาของสิดาจ้องมองณิชา ดวงตากลอกกลิ้งวนไปรอบๆ ราวกับกำลังหาใครอยู่

“ไม่ต้องมองหาหรอกค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนวานตอนที่แม่ผ่าตัดก็ไม่เห็นหน้าก้อยแล้วค่ะ” ณิชาพูดตรงตามความเป็นจริง

น้ำตาที่หวั่นไหวอยู่ในดวงตาของสิดายิ่งท่วมท้นมากกว่าเดิม

ตอนที่เธอถูกหามส่งมาที่โรงพยาบาล แม้ว่าจะสลบก็ตาม แต่ก็สามารถฝืนจนรู้สึกความเคลื่อนไหวจากโลกภายนอกได้ แค่ตัวเองพูดไม่ได้อ้าปากก็ไม่ได้ ก้อยรู้ว่าเธอต้องผ่าตัด แต่ไม่ยอมจะอยู่เป็นเพื่อนกับเธอให้นานสักหน่อยเลยเหรอ?

สิดาผิดหวังถึงขีดสุด

ณิชายิ่งรู้สึกว่าท่าทีที่สิดาแสดงต่อก้อยแปลกประหลาดมากขึ้นกว่าเดิม “แม่ ตอนนี้ก้อยไม่อยู่ที่นี่ แม่พูดความจริงกับหนูนะ ตกลงว่าก้อยกับแม่ มีความสัมพันธ์กันยังไงแน่ ต้นเหตุที่ทำให้มีแผลบาดเจ็บบริเวณท้ายทอยเป็นเพราะว่าเธอใช่มั้ย?”

เส้นผมบนศีรษะของสิดาถูกโกนจนเกลี้ยง แถมยังผ้าพันแผลเอาไว้ อยากจะส่ายหน้าแต่กลับปวดหัวเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง

“แม่ไม่ทันระวังจนหกล้มเอง”

“แม่คิดว่าหนูจะเชื่อมั้ยล่ะ?” ณิชาจ้องเธอตาเขม็ง

ความรู้สึกหดหู่ของสิดาไม่กล้าสบตาณิชาตรงๆ สายตาเลื่อนลอยไปมา จังหวะเวลานั้นเอง กลับมองเห็นก้อยยืนอยู่หน้าประตูอย่างเซอร์ไพรส์มาก ความรู้สึกนับร้อยนับพันมากระจุกจนตะโกนกู่ก้องออกไป “ก้อย…”

เมื่อก้อยที่เพิ่งจะมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินณิชาซักถามสิดา จนหัวใจใกล้จะกระโดดออกมาอยู่แล้ว

“คุณป้า...” เธอเปลี่ยนมาใช้ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างยินดี พลันกระโจนพุ่งเข้าหาอย่างกระตือรือร้น และโอบอุ้มมือสิดาเอาไว้ “คุณป้าสลบไสลจนถูกหามส่งโรงพยาบาล หนูเป็นห่วงคุณป้าจริงๆ จนจะบ้าตายอยู่แล้วค่ะ! พอได้ยินว่าเมืองพรของเรามีวัดหนึ่งที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อคืนนี้หนูไปขอยันต์ศักดิ์สิทธิ์ให้รอดปลอดภัยมาให้ป้าแผ่นหนึ่งค่ะ”

ก้อยหยิบยันต์สีเหลืองที่พับเป็นรูปสามเหลี่ยมออกมาจากกระเป๋าอันหนึ่ง

สิดายิ้มให้อย่างชื่นชม จากนั้นก็หยิบยันต์มาแนบไว้ที่อก เบ้าตาแดง

ก้อยทำเสียงออดอ้อนสิดา “คุณป้า คุณป้าไม่เป็นไรก็ดีจังเลยค่ะ หลวงพ่อท่านพูดว่าคุณป้าดวงแข็งอายุยืน”

สิดาลูบกระหม่อมศีรษะของเธอด้วยความรัก ถึงกลับซาบซึ้งจนพูดไม่ออก

ต่อหน้าสิดา ณิชาไม่อยากสร้างความอับอายให้ก้อย จึงแค่ยิ้มให้ก้อยเล็กน้อย “น้องก็ช่างตั้งใจมาก ไปขอพรที่วัดกลางดึกกลางดื่น ไม่ง่ายเลยใช่มั้ย?”

“ยังดีค่ะ หลวงพ่อท่านเห็นว่าฉันมีความจริงใจ ก็เลยไม่ได้ทำให้ฉันลำบากใจ...”

สิดาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรงมาก อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เมื่อครู่ ณิชากับก้อยจึงไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนนานมากเกิน

รอจนสิดาผล็อยหลับอีกครั้ง ณิชาก็ลากก้อยไปทางเดินนอกห้องพักผู้ป่วยทันที

“พี่ พี่คิดจะทำอะไร? พี่ลากฉันมาฉันเจ็บนะ!” ก้อยตะโกนเสียงทุ้มต่ำ

เมื่อเดินมาถึงหัวมุมทางเดินด้านนอก จวนจะถึงปากทางระเบียงตรงหัวมุม ณิชาสะบัดก้อยออกเต็มแรง น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ฉันหาคอนโดให้แกแถว ๆ สนธิไชยกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว แกย้ายออกตอนบ่ายนี้เลย”

“พะ...พี่ไล่ฉันออกเหรอ?” ก้อยไม่อยากจะเชื่อ

ณิชาหยิบธนบัตรสีเทาปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและยัดให้ก้อย “รับเงินนี้เอาไว้แล้วแกก็ย้ายออกไป หรือแกจะไสหัวออกจากสนธิไชยกรุ๊ป แกตัดสินใจเอาเอง”

ก้อยขบฟันและกัดริมฝีปากด้านล่างไว้แน่น เงียบงันอยู่สักพัก พลันคว้าเงินปึกนั้นที่ณิชาให้เธอมา และพูดอย่างดื้อรั้น “ฉันย้ายออกก็ได้!”

เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับการพักอยู่กับสิดา เธอยินยอมพร้อมใจรักษางานที่สนธิไชยกรุ๊ปอย่างแน่นอน

ภายภาคหน้าถ้าน้ำตาลรู้สึกว่าเธอไม่มีประโยชน์แล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังมีประสบการณ์ทำงาน...

หรือไม่เธอก็จับหนุ่มไฮโซรวยๆ สักคน ครึ่งชีวิตที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

“ถ้าแม่ฉันถามขึ้นมา แกรู้ว่าควรจะตอบยังไงใช่มั้ย?”

“…ฉันจะบอกว่าไปทำงานไม่สะดวก ฉันอยากจะย้ายเอง!”

“เก็บน้ำตาอันน่าสงสารของแกไปซะเถอะ ฉันไม่หลงกลกับวิธีนี้หรอก อย่าทำเหมือนว่าฉันรังแกเลย ฉันคิดว่าฉันปฏิบัติต่อแกดีมากๆ” ณิชาพูดทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง และเดินจากไปอย่างหงุดหงิดใจ

ก้อยโมโหจัดจนกระทืบเท้า พลันใช้สายตาหันไปมองทางห้องพักผู้ป่วยของสิดา

เมื่อวานเธอเพิ่งพูดได้ครึ่งเดียวเท่านั้นเองณิชาก็กลับมาแล้ว

เธอพูดว่ากำไลข้อมือไม่อยู่ที่บ้านหมายความว่ายังไง?

หรือว่าสุขุมเอาไปแอบซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว หรือณิชาเอาไว้ติดตัวแล้ว?

คุณน้ำตาลต้องการกำไลข้อมืออันนั้นอย่างเร่งด่วน มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้นนะ?

……

ตอนที่เวธัสกลับมาที่สนธิไชยกรุ๊ป เอกตรวจสอบจนได้ข้อมูลภูมิหลังของก้อยออกมาเรียบร้อยแล้ว

“คุณเวธัสครับ ผมไปตรวจสอบเรื่องก้อยมาแล้ว” เอกยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเวธัส ท่าทางเคร่งขรึม “อีกอย่าง ตอนที่ผมกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ค้นพบว่ามีคนแอบลบข้อมูลของเธอครับ”

เวธัสย่นคิ้ว “รู้มั้ยว่าเป็นฝีมือใครทำ?”

“ลูกน้องของผมเร็วกว่าหนึ่งก้าว เมื่อคนคนนั้นพบว่าเรื่องมันแดงขึ้นมาจึงถอนตัวออกไปแล้วครับ” เอกส่ายหน้าทันที

เวธัสรับเอกสารเหล่านั้นมาเปิดดู เมื่อพูดถึงภูมิหลังของก้อยความจริงมันก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังนี่ ซึ่งเหมือนกับที่ตัวเธอเองแนะนำตัว อยู่กับบิดาสองคน ที่บ้านยากจนมาก อาศัยอยู่ในชนบทตั้งแต่เล็กจนโต

ไม่ใช่คนชอบเรียนหนังสือ แต่พ่อของเธอก็ดีกับเธอมาก ใจเด็ดมุ่งมั่นที่ส่งเธอไปเรียนหนังสือให้ได้

สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ติด แถมยังใช้เงินเก็บออมมาครึ่งชีวิตเพื่อส่งเธอไปเรียนบวช.ทางการแพทย์ แต่หลังจากเธอเรียนจบการศึกษามาก็ไม่ได้ทำงานสายแพทย์เลย บริเวณที่ให้เติมประสบการณ์ทำงานกลับว่างเปล่า

น่าจะไปทำงานจำพวกพาร์ทไทม์อะไรพวกนั้น ดังนั้นจึงไม่มีการบันทึก

เมื่อเวธัสใช้สายตากวาดตามองช่องข้อมูลมารดาของก้อยในเวลานั้น หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนแน่นกว่าเดิม--

“สิดารัตน์เหรอ?”

“ใช่ครับ ข่าวว่าแม่ของก้อยอยู่กับพ่อเธอและคลอดเธอออกมาตอนอายุ 10 ปลายๆ ตอนนั้นอายุไม่ถึงจึงไม่สามารถจดทะเบียนได้ ต่อมาก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จู่ ๆ เธอก็หายตัวไปเลย” เอกกล่าวอธิบาย

“หายตัวไปเลย?”

“ผมถามคนในพื้นที่แล้ว พวกเขาพูดว่าสิดารัตน์เป็นพวกหัวสูงตั้งแต่เด็ก ต้องรังเกียจที่พ่อของก้อยยากจน จึงหนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้วครับ”

เวธัสได้ยินคำบอกเล่ามาทั้งหมด พลันจ้องรูปภาพของ “สิดารัตน์” ตอนอายุสิบปลายๆ ทันใดนั้นมุมปากก็ยกขึ้นอย่างหยอกล้อ

สิดารัตน์?สิดา……

มิน่าล่ะสิดาถึงได้ให้ท้ายก้อยขนาดนั้น ที่แท้ก็ไม่ใช่หลานสาวอะไรเลย แต่เป็นลูกสาวแท้ๆ ที่ถูกทอดทิ้งไปเมื่อหลายปีก่อน! วันนี้อุตส่าห์แบกหน้ามาหาถึงที่ เธอย่อมอดใจไม่ไหวที่ควักหัวใจทั้งดวงถวายเป็นการชดใช้เธอ....

“คุณเวธัส ยังต้องตรวจสอบต่อมั้ยครับ?” เอกถามซ้ำ

“ไม่ต้องแล้วแหละ ผมพอจะรู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” แม้ว่าสิดาจะทอดทิ้งลูกสาว งั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับณิชานะสิ

ถ้าเธอกล้าไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ งั้นก็รนหาที่ตายเองนะ

……

ในเวลาเดียวกัน DS Group

น้ำเพชรตั้งใจเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีเข้ม ใส่เสื้อคลุมทับด้านนอก กระโปรงตีเกล็ดเข้ารูปตรงช่วงเอว รูปร่างเพอร์เฟคดุเดือด เซ็กซี่ขยี้ใจ

ตนเองคิดว่ามีเสน่ห์ยั่วยวนไร้คนเปรียบเทียบ อีกสักพักต้องแทนที่ณิชาได้อย่างแน่นอน และสามารถเซ็นสัญญาความร่วมมือได้อย่างราบรื่น

เมื่อมาถึงบนตึกของDS Group เธอนึกว่าคนที่เข้ามาต้อนรับตนเองจะเป็นกองทัพ จึงได้เตรียมพร้อมเพื่อให้เขาได้แต๊ะอั๋งเธอไว้เรียบร้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือเมื่อกองทัพเห็นเธอปุ๊บ ในทางกลับกันขมวดคิ้วนิ่วหน้าทันที

“ทำไมคนที่มาถึงเป็นคุณล่ะ?”

ก่อนหน้านี้น้ำเพชรเคยเข้าร่วมประชุมสุดยอดธุรกิจมาครึ่งหนึ่งแล้ว และมีโอกาสได้พบเจอหน้าตากองทัพอยู่หลายครั้ง

กองทัพสายตาหื่นกระหายกับความสวยหยาดเยิ้มของเธอมากมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ถึงไม่ชอบนะ?

น้ำเพชรฉีกยิ้มริมฝีปากแดง ยิ้มหวานมีเสน่ห์ยั่วยวนมาก “คุณณิชาวันนี้ไม่สบายค่ะเลยขอลาป่วย ดังนั้นคุณรวินทร์จึงให้ฉันมาเซ็นสัญญาค่ะ คุณณิชาตกลงเงื่อนไขของคุณ ฉันสามารถรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ค่ะ”

“ลาป่วยเหรอ?” กองทัพไม่มีความยินดี “งั้นทำไมคุณถึงไม่โทรศัพท์แจ้งก่อน?”

“เรื่องนี้มันก็ไม่ส่งผลกระทบกับการเซ็นสัญญาของเรานี่คะ”

“ประเด็นสำคัญคือคนที่ต้องการพบณิชาไม่ใช่ผม แต่เป็น...”

“คุณทัพ คนมาแล้วเหรอ? คุณหนูใหญ่รอจนเบื่อแล้วเนี่ย” กองทัพยังพูดไม่ทันจบประโยค เลขานุการสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากลิฟต์ และสอบถามกองทัพทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊