กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 380

ฝ่ามือใหญ่หนึ่งข้างกับมือเล็กสองข้าง เลอะเทอะมอมแมมอย่างรวดเร็ว จนมีแต่สีเทาเปื้อนเลอะเปรอะอีกชั้น

หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว ณิชาก็พูดกับหนุ่มน้อยทั้งสองคน “เจ้าของร้านส่งฮอร์โมนปุ๋ยน้ำให้ไม่พอ พรุ่งนี้แม่จะไปซื้อเพิ่มอีกสักหน่อย ถือวิสาสะไปเลือกกล้องถ่ายวิดีโอมาอันหนึ่ง เอาไว้มาถ่ายคลิปให้ลูกๆนะคะ”

สามคนแม่ลูกนัยน์ตาเปล่งประกายอย่างมีความสุข เวธัสได้ไม่ร่วมวงเป็นหนึ่งในนั้น แต่กลับภาคภูมิใจมากขึ้น

ขณะนั้นเอง น้ำเพชรโทรศัพท์กลับมาอีกครั้งแล้ว

ณิชาเดินออกจากระเบียง ยังไม่ทันได้ล้างมือ ในใจก็คิดว่าถ้าเป็น Call center แหละ เธอจึงตรึกตรองว่าจะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้ว

เวธัสเหล่ตามองหน้าจอ ตั้งใจทิ้งไว้นาน ถึงได้พูดว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของน้ำเพชร

เมื่อได้ยินว่าเป็นของน้ำเพชร ณิชาจึงเช็ดมือแบบลวกๆ และเดินมากดรับสาย เวธัสทำใช้นิ้วท่าทางให้เธอเงียบๆ จากนั้นก็กดรับสายแทนณิชา อีกทั้งเปิดลำโพงด้วย

“ณิชา คุณนี่ช่างเก่งจริงๆ! รู้จักคุณชลิดาก็ไม่บอกฉันก่อนสักคำ? ตอนนี้คนเขายกเลิกสัญญา เพราะว่าคุณมาทำงานสาย! คุณรีบจัดการหาวิธีเดี๋ยวนี้!”

น้ำเพชรโกรธจนเป็นบ้าไปแล้ว พลันส่งเสียงคำรามจากทางปลายสาย

เมื่อคำรามเสร็จแล้ว ไม่มีคนพูด

เธอฮัลโหลอยู่หลายครั้ง เวธัสถึงได้ตอบกลับอย่างเป็นทางการ “ไม่ทราบว่าใครหรือครับ?”

เสียงผู้ชาย?! น้ำเพชรสะอึกทันที พร้อมทั้งเอ่ยปากสอบถาม “ฉันน้ำเพชรเป็นเพื่อนร่วมงานของณิชาค่ะ...คุณเป็นสามีของณิชาเหรอคะ?”

“แม่ของณิชาป่วย ช่วงนี้ไม่มีเวลามาจัดงานงานที่บริษัท”

น้ำเพชรย่อมไม่เชื่อกับคำพูดลอย ๆ พรรค์นี้ ถึงแม้แม่จะป่วยไข้จริงๆ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่มาทำงาน

“คุณเอาโทรศัพท์ให้ณิชาทีค่ะ ฉันต้องการพูดกับเธอให้ชัดเจน”

พรึบ

เวธัสตัดการสื่อสารทันที โดยไร้การลังเล อีกทั้งลากเบอร์โทรศัพท์ของน้ำเพชรเข้าบัญชีดำทันที

สีหน้าของชายหนุ่มยังคงแน่นิ่งเรียบเฉยคงเดิม

ณิชาฉุกคิดถึงเขาตัดสายวางโทรศัพท์ของเธอมาตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้อย่างปัจจุบันทันด่วน ตั้งใจเย็นชาใส่เธอใช่มั้ย?! ไม่ต้องล้างมือแล้วแหละ พลันบีบหน้าเขาทันที “เวธัส วางสายคนอื่นแบบนี้ไม่มีมารยาทมากเลยนะคะ! ถ้าต่อไปปัณณ์กับอรัลเรียนแบบตามคุณแล้วจะทำยังไงคะ?”

เวธัสได้กลิ่นดินหอมจางๆ เตะเข้าโพรงจมูก จึงดึงมือของเธอลง ใบหน้าหล่อเหลาตีหน้าเข้ม “ช่างสิ! คุณล้างมือหรือยังเนี่ย?”

“ยังไม่ได้ล้างค่ะ!” ณิชาผายหน้าอก และจิ้มใบหน้าของเขาต่อ “คุณทำตัวเลวร้ายชะมัด ฉันต้องลงโทษ...”

นัยน์ตาเวธัสฉายแววตามืดหม่น พลันก้มหน้าก้มตาเอาใบหน้าของตนเองไปจิ้มหน้าของเธอ

ฝุ่นเป็นคราบที่แสดงไม่ชัดเจนจึงย้ายไปอยู่บนใบหน้าของณิชา

ณิชาพลันยื่นมือออกไปผลักเขา โดยคว้าคอเสื้อเชิ้ตจนยับย่นและสกปรกมอมแมม เวธัสขมวดคิ้วเล็กน้อย พลันรัดเอวของเธออย่างดื้อรั้น และใช้ปลายคางที่เพิ่งมีเคราเล็มขึ้นมาจิ้มเธอ

“แกล้งผมเหรอ? ยังจะกล้าดีอีกมั้ย...”

“อย่าเล่นสิคะ มันจั๊กจี้...ฮ่า ๆ ...ฉันไม่กล้าแล้วค่ะ!”

ปัณณ์กับน้องอรัลเห็นภาพนี้แล้ว ถึงกลับสงบนิ่งเต็มที่

เด็กสองคนสบตากันอย่างเงียบงัน พลันถอนหายใจอย่างขมขื่น จากนั้นก็วิ่งเตาะแตะไปล้างมือเล็กๆ ในห้องน้ำ ในบ้านมีคู่สามีภรรยาอยู่ ทุกวันชอบมาแสดงกอดรัดฟัดเหวี่ยงจูบกันต่อหน้าเด็กๆ ...

ไร้ศีลธรรม และปราศจากความละอายใจจริงๆ!

……

น้ำเพชรโทรซ้ำอีกครั้ง แต่ก็โทรไม่ติด

เกินครึ่งก็น่าจะถูกลากไปบัญชีดำแล้วแหละ เธอโกรธจัดและเดินไปเดินมาภายในห้องทำงาน

ผู้บริหารระดับสูงที่แอบหลงรักกับความสวยของเธอคนหนึ่งถึงกลับกลืนน้ำลาย และเดินมาเกลี้ยกล่อม “น้ำ ใจเย็นๆ นะ...”

“เธอกลับไม่รับโทรศัพท์ของฉัน แถมให้ผัวของเธอมาพูดกับฉันสองสามคำก็ดึงฉันลงบัญชีดำทันที! นี่มันจะหมายความว่ายังไง?” น้ำเพชรใจเย็นก็แปลกแล้วแหละ พลันดื่มน้ำเย็นจัดสองแก้วจนหยุดไม่อยู่

ผู้บริหารระดับสูงกำลังวิเคราะห์สถานการณ์อีกครั้ง “ณิชาคนนี้ต้องรู้สึกว่าพวกเราต้องการเธอมาก จึงจงใจหาข้ออ้างเล่นตัวกับพวกเรา”

“เรื่องนี้ยังต้องพูดให้ฟังอีกเหรอคะ?” น้ำเพชรสงบสติอารมณ์ลงแล้ว จึงพูดกล่าวด้วยท่าทางแสยะยิ้ม “เธอเอาเรื่องแม่ป่วยมาอ้างอะไรล่ะ? ฉันว่าก็แค่อยากให้ฉันไปวิงวอนขอร้องเธอนั่นแหละ...”

“อดทนไว้ก่อน เอางี้มั้ย เราก็ไปดักเธอที่บ้านเธอเลยดีมั้ยครับ?”

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไร้วิธีที่ดีกว่านี้แล้ว จึงออกคำสั่งทันที ถ้าเธอรักษาความร่วมมือไว้ไม่ได้ ก็ให้เธอเก็บข้าวของม้วนเสื่อไสหัวออกไปได้เลย น้ำเพชรแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในวีเอสเอ กรุ๊ปจนเคยชินแล้ว ให้เธอออกไปสู่โลกภายนอก ซึ่งไม่แน่ว่าเธอจะหางานได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอนจริงๆ

น้ำเพชรขอเอกสารจากแผนกภายในบริษัท เพื่อตรวจสอบที่อยู่ที่ลงบันทึกไว้ของพนักงาน

ในช่องเติมที่อยู่นั้นณิชาเขียนไว้ว่าอยู่หมู่บ้านออเรนจ์

น้ำเพชรจดจำรายละเอียดของชั้นและเลขยูนิตได้ เช้าตรู่ของวันถัดมา ฟ้ายังไม่สว่างก็ไปดักหน้าหมู่บ้านออเรนจ์แล้ว แต่เคาะประตูอยู่นาน คนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงประตูกลับเป็นก้อย

แม้ว่าก้อยจะย้ายบ้านก็ตาม แต่เธอก็ยังมีของที่ยังไม่ได้เก็บ

เมื่อคืนวานเก็บของจนเหนื่อยเหลือเกินจึงนอนหลับที่นี่เลย

เมื่อเห็นน้ำเพชรเคาะประตูอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร “คุณมาหาใคร?”

“ณิชาล่ะ?” น้ำเพชรชะเง้อคอมองด้านใน “ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ คุณให้เธอออกมาเจอฉันหน่อย”

“ณิชาไม่ได้อยู่ที่นี่นานแล้ว คุณมาหาผิดที่แล้วแหละ!” ก้อยพูดอย่างอารมณ์เสีย จึงปิดประตูทันที

น้ำเพชรยื่นมือข้างหนึ่งออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ก้อยปิดประตู พลันเปลี่ยนท่าทางก่อนหน้านี้ทันที “น้อง คืออย่างนี้นะ ฉันมีเรื่องด่วนต้องการหาณิชา งั้นน้องรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

ก้อยประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า แสดงลักษณะท่าทางเย่อหยิ่งใหญ่คับฟ้าเหนือคน

ถ้าสนิทกับณิชาจริง เธอก็ไม่น่าที่จะไม่รู้ที่อยู่ของณิชา

ถ้าไม่ได้สนิทกันเลยล่ะ? ดวงตาก้อยเปล่งประกายเล็กน้อยทันที เธอถูกณิชาไล่ตะเพิดออกไป จนเกิดอารมณ์โกรธเคืองอยู่ในใจอยู่พอดี!

ดังนั้น เธอกับน้ำเพชรจึงแลกเปลี่ยนวิธีการติดต่อ และเอาที่อยู่ปัจจุบันของณิชาเปิดเผยให้กับน้ำเพชร การทำให้ณิชามีเรื่องกวนใจได้ เธอก็อยากจะลงมือทำเลยในเวลานี้ทันที!

……

Martin Modern ตอนที่น้ำเพชรมาถึงนั้น ถึงกลับอ้าปากค้าง!

บ้านช่องห้องหับของที่นี่แพงจนไม่กล้ายอมรับเลยแหละ

ณิชาพักอยู่ที่นี่แล้ว? เธอกำลังสงสัยว่าก้อยคนนั้นหลอกเธอแล้วแหละ

น้ำเพชรถูกตรวจสอบตรงป้อมรปภ.อยู่นานมาก และอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก รปภ.ก็ไม่ให้เธอเข้าไป ท่ามกลางความรู้สึกเบื่อหน่ายนั้น เธอทำได้เพียงให้ทางรปภ.โทรแจ้งกับณิชาโดยตรง แต่ผลที่ได้คือณิชาไม่รับสาย

น้ำเพชรจนปัญญา ขืนกลับไปแบบนี้ต้องถูกคุณรวินทร์ด่ายับแน่นอน จึงรออยู่ตรงหน้าประตู

ช่วงกลางวันตอนที่ณิชากลับมาจากโรงพยาบาลของสิดานั้น มันผ่านไปสี่ชั่วโมงกว่าแล้ว

น้ำเพชรใกล้จะระเบิดอารมณ์จนเป็นบ้าไปแล้ว แต่เมื่อเห็นณิชา ก็ยิ้มให้อย่างเชื่อฟัง “คุณณิชา? ในที่สุดฉันก็รอคุณจนเจอตัวแล้ว!”

ณิชามองน้ำเพชรแสร้งทำเป็นโง่ การแสดงความรู้สึกที่โง่เขลามาก “คุณน้ำเพชร? คุณกำลังยุ่งอยู่กับการเซ็นสัญญาของDS Groupอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาหาฉันได้ล่ะ?”

ทว่าในใจสงสัยมาก เธอย้ายมาที่นี่ไม่นานเท่าไหร่ และก็มีคนที่รู้เรื่องไม่กี่คน น้ำเพชรมาหาเธอได้ยังไง?

ในใจน้ำเพชรเกลียดจนบดกราม แต่ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “คุณณิชา ก่อนหน้านี้เป็นความผิดฉันเองค่ะ ตอนนี้คุณชลิดาของDS Groupจิ้มสั่งการลงมาว่าต้องการพูดคุยกับคุณ อีกทั้งยังรังเกียจที่พวกเราไม่มีความจริงใจให้ คุณลองช่วยดูหน่อยว่าคุณจะไปDS Groupได้ตอนไหน?”

“แต่แม่ฉันเพิ่งจะผ่าตัดมา ฉันยุ่งมากจริงๆ” ณิชาแสดงท่าทางยุ่งยากสับสนมาก

น้ำเพชรอดทนอดกลั้นอย่างสุดกำลัง “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าอยู่โรงพยาบาลไหนเหรอคะ ฉันจะไปดูแลแทนคุณให้เอง! คุณรวินทร์ลงคำสั่งมาแล้ว จำต้องให้ฉันเชิญตัวคุณกลับไปให้ได้ คุณณิชา ผู้ใหญ่ไม่จดจำความผิดของผู้น้อย ถ้าพลาดโปรเจคนี้ เราก็อาจจะถูกไล่ออกกันหมดค่ะ”

แม้ว่าน้ำเพชรจะโกรธจัด แต่ก็ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่เล็กน้อย

ตอนนี้ทำได้แต่เกลี้ยกล่อมณิชาให้ยอมไปพบชลิดา บางที่อาจยังมีโอกาสรอด

“แต่ถ้าฉันเจรจาได้แค่ครึ่งเดียว คุณน้ำเพชร แล้วคุณเกิดอยากจะรับผิดชอบต่อแล้วฉันจะทำยังไงคะ?”

“ไม่แล้วค่ะ! ครั้งนี้ถึงแม้คุณรวินทร์ให้ฉันไปทำ ฉันก็ไม่ทำแล้ว...” น้ำเพชรรีบโบกมือ และชะเง้อมองณิชาด้วยความรู้สึกวิงวอน

ถึงแม้ณิชาจะรู้สึกสะอิดสะเอียนอาการต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างของน้ำเพชร แต่ในเวลานี้เธอใช้ทุนทรัพย์ของบริษัททั้งหมดมาเดิมพัน และพูดไม่ได้จริงๆ ว่าจะปล่อยมือไปโดยไม่สนใจ เมื่อเป็นไปตามลำดับขั้นนี้แล้ว จึงตอบตกลงว่าจะไปที่บริษัทในตอนบ่าย

……

อลิสาได้ยินว่าน้ำเพชรไปรอณิชาอยู่นานมาก ถึงสามารถเชิญกลับมาได้ พลันตลกขบขันและโกรธเคืองในเวลานั้นทันที

“น่าจะปล่อยเธอให้เคว้งไปอีกหลายวันหน่อย! ให้เธอรู้ว่าใครใหญ่กันแน่...”

ณิชาหัวเราะเยาะดังลั่น “ขืนปล่อยให้เคว้งคว้างไปก็กลายเป็นDS Groupที่จะเบื่อพวกเราแล้วแหละ”

“เฮ้อ...” อลิสาคิดแล้วก็ถูกต้องอยู่เหมือนกัน ก่อนหน้าที่จะคุยกันเรื่องงาน ยังอยากพูดกับณิชาอีกเรื่องหนึ่งด้วย

ข่าวช่วงบ่ายของวันนี้เพิ่งจะเป็นข่าวดังออกมา โรงรับจำนำแห่งหนึ่งที่มีอายุนับร้อยปีใจกลางเมืองไฟไหม้ แม้ว่าไม่มีคนเสียชีวิต แต่ก็มีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส สองคนได้แผลถลอกมา สิ่งของที่อยู่ในโรงรับจำนำก็มอดไหม้ไปเกือบหมด บันทึกของโรงรับจำนำก็ไม่อยู่แล้ว

ณิชาก็เพิ่งเห็นข่าวนี้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีพนักงานเสียชีวิต จึงให้ความสนใจเรื่องงานทันที

เมื่อได้ยินอลิสาพูดเช่นนี้ เธอถึงรู้ว่า โรงรับจำนำแห่งนั้นเป็นของพี่เขยของอลิสานี่เอง อยู่ภายใต้อาณัติของตระกูลสมรัต

มิน่าล่ะเห็นอลิสาไม่สดใส น่าจะเป็นห่วงโรงรับจำนำแห่งนี้

ณิชาเพ่งจ้องประเมินอลิสาอยากสนุกสนาน

อลิสาโดนเธอมองจนต้องลูบหน้าทันที “ทำไมจ้องฉันแบบนี้ล่ะ?”

“ที่แท้ตระกูลสมรัตเป็นตระกูลของพี่เขยแกเหรอ?”

สมรัต กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่พัฒนาค่อนข้างดีในช่วงระยะหลายปีนี้ แต่มันช่างแตกต่างกับสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ที่อาศัยภูมิหลังในการเติบโตทางธุรกิจ โดยอาศัยความสามารถอันโดดเด่นส่วนบุคคลของผู้ดำรงตำแหน่งท่านประธานปัจจุบันของสมรัต กรุ๊ป ทั้งด้านเทคโนโลยี โบราณวัตถุจนดังเป็นพลุแตกอยู่ในกรอบกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่ง

ได้ข่าวว่าภรรยาของประธานคนนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุยังน้อย ภรรยาเสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว แถมยังนามสกุลเดียวกับอลิสาอีกต่างหาก

กล่าวอีกความหมายนัยหนึ่ง อลิสาเป็นน้องเมียแท้ๆ ของประธานสมรัต กรุ๊ป

มิน่าล่ะในวันที่กลับมาถึงประเทศจึงมีรถหรูมารับเธอ...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊