กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 386

จูบนั้นทำให้ณิชาค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ ไม่อยากลืมตาอย่างเกียจคร้าน มีเพียงริมฝีปากที่สวยงามเผยอขึ้นมา “คุณรู้ไหมว่าชลิดาชอบไปที่ไหน”

“ถ้าผมรู้ว่าเธอชอบไปที่ไหน คุณต้องหึงแน่ๆ” เวธัสควบคุมอุณหภูมิและความเร็วลมของไดร์เป่าผมให้อยู่ในระดับต่ำ

เป่าช้าๆแบบนี้ สบายมาก

ณิชาคลานขึ้นไปบนตักของเขาแล้วนอนลงในท่าที่เขาสามารถเป่าผมให้เธอได้

“ฉันจริงจังอยู่นะ ชลิดาปฏิเสธที่จะร่วมงานกับฉัน แต่ฉันไม่ยอมหรอก ฉันจะไปบังเอิญเจอเธอ จะเสียโอกาสการร่วมงานครั้งนี้เปล่าๆไม่ได้”

มุมปากของเวธัสก็ยกขึ้นอย่างขี้เล่น “ที่ไหนมีผู้ชายเยอะ เธอก็ชอบไปที่นั่นแหละ ผับ คลับ แฟชั่นโชว์นายแบบ งานประมูลใต้ดิน คุณแน่ใจนะว่าจะไป”

“...ไม่มีสถานที่ที่มันปกติเลยเหรอ” ณิชาเบือนหน้าอย่างละอายใจ

“เดี๋ยวผมให้เอกตรวจสอบดูก็แล้วกัน”

...

เมื่อคืนทำกันดึกไปหน่อย เช้าวันถัดมาณิชาแทบจะตื่นไม่ไหว

อยากจะส่งปัญณ์ไปโรงเรียน พยายามลืมตาตื่นขึ้นมา พื้นที่เตียงข้างๆกลับว่างเปล่าซะแล้ว

เธอสัมผัสอุณหภูมิดู มันเย็นตั้งนานแล้ว

เวธัสเป็นแบบนี้เสมอ ไม่ว่าเมื่อคืนจะทำอะไร ก็ไปทำงานได้อย่างสดชื่นในวันรุ่งขึ้นได้เสมอ

ร่างกายแข็งแรงงจนน่าเหลือเชื่อจริงๆ ราวกับว่าเขาไม่เคยเหนื่อยล้าเลย

ไม่ยุติธรรมซะจริง! ณิชาตบๆแก้ม ลากร่างที่เหนื่อยล้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง แต่งหน้าเบาๆ แล้วส่งลูกทั้งสองไปโรงเรียนอนุบาล

โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ไม่ใช่โรงเรียนหรู เป็นแค่โรงเรียนอนุบาลสองภาษาธรรมดา

แต่ระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยมมาก แถมเวธัสยังแอบส่งบอดี้การ์ดเพื่อไปปกป้องความปลอดภัยของเด็กน้อยทั้งสองด้วย

ตอนที่ณิชาส่งพวกเขาไปโรงเรียน ก็มีผู้ปกครองหลายคนล้อมถามเธอเกี่ยวกับฝาแฝด รอยยิ้มกว้างตลอดเวลาที่คุย ทำให้ณิชาคิดว่าพวกเขาอยากจะจับคู่ให้เด็กๆ

หลังจากส่งลูกๆแล้ว ณิชาก็กลับไปดูสิดาที่โณงพยาบาล

สิดาอยู่โรงพยาบาลมาสองสามวันแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำก็ไม่ได้เอามา

ณิชากลับไปที่หมู่บ้านออเรนจ์ เพื่อเก็บของให้เธอ ก็เห็นเจนนี่ลากกระเป๋าเดินทางลงจากบันไดราวกับเป็นขโมยพอดี

ทั้งสองมองหน้ากัน เจนนี่ทิ้งกระเป๋าเดินทางลงแล้วรีบเข้าไปในอ้อมแขนของณิชา “ฮือๆ ฮื้อ...”

“ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” ณิชาเห็นเธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ก็รีบพาเธอเข้าไปในบ้าน นั่งลงบนโซฟา

เธอหยิบกล่องทิชชูขึ้นมา ซับน้ำตาให้เจนนี่ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

เจนนี่ปาดน้ำตาแล้วจ้องณิชาอย่างจริงจัง ขนตาของเธอเปื้อนน้ำตา สายตางอนๆ หายไปแล้ว แต่ก็ยังทิ้งเงาจางๆไว้ใต้แสงไฟ “ฉันมีเรื่องจะเล่าให้เธอฟัง เธอต้องใจเย็นนะ”

ณิชาตกใจเมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมของเธอ “โอเค ฉันจะใจเย็น พูดมาเถอะ”

“ฉัน...” เจนนี่ขยับริมฝีปาก แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี

ทว่าความอยากรู้ของณิชาก็ผุดกลับเข้ามา เลยลองถามไปว่า “ไอ้คนชั่วครั้งก่อนเธอหาเจอหรือยัง หรือว่า เธอกับผู้จัดการยกเลิกสัญญากันไม่ได้ เธอหอบกระเป๋าเดินทางแบบนี้ เซ็นจูรี่ให้เธอย้ายไปที่ที่พักศิลปินเหรอ”

“ฉันไม่ได้ไปหอพักศิลปิน แต่เป็น...” เจนนี่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ฉันแต่งงานแล้ว”

“...” บรรยากาศเงียบไปทันที หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ณิชาก็มองดูเธอด้วยความตกใจ เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เรื่องนี้น่าตกใจมาก เธอไม่ได้เตรียมใจไว้เลยสักนิด

แถมเจนนี่ก็เป็นดาราสาว เธอเคยพูดว่า เธอจะไม่มีวันแต่งงาน ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

“กับใคร”

หลังจากถาม ณิชาก็นึกถึงชายคนนั้นในคืนนั้นทันที

เจนนี่ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะทิ้งระเบิดลูกต่อไป

“ชาลี”

“...” คราวนี้ณิชาลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความตกใจ “วันนี้ไม่ใช่ April Fool's Day ใช่ไหม”

“ฉันก็หวังให้เป็น April Fool's Day เหมือนกันแหละ!” เจนนี่พูดสะอื้น

ณิชาลูบหลังเธอ ด่าชาลีไม่ยั้ง จากนั้นก็ได้สติกลับมา “ชาลีทำเรื่องไม่ดีต่อเธอหรือเปล่า เขาก็เลยอยากแต่งงานกับเธอเป็นการชดใช้ใช่ไหม”

เจนนี่ไม่กล้าพูดว่าเธอเป็นคนทำให้เกิดการเข้าใจผิดเรื่องท้อง ทำให้เขาพูดถึงการแต่งงานมีลูก

“อือๆ ณิชา ฉันคิดถึงเธอจัง ไม่อยากไปจากที่นี่เลย!” เจนนี่โน้มตัวเข้ามากอดณิชา ดวงตาของธอแดงก่ำและน้ำตาก็ไหลลงมา “จากนี้ฉันจะต้องตกนรกของการแต่งงานแล้ว อิจฉาเธอจังที่มีสามีอย่างเวธัส...”

จากนี้ไปกิจวัตรประจำวันของเธอก็คือท้อง ถูกกดดันให้มีลูก คลอดลูกแล้วก็ต้องอยู่บ้านให้นมลูก

ณิชาไม่รู้ว่าใจของเจนนี่เต็มไปด้วยความคับข้องใจ ห่วงเจนนี่ขึ้นมา

ภาพลักษณ์ข้างนอกของชาลีแย่มาก

ปกติแล้ว เจนนี่เป็นคนคิดมากขี้กังวล ถ้าหลังแต่งงานเขารังแกเธอ เมียน้อยสองสามมารังแกเธอ เธออาจจะรับมือไม่ได้

“ถ้าชาลีปฏิบัติต่อเธอแย่ๆ แถมยังกล้าเอาเมียน้อยเข้าบ้านมาก่อกวนถึงในบ้าน ต้องบอกฉันนะ ฉันจะช่วยเธอแน่นอน!”

เจนนี่สะอื้น เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ แล้วนั่งลงทันที “ฉันลืมไปได้ยังไง ฉันจะไปขอพรพรุ่งนี้ ขอให้ผู้หญิงข้างนอกของชาลีให้ชี้ขาดกับเขาให้หมด”

แบบนี้ เธอก็จะได้พ้นจากความทุกข์ยาก หย่ากับเขาสายฟ้าแลบ

“....”

ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเจนนี่ก็ดังขึ้น

เสียงหึ่งๆของโทรศัพท์ ขัดจังหวะความคิดระหว่างทั้งสองคน

ณิชาเหลือบมองดู เบอร์ที่เมมอยู่บนจอชื่อว่า อสูรชาลี ค่อยๆกุมขมับ ยิ่งกังวลเรื่องเจนนี่มากขึ้นไปอีก

แต่ชาลีนอนกับผู้หญิงมาตั้งมากมาย ไม่เคยเห็นเขาจะแต่งงานกับใครหลังจากนั้นเลย

เจนนี่กดปุ่มรับสาย ก็ได้ยินชาลีสั่งมาจากในสายทันที “คุณยังเก็บของไม่เสร็จอีกหรอ ลงมาเร็วๆ ผมรอคุณอยู่ข้างล่าง”

เจนนี่พูดอย่างลังเลว่า “ฉันไม่ได้ให้คุณรอนี่ คุณไม่อยากรอก็กลับบ้านไปก่อนสิ”

“ผมกลัวว่าคุณจะไม่รู้ประตู รปภ.จะไล่คุณออกมาน่ะสิ” ชาลียังพูดคำที่ชวนโดนตบมาอีก เจนนี่โกรธจนโยนโทรศัพท์ทิ้ง โชคดีที่โยนทิ้งบนโซฟา นุ่ม ไม่ได้เสียหายอะไร

...

ณิชาตามเจนนี่ลงไป ส่งเธอที่รถของชาลี

ชาลีเห็นณิชาลงมากับเจนนี่ ก็ชะงักอยู่นิดหน่อย จากนั้นก็ทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างเฉยชา “ณิชา อรุณสวัสดิ์”

“เจนนี่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน ถ้านายรังแกเธอ ฉันจะไม่มีวันให้นายอยู่เป็นสุขแน่” ณิชาเตรียมคำไว้มากมาย แต่เมื่อมาถึงหน้าชาลี คำเป็นพันกลับเหลือเพียงประโยคเดียว

ชาลีเปิดประตูรถสปอร์ตและโยนกระเป๋าของเจนนี่ไปที่เบาะหลัง

เขาเดินจูงเจนนี่ด้วยมือข้างหนึ่ง เอาเธอมาไว้ในอ้อมแขนแน่น โอบรอบเอว แล้วบอกลาณิชา “ไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้เธอ ‘ท้อง’ อยู่ คนทั้งตระกูลรุ่งโรจน์จะดูแลเธออย่างคุณหนูแน่ ผมจะกล้าทำไม่ดีกับเธอได้ยังไง”

ท้องหรอ

ณิชามองท้องแบนราบของเจนนี่ด้วยความประหลาดใจ

เธอกินยาคุมไปแล้วไม่ใช่หรือไง

แต่งงานมีลูก เรื่องใหญ่โตขนาดนี้เธอกลับไม่บอกตนเอง!

เจนนี่ลูบแก้มจนเป็นสีแดง แล้วเกลี่ยอย่างรวดเร็วไปทางติ่งหู เธอพยายามรีบอธิบาย "ณิชา ฟังฉันนะ มันไม่ใช่อย่างนั้น จริงๆแล้วฉัน..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊