กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 381

อลิสาเอามือปิดหน้า มองไม่เห็นท่าทีของเธอ

“ฉันยอมให้เขาไม่ใช่คนตระกูลสมรัตซะจะดีกว่า”

ณิชาท่าทีตื่นเต้นเพราะได้กลิ่นเรื่องเม้ามอย น่าเสียดายที่อลิสาไม่ได้เห็น

แม้ว่าอยากจะเม้ามอยต่อ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือต้องไปเจรจาเรื่องความร่วมมือกับชลิดา

ตอนที่อลิสาอยากจะพูด เดี๋ยวก็คงบอกเธอเอง

อย่างไรก็ตาม ณิชาโทรไปที่DS Groupแล้ว แผนกต้อนรับก็ปฏิเสธเธออย่างสุภาพแล้ว

ณิชาทำได้แค่ต้องไปหากองทัพอีกครั้ง

กองทัพถูกชลิดาลงโทษ แถมยังโกรธมาก ไม่ทันที่ณิชาจะได้พูดอะไร เขาก็ด่าเธอมาเป็นชุด

“คุณณิชา นี่มันอะไรของคุณ ไม่รักษาคำพูดเลยสักนิด! คนรับผิดชอบอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน! ถ้าคุณไม่อยากร่วมมือกันดีๆ ก็อย่ามาสร้างปัญหาให้ผม...”

ณิชารอให้เขาพูดจบเงียบๆ แล้วก็พูดเสริมว่า “ฉันรู้ค่ะว่ามันเป็นความผิดของทางเรา คุณช่วยนัดคุณชลิดาให้อีกครั้งได้ไหมคะ”

“ตอนนี้คุณผู้หญิงไม่อยู่ที่บริษัท เธอออกไปเที่ยวทะเลแล้ว”

“...” ณิชาสีหน้าเหงื่อตก ถามต่อว่า “แล้วเธอจะกลับเมื่อไหร่หรือคะ”

“แพลนของคุณผู้หญิงไม่มีกำหนดที่แน่นอน อย่างเร็วก็ไม่กี่ชั่วโมง อย่างช้าละก็น่าจะเป็นตอนบ่ายวันพรุ่งนี้” กองทัพอธิบาย

“ถ้าเธอกลับมา ช่วยแจ้งฉันด้วยนะคะ”

“ถ้าคุณเทผมอีกละก็...”

“ไม่ค่ะ ไม่แน่นอน ครั้งนี้ไม่เทแล้วค่ะ” ณิชารีบรับประกัน

สุดท้ายกองทัพก็ตกลงว่าจะช่วยเธอ

ปากบอกว่าช่วยเธอ แต่จริงๆ แล้วเขาคิดถึงหน้าตาของเวธัสด้านหลังเธอมากกว่า

ถ้าเวธัสไม่ดันหลังเธออยู่ กองทัพก็ไม่ได้อยากจะมีปัญหาต่อไป

ณิชาได้คำตอบ ก็ถอนหายใจยาวๆ โล่งอก สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือรอให้ชลิดากลับมา ในใจก็คิดคำนวณไป ใช้โอกาสตอนที่รวินทร์ดีกับเธอมากๆ ใช้ชื่อบริษัทไปทำงานการกุศล

เธอนัดเจนนี่ไปทำกิจกรรมที่บ้านพักคนชรากับเธอ

ปกติแล้วกิจกรรมแบบนี้ เจนนี่จะกระตือรือร้นมาก

อาจจะเป็นเพราะเกี่ยวกับภูมิหลังของครอบครัวเธอ เธอให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุเสมอ แต่คราวนี้เจนนี่ไม่เป็นงั้น แถมยังปฏิเสธกำหนดการไปบ้านพักคนชรา

ณิชาคิดว่าช่วงนี้เธอคงงานยุ่ง

อันที่จริง ช่วงนี้เจนนี่มัวเดินไปเดินมาอย่างคิดไม่ตกอยู่ในห้อง

เธอนัดกับพยาบาลไว้แล้ว ว่าจะไปทำแท้ง

เธอไม่สบายใจเลย กังวลใจมาก นี่เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธอ ก็เป็นการทำแท้งครั้งแรกด้วย

เมื่อสัมผัสหน้าท้องแบนราบ น่าจะยังเป็นตัวอ่อนเล็กๆ อยู่เลย เธอก็ผลักไสเขาออกไปอย่างไร้ความปรานีซะแล้ว

แต่เธอไม่มีทางเลือก ยิ่งยื้อเวลาออกไป ทั้งเธอและลูกก็จะยิ่งไม่ปลอดภัย

ฮือ ชาติหน้ากลับมาเกิดในครอบครัวที่ดีเถอะนะ

เจนนี่ยังคงสร้างภาพในใจให้ตัวเองอยู่ตลอด สวมเสื้อคลุมยาวพองๆ สวมแว่นกันแดดอย่างลับลมคมในตรงไปที่โรงพยาบาลเอกชน

...

หลังจากชาลีออกจากคฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์มาวันนั้น บริษัทก็มีงานพอดี ทำให้ล่าช้าไปสักพัก

ลูกน้องที่จะถูกส่งไปดูเจนนี่เพิ่งส่งข่าวกลับมา

รวมถึงที่อยู่บ้านของเจนนี่ ประวัติการศึกษา และประวัติการทำงาน

หมู่บ้านออเรนจ์หรือ

ย่านนี้ฟังดูคุ้นๆ ดูเหมือนว่าณิชาก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย

“คุณชาลี คุณเจนนี่ไม่อยู่ในระเบียนโรงพยาบาล ตรวจสอบไม่ได้ว่าท้องหรือเปล่า แต่ว่า...” ลูกน้องลังเลราวกับไม่กล้าพูดอะไร

ชาลีโยนเอกสารในมือลงบนโต๊ะ “พูดมา”

“แต่ผมตรวจสอบเจอว่าคุณเจนนี่ใช้ชื่อนิรนามนัดทำแท้งด้วยยากับโรงพยาบาลเอกชน ตอนบ่ายสามครึ่งครับ”

บ่ายสามครึ่งงั้นเหรอ

ชาลีเหลือบดูเวลาบนหน้าจอ ตอนนี้บ่ายสามโมงแล้ว!

เจนนี่ ยัยโง่นั่น คิดจะเอาลูกของเขาออกโดยที่ไม่บอกเขางั้นเหรอ!

ชาลีขับรถเฟอร์รารี่สีแดงออกไปอย่างรวดเร็ว ตลอดทางที่ขับไม่รู้ว่าฝ่าไฟแดงไปแล้วเท่าไหร่ เท้าขวาเหยียบคันเร่งสุดแรง สุดท้ายเขาก็ไปถึงโรงพยาบาลได้ภายในเวลายี่สิบนาที

เขาโทรหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลไว้ล่วงหน้าแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อเจนนี่ ห้ามทำแท้งเด็ดขาด!

แต่เจนนี่ก็เป็นถึงศิลปินสาว ใครจะรู้ว่าเธอจะให้ชื่ออื่นอีกไหม

ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชน ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารยืนยันตัวตนอย่างเข้มงวดเหมือนข้างนอก ตราบใดที่มีเงินจ่าย จะไม่ระบุตัวตนก็ได้

ในขณะเดียวกัน มีผู้หญิงที่นัดผ่าตัดก็เยอะมาก ส่วนใหญ่มาผ่าแท้ง แต่คนที่มาทำแท้งด้วยยาก็ไม่น้อย ยังไงซะทำแท้งที่โณงพยาบาลก็ปลอดภัยกว่าทำด้วยตัวเอง

ชาลีก็ไม่รู้ว่าใครคือเจนนี่กันแน่...

เขารีบวิ่งไปที่ห้องผ่าตัดนรีเวช

ผู้อำนวยการและพยาบาลสองสามคนก็รอการมาของชาลีอย่างตุ้มๆ ต่อมๆ การเตรียมการผ่าตัดก็หยุดลงอย่างเร่งด่วน

ฤดูหนาวแท้ๆ แต่ชาลีกลับเหงื่อออกเยอะมากเพราะวิ่งไปมา และมีความวิตกกังวลที่อธิบายไม่ได้ในท่าทางของเขา

ถ้าเจนนี่ ผู้หญิงคนนั้นฆ่าลูกของเขาจริงๆ เขาก็จะฆ่าเธอด้วย!

เขามองไปรอบๆ ในโถงทางเดิน แต่ก็ไม่เจอเจนนี่

เมื่อคิดว่าเธอน่าจะซ่อนตัวอยู่ ไม่กล้าเผยหน้าในที่สาธารณะ เลยถามผู้อำนวยการไปตรงๆ

“คุณชาลี คุณแน่ใจนะคะว่ากำลังหาผู้หญิงที่ชื่อเจนนี่” ผู้อำนวยการตรวจสอบตารางการผ่าตัดแล้ว ก็ไม่กล้าหายใจแรง

“ใช่ ชื่อเจนนี่ เพิ่งท้องได้ไม่ถึงเดือน” ชาลีพูดรายละเอียดออกมาหมด

หลังจากตรวจสอบอยู่เป็นเวลานาน ผู้อำนวยการก็หาผู้หญิงที่ชื่อเจนนี่ที่รายละเอียดตรงกันได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะแก่กว่าหนึ่งปี น่าจะเป็นเพราะให้ข้อมูลเท็จล่ะมั้ง

“คุณเจนนี่ทำแท้งด้วยยาเสร็จแล้ว ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วค่ะ”

“เสร็จแล้วเหรอ" ชาลีไม่อยากจะเชื่อ “แต่เวลาที่เธอนัดมายังเหลืออีกตั้งสองนาทีนะ...”

นางพยาบาลดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้และเสริมว่า “ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้หนักมาก เอาแต่พูดว่าเด็กคนนี้ไม่ควรมาเลย อ้อนวอนให้เราทำแท้งด้วยยาให้เธอก่อน พอดีกับที่มีคนไข้คนหนึ่งไม่มาตามนัด เราเลยเลื่อนเวลาของคุณเจนนี่ขึ้นมา…”

เสียงนั้นหมดลง พยาบาลก็รู้สึกถึงว่าชาลีมองเธอด้วยสายตา ราวกับดาบคม อยากจะฆ่าเธอซะให้ได้

พยาบาลกลัวจนหลบไปซ่อนตัวอยู่หลังผู้อำนวยการ

ความหวังสุดท้ายในหัวใจของชาลีก็ดับวูบลงทันใด

ตอนที่คุณย่าเพิ่งบอกเขาว่าเจนนี่ท้อง เขาคิดว่าครึ่งเดือนที่แล้วเจนนี่คงจงใจแน่ๆ

จงใจไม่กินยาคุมกำเนิด ตั้งใจไปต่างประเทศเพื่อซ่อนตัวจากเขา

หลังจากยืนยันได้แล้วว่าเธอท้อง เธอต้องกลับมาใช้ลูกเรียกร้องกับเขาแน่

แต่คุณย่าต้องการเหลนน้อยของท่านมาก ถ้าเจนนี่จะอยู่อย่างสงบ ขอร้องเขา เขาจะเห็นแก่คุณย่า จะยอมให้เธอเก็บลูกไว้ได้

แต่นี่มันเกินความคาดหมายของเขา เจนนี่กลับมาทำแท้งคนเดียว!

พ่อของลูกอย่างเขา กลับมารู้ตอนนาทีสุดท้าย...

ชาลีถามพยาบาลว่าเจนนี่ออกไปนานแค่ไหนแล้ว จากนั้นก็ออกจากห้องผ่าตัดไป เขาต้องตามจับเจนนี่มาให้ได้!

ถ้าเด็กไม่อยู่แล้ว ก็ท้องอีก...

เธอไม่อยากมีลูก เขาก็จะทำให้เธอมี!

อารมณ์บูดบึ้งล้นอยู่เต็มอกของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ชาลีรู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่

สามวันก่อน เขาน่าจะมาจับเธอซะ

เขาคิดว่าเธอฉลาดเกินไป จริงๆ เธออาจจะไม่มีสมองเลยซะด้วยซ้ำ คิดจะใช้เด็กต่อกลอนกับเขา...

หรือไม่ เธอก็คงไม่อยากละทิ้งอนาคตที่สดใสของการเป็นศิลปิน

ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ชาลีก็โกรธจนอยากจะฆ่าคน

ขณะที่ชาลีกำลังเดินไปทางประตูโรงพยาบาลเอกชน เขาก็ผ่านสวนแห่งหนึ่ง สายตาของเขาก็หยุดกะทันหัน

บนม้านั่งหินตรงมุมสวน ผู้หญิงที่ปกคลุมไปด้วยเงาของต้นไม้ ถ้าไม่ใช่เจนนี่จะเป็นใครไป