“เอ่อ...” สิดาได้ยินก็ยิ่งลำบากใจ
“ถ้าแม่ไม่ยอมเอากำไลวงนั้นมาให้ฉัน ฉันก็เข้าใจได้ เพราะนั่นคือเป็นสิ่งของของพี่เค้า” ก้อยสูดลมหายใจเข้าอย่างหมดหวัง พลันพูดอย่างเฉียบขาด “งั้นก็รอวันที่หนูตาย แม่จำไว้นะต้องรับศพหนูด้วย...”
“เด็กโง่ แม่ไม่อนุญาตให้แกพูดออกมาแบบนี้! กำไลวงนั้นใช่ว่าฉันไม่ให้แกจริงๆ แต่...แม่เอาไปจำนำแล้วนะสิ”
ก้อยลุกขึ้นพรวดพราด ไม่อยากจะเชื่อ “จำนำเหรอ?”
สิดาหลุบตาลงอย่างเขินอาย หน้าแดงระเรื่อ และพูดตะกุกตะกัก “กำไลวงนั้นเดิมต้องให้ณิชา แต่เวลานั้นเธออายุยังน้อย กลัวว่าจะทำหาย จึงเอาไปเก็บไว้ในตู้เซฟของธนาคาร แต่ต่อมาเกิดเรื่องขึ้นกับคุณท่านจึงต้องใช้เงินเพื่อหมุนเงินอย่างเร่งด่วน ฉันก็กลัวว่าทรัพย์สินจะถูกยึดทั้งหมด จึงได้เอาสิ่งของที่มีค่าไปจำนำไว้ก่อนล่วงหน้า...”
“พี่ณิชารู้เรื่องทั้งหมดหรือเปล่า?”
“กำไลวงนั้นอยู่ในตู้เซฟสิบกว่าปีมาโดยตลอด เธอจะจำได้ยังไง?”
ก้อยไล่ถามอย่างร้อนใจ “โรงรับจำนำร้านไหน? ไปไถ่คืนได้มั้ย?”
……
ณิชารับเด็กน้อยสองคนมาเยี่ยมสิดาที่โรงพยาบาล
เธอค้นพบว่าเบ้าตาสิดาแดงก่ำมาก เหมือนร้องไห้มาจนตาบวมเปล่ง
เธอลองใจสอบถามไปหลายคำ สิดาเอาแต่สงบปากสงบคำไม่กล้าพูด ณิชาก็แสร้งทำทีไม่รู้เรื่องต่อไป
คืนนั้น เวธัสเลิกงานก็มารับคนโตกับเด็กน้อยสองคนกลับบ้าน พลันหาพยาบาลพิเศษอีกหลายคนมาคอยเฝ้าสิดา
เด็กน้อยสองคนปีนขึ้นไปนั่งเบาะรถด้านหลังอย่างรวดเร็วและนั่งอย่างเรียบร้อย
ณิชาจ้องมองเห็นรอยเขียวช้ำใต้ตาเวธัส จึงนั่งตำแหน่งข้างคนขับรถพลันเพ่งจ้องเขาขับรถ
เพิ่งจะนั่งลงบนตำแหน่งข้างคนขับ ทันใดนั้นร่างกายอันสูงใหญ่ของชายหนุ่มก็โน้มตัวเขยิบเข้าใกล้
ณิชาตกใจจนรูม่านตาขยายใหญ่ ขนาดหยุดหายใจด้วยซ้ำ...
วินาทีต่อมา เมื่อเห็นว่าเขาดึงเข็มขัดนิรภัยให้ มีเสียงกริ๊กที่คาดเข็มขัดเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็เดิมอ้อมไปยังตำแหน่งขับรถ
หัวใจณิชาเต้นผิดจังหวะ จนเกลือบคิดว่าเขาจะจูบเธอต่อหน้าลูกสองคน
เฮ้อ เธอยิ่งคิดเป็นตุเป็นตะขึ้นเรื่อยจริงๆ
“หม่ามี๊ โรงเรียนอนุบาลของเราได้ให้การบ้านในชีวิตประจำวันมาหนึ่งอย่าง” เสียงไร้เดียงสาของน้องอรัลเรียกสติณิชาให้หลุดออกจากความมาอย่างกะทันหัน
ณิชาหันหน้าไปอย่างเชื่องช้า ลมหายใจสม่ำเสมอ “การบ้านอะไรนะคะ?”
ปัณณ์โผล่ศีรษะอันดำขลับออกมา พลันคลี่ยิ้มอย่างเท่ “คุณครูให้พวกเราปลูกต้นไม้ ยังให้บันทึกการเจริญเติบโตของมันด้วยครับ รอจนถึงช่วงขึ้นชั้นเรียนตอนปีหน้า ก็จะเอาเปิดบันทึกคลิปสั้นของทุกคน และคัดเลือกยอดเยี่ยมที่สุด และให้ดอกไม้สีแดงห้าดอกเป็นรางวัลครับ”
ดอกไม้สีแดงห้าดอก?
ว้าว รางวัลนี้มันเยอะอยู่นะเนี่ย!
ณิชาให้ความสำคัญในการอบรมเลี้ยงดูลูกอย่างจริงจังมาก จึงเกิดความกระตือรือร้นทันที พลันดึงชายเสื้อเวธัส “อย่าเพิ่งกลับบ้านนะคะ เราไปเดินเที่ยวตลาดสวนดอกไม้กันค่ะ”
เวธัสไม่ได้คิดแบบนั้นสักนิด “ที่บ้านก็มีกระถางต้นไม้สำเร็จรูปเยอะแยะไม่ใช่เหรอครับ?”
“นั่นมันเป็นที่หม่ามี๊เป็นคนปลูกนะครับ” ปัณณ์ไม่เห็นด้วยเต็มที่ ดวงตาโตเปล่งประกายฝากความหวัง “ปัณณ์กับอรัลจะปลูกเอง แถมยังเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน เพื่อรอเอามารับรางวัลที่โรงเรียนอนุบาลครับ”
เวธัสเลิกคิ้ว “ตอนนี้มันหน้าหนาวแล้ว พวกลูกมั่นใจใช่มั้ยว่าปลูกแล้วจะไม่ตาย?”
“ลูกชายเชื่อมั่นมาก คุณมาทำให้ผิดหวังแบบนี้ไม่ได้นะ!” ณิชาค้อนใส่คุณพ่ออายุเยอะท่านหนึ่ง
ทำไมถึงได้ทำลายความมั่นใจของเด็กๆ ได้นะ?
ปัณณ์แหงนหน้าขึ้นอย่างออดอ้อน “พวกเราจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังครับ”
เวธัสชำเลืองมองเวลาที่ปรากฏอยู่บนGPS ซึ่งเลี้ยวกลับรถตรงสี่แยกไฟแดงอยู่ทางด้านหน้า ซึ่งสามารถวิ่งตรงไปยังตลาดสวนดอกไม้ได้เลย
แม้ว่าจะเป็นหน้าหนาว แต่ความหลากหลายของตลาดไม้ดอกยังคงเยอะจนทำให้เวียนหัวเหมือนเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...