กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 379

สรุปบท บทที่ 379 การบ้านในชีวิตประจำวันของเด็กๆ: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊

สรุปเนื้อหา บทที่ 379 การบ้านในชีวิตประจำวันของเด็กๆ – กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ โดย เมียวเมียว

บท บทที่ 379 การบ้านในชีวิตประจำวันของเด็กๆ ของ กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“เอ่อ...” สิดาได้ยินก็ยิ่งลำบากใจ

“ถ้าแม่ไม่ยอมเอากำไลวงนั้นมาให้ฉัน ฉันก็เข้าใจได้ เพราะนั่นคือเป็นสิ่งของของพี่เค้า” ก้อยสูดลมหายใจเข้าอย่างหมดหวัง พลันพูดอย่างเฉียบขาด “งั้นก็รอวันที่หนูตาย แม่จำไว้นะต้องรับศพหนูด้วย...”

“เด็กโง่ แม่ไม่อนุญาตให้แกพูดออกมาแบบนี้! กำไลวงนั้นใช่ว่าฉันไม่ให้แกจริงๆ แต่...แม่เอาไปจำนำแล้วนะสิ”

ก้อยลุกขึ้นพรวดพราด ไม่อยากจะเชื่อ “จำนำเหรอ?”

สิดาหลุบตาลงอย่างเขินอาย หน้าแดงระเรื่อ และพูดตะกุกตะกัก “กำไลวงนั้นเดิมต้องให้ณิชา แต่เวลานั้นเธออายุยังน้อย กลัวว่าจะทำหาย จึงเอาไปเก็บไว้ในตู้เซฟของธนาคาร แต่ต่อมาเกิดเรื่องขึ้นกับคุณท่านจึงต้องใช้เงินเพื่อหมุนเงินอย่างเร่งด่วน ฉันก็กลัวว่าทรัพย์สินจะถูกยึดทั้งหมด จึงได้เอาสิ่งของที่มีค่าไปจำนำไว้ก่อนล่วงหน้า...”

“พี่ณิชารู้เรื่องทั้งหมดหรือเปล่า?”

“กำไลวงนั้นอยู่ในตู้เซฟสิบกว่าปีมาโดยตลอด เธอจะจำได้ยังไง?”

ก้อยไล่ถามอย่างร้อนใจ “โรงรับจำนำร้านไหน? ไปไถ่คืนได้มั้ย?”

……

ณิชารับเด็กน้อยสองคนมาเยี่ยมสิดาที่โรงพยาบาล

เธอค้นพบว่าเบ้าตาสิดาแดงก่ำมาก เหมือนร้องไห้มาจนตาบวมเปล่ง

เธอลองใจสอบถามไปหลายคำ สิดาเอาแต่สงบปากสงบคำไม่กล้าพูด ณิชาก็แสร้งทำทีไม่รู้เรื่องต่อไป

คืนนั้น เวธัสเลิกงานก็มารับคนโตกับเด็กน้อยสองคนกลับบ้าน พลันหาพยาบาลพิเศษอีกหลายคนมาคอยเฝ้าสิดา

เด็กน้อยสองคนปีนขึ้นไปนั่งเบาะรถด้านหลังอย่างรวดเร็วและนั่งอย่างเรียบร้อย

ณิชาจ้องมองเห็นรอยเขียวช้ำใต้ตาเวธัส จึงนั่งตำแหน่งข้างคนขับรถพลันเพ่งจ้องเขาขับรถ

เพิ่งจะนั่งลงบนตำแหน่งข้างคนขับ ทันใดนั้นร่างกายอันสูงใหญ่ของชายหนุ่มก็โน้มตัวเขยิบเข้าใกล้

ณิชาตกใจจนรูม่านตาขยายใหญ่ ขนาดหยุดหายใจด้วยซ้ำ...

วินาทีต่อมา เมื่อเห็นว่าเขาดึงเข็มขัดนิรภัยให้ มีเสียงกริ๊กที่คาดเข็มขัดเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็เดิมอ้อมไปยังตำแหน่งขับรถ

หัวใจณิชาเต้นผิดจังหวะ จนเกลือบคิดว่าเขาจะจูบเธอต่อหน้าลูกสองคน

เฮ้อ เธอยิ่งคิดเป็นตุเป็นตะขึ้นเรื่อยจริงๆ

“หม่ามี๊ โรงเรียนอนุบาลของเราได้ให้การบ้านในชีวิตประจำวันมาหนึ่งอย่าง” เสียงไร้เดียงสาของน้องอรัลเรียกสติณิชาให้หลุดออกจากความมาอย่างกะทันหัน

ณิชาหันหน้าไปอย่างเชื่องช้า ลมหายใจสม่ำเสมอ “การบ้านอะไรนะคะ?”

ปัณณ์โผล่ศีรษะอันดำขลับออกมา พลันคลี่ยิ้มอย่างเท่ “คุณครูให้พวกเราปลูกต้นไม้ ยังให้บันทึกการเจริญเติบโตของมันด้วยครับ รอจนถึงช่วงขึ้นชั้นเรียนตอนปีหน้า ก็จะเอาเปิดบันทึกคลิปสั้นของทุกคน และคัดเลือกยอดเยี่ยมที่สุด และให้ดอกไม้สีแดงห้าดอกเป็นรางวัลครับ”

ดอกไม้สีแดงห้าดอก?

ว้าว รางวัลนี้มันเยอะอยู่นะเนี่ย!

ณิชาให้ความสำคัญในการอบรมเลี้ยงดูลูกอย่างจริงจังมาก จึงเกิดความกระตือรือร้นทันที พลันดึงชายเสื้อเวธัส “อย่าเพิ่งกลับบ้านนะคะ เราไปเดินเที่ยวตลาดสวนดอกไม้กันค่ะ”

เวธัสไม่ได้คิดแบบนั้นสักนิด “ที่บ้านก็มีกระถางต้นไม้สำเร็จรูปเยอะแยะไม่ใช่เหรอครับ?”

“นั่นมันเป็นที่หม่ามี๊เป็นคนปลูกนะครับ” ปัณณ์ไม่เห็นด้วยเต็มที่ ดวงตาโตเปล่งประกายฝากความหวัง “ปัณณ์กับอรัลจะปลูกเอง แถมยังเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน เพื่อรอเอามารับรางวัลที่โรงเรียนอนุบาลครับ”

เวธัสเลิกคิ้ว “ตอนนี้มันหน้าหนาวแล้ว พวกลูกมั่นใจใช่มั้ยว่าปลูกแล้วจะไม่ตาย?”

“ลูกชายเชื่อมั่นมาก คุณมาทำให้ผิดหวังแบบนี้ไม่ได้นะ!” ณิชาค้อนใส่คุณพ่ออายุเยอะท่านหนึ่ง

ทำไมถึงได้ทำลายความมั่นใจของเด็กๆ ได้นะ?

ปัณณ์แหงนหน้าขึ้นอย่างออดอ้อน “พวกเราจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังครับ”

เวธัสชำเลืองมองเวลาที่ปรากฏอยู่บนGPS ซึ่งเลี้ยวกลับรถตรงสี่แยกไฟแดงอยู่ทางด้านหน้า ซึ่งสามารถวิ่งตรงไปยังตลาดสวนดอกไม้ได้เลย

แม้ว่าจะเป็นหน้าหนาว แต่ความหลากหลายของตลาดไม้ดอกยังคงเยอะจนทำให้เวียนหัวเหมือนเดิม

เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนที่ชลิดาต้องการพบคือณิชา? อีกอย่างเหมือนเข้าใจลักษณะของณิชามาก หรือว่า...เป็นที่สามีของณิชา? ชลิดาสนใจในตัวสามีของณิชาเหรอเนี่ย?

ดังนั้นจำยอมรับสภาพ เมื่อเดินออกจากห้องประชุม น้ำเพชรโทรศัพท์หาณิชาทันที

อีกฝั่ง เมื่อณิชากลับมาถึงบ้านก็กำลังจัดเรียงกระถางปลูกต้นไม้ชุดใหญ่เป็นเพื่อนเด็กน้อยทั้งสองคน

เวธัสใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจริงๆ ซื้อมาเยอะเกิน ขนาดระเบียงนอกหน้าต่างใกล้จะวางไม่ได้อยู่แล้ว!

เธออดคิดไม่ได้ หรือจะทำระเบียงตรงห้องครัวเลยดีมั้ย?

เด็กน้อยทั้งสองคนจัดเรียงกระถางต้นไม้อย่างเป็นระเบียบ

เวธัสนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา และต้องมองพวกเขาที่กำลังยุ่งกันอยู่

เวลานั้นเอง โทรศัพท์ของณิชาที่วางอยู่บนหน้าเคาน์เตอร์หน้าโซฟากันสั่นเทา เธอกำลังยุ่งอยู่กับการจัดกระถางต้นไม้ จึงตะโกนพูดกับเวธัสติดปาก “โทรศัพท์ฉันดังค่ะ ช่วยดูหน่อยได้มั้ยคะว่าใครโทรมา?”

เวธัสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นหน้าจอปรากฏชื่อ พลันกดหยุดทันที

จากนั้น เขาก็ตัดการสื่อสารไปดื้อๆ

ณิชาอาจยังไม่รู้ แต่เขาได้ข่าวมาแล้ว ชลิดาจับน้ำเพชรโยนออกจากDS Group แถมยังฝากคำพูดมาด้วยว่าวีเอสเอ กรุ๊ปไร้ความจริงใจ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้น้ำเพชรต้องมาขอร้องเธอ

ณิชาสงสัย “ทำไมถึงตัดสายให้ฉันล่ะคะ?”

“พวก Call center” เวธัสพูดสวนกลับทันทีอย่างเฉยเมย

“ช่วงนี้ฉันได้รับเบอร์แบบนี้บ่อยมาก! แถมยังมีขายประกันและขายบ้าน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบอร์มันหลุดรั่วไหลออกไปตอนไหน?” ณิชาเชื่อว่าเป็นความจริง จึงบ่นกระปอดกระแปด

“อาจจะเป็นครั้งที่แล้วที่เราลงทะเบียนในเว็บไซต์สอนพิเศษ แล้วทิ้งเบอร์เอาไว้ครับ” อรัลโผล่หน้าออกมาจากกระถางต้นไม้ที่จัดระเบียบเป็นแถว

ดวงตาเปล่งประกาย ราวกับดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า

ณิชาอบอุ่นหัวใจ ไม่หมกมุ่นเรื่องนี้อีกเลย พลันย้ายกระถางต้นไม้กับเด็กน้อยทั้งสองคนต่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊