กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 390

ณิชาเช็ดคราบน้ำที่มุมปากด้วยทิชชูอย่างสงบ เอียงคอดูเธอด้วยความไม่พอใจ “เธอคิดว่าสามีฉันเป็นคนประเภทที่ยอมเสียตัวเพื่อโปรเจกต์เหรอ”

พูดก็พูด ถ้าจะยอมเสียตัวก็คงไปเสียกับโครงการหมื่นล้านพันล้าน จะมาสนใจโปรเจกต์เล็กๆของพวกเขาทำไม

“บางทีคุณเวธัสอาจจะทนดูเธอเสียใจกับโครงการนี้ไม่ได้...” อลิสาโบกมือขวาขึ้นไปในอากาศด้วยท่าทีตามใจตัวเอง “ยังไงเขาก็เป็นคนคลั่งรักนี่หน่า”

ณิชาเอาเอกสารตบไหล่เธอ "สาวน้อย ถึงเวลาตื่นจากความฝันแล้ว!"

แม้ว่าเธอจะพูดไปอย่างนั้น แต่ณิชากลับรู้สึกสงสัยในใจ

ชลิดา คิดอะไรอยู่กันแน่ จะถือโอกาสเข้าไปพัวพันกับเวธัสเหรอ

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ณิชาก็รู้สึกหย็องๆ ไม่สบายใจ

ต่อมาเธอก็ถือโอกาสตอนที่คุยเรื่องความร่วมมือ ถามชลิดา อย่างจริงจังและเป็นส่วนตัว "ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน”

ชลิดา สะบัดผมลอนของเธอ ขยิบตาให้เธอ "เธอไม่อยากรู้คำตอบนี้หรอก"

ยิ่งเธอพูดแบบนี้ ยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวณิชามากขึ้น

“ฉันเตือนเธอนะ งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว ถ้าคุณกล้าที่จ้องจับกินสามีของฉัน...”

ไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ชลิดา ก็ตอบด้วยรอยยิ้มก้ำกึ่งว่า “แต่ถ้าสามีของเธอตกลงแล้วว่าจะนอนกับฉันล่ะ”

“เธอเลิกสร้างความร้าวฉานได้แล้ว!" ณิชาไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเธอ

เวธัสจะขายตัวเพื่องานได้ยังไง เขาไม่ได้ต้องการเงินสักหน่อย

ชลิดา เห็นว่าเธอโกรธจัด ก็คิดว่าสนุกมาก ทันใดนั้นเธอก็เข้าไปใกล้หูของเธอและหายใจอย่างช้าๆใต้ใบหูของเธอ มันเย้ายวนมาก –

“ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองโทรหาสามีดูสิ ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่แอบแซ่บหรอกนะ”

ณิชาผลักเธอออกด้วยความโกรธ ไม่น่าเชื่อ เมื่อกี้ชลิดาก็... ยั่วเธอด้วยเหรอ

กินได้ทั้งชายหญิงเลยสินะ!

ดนัยทนได้ยังไงกัน

ณิชาไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของ ชลิดา เธอก็แค่กลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวาย

วันรุ่งขึ้น เธอไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมสิดาตามปกติ จู่ๆ แต่ที่ไม่ปกติคือได้เห็นคุณย่าศิริจันทร์กับตุ๊กในห้องของสิดา

บรรยากาศในห้อง อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ ตุ๊กก็นำของฝากกับผลไม้สดมากมาย มาวางเต็มโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียงของสิดา

สิดาได้ยินตุ๊กพูดถึงตัวตนของคุณย่าศิริจันทร์ ก็ตกใจ พูดกับคุณย่าอย่างกล้าๆกลัวๆไม่เป็นธรรมชาติ

คุณย่าแก่กว่าสิดาเยอะ แถมยังมีตำแหน่งสูง สิดาไม่รู้จะพูดด้วยยังไง จะอวยเอาใจก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน ทำได้แค่ยิ้มๆ ถามเธอว่าจะดื่มน้ำไหมตลอดเป็นพักๆ

บรรยากาศในห้องตึงมาก

ตุ๊กอยู่ข้างหลังคุณย่า ปอกส้มให้คุณย่า

ในใจคิด ถ้าไม่ใช่เพราะโกรธประเสริฐ อยากจะเจอณิชา เธอคงไม่มาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง

คุณย่าศิริจันทร์ไม่ได้อยากมาเยี่ยมสิดาจริงๆ เธอจึงนั่งบนโซฟาหนังนุ่มๆ อย่างเย็นชา ก้มคางลงเล็กน้อย ดูอึดอัดมาก

ในบรรยากาศแบบนี้ เมื่อสิดาเห็นณิชามา เธอก็ร้องไห้มาช่วย!

ตอนเจอกับเวธัส สิดายังไม่กลัวขนาดนี้...

"ณิชาเหรอ” สิดาโบกมือให้ณิชาที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความดีใจ ยิ้มขึ้น “เร็วเข้า คุณย่าศิริจันทร์มาเยี่ยมฉัน ฉันนอนบนเตียงไม่ค่อยสะดวก ช่วยฉันลุกขึ้นหน่อย...”

ณิชาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นคุณย่าศิริจันทร์

เธอไม่ได้เห็นคุณย่าศิริจันทร์มาตั้งแต่การแข่งขันออกแบบครั้งล่าสุด

อาจจะเป็นเพราะว่าความประทับใจต่อเธอไม่ค่อยดีนัก ณิชาแค่ทักทายเธอด้วยมารยาทพื้นฐานธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้นอบน้อมนัก

ตุ๊กรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่คุณย่าห้ามคำที่ตุ๊กอยากจะพูดไว้

สายตาของคุณย่าจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยของณิชา

ถ้าเธอยิ้มสักหน่อย น่าจะเหมือนกานต์รวีมาก

“ฉันมานี่ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรหรอก ได้ยินมาว่าแม่ของเธอบาดเจ็บ เธอกับชาลีก็เป็นเพื่อนกัน ฉันเลยแวะมาเยี่ยมเยียน ไม่ต้องพิธีรีตองหรอก”

เมื่อเอ่ยถึงชาลี นาทีนี้คุณย่ากับณิชาก็ดูใกล้กันขึ้นมาแล้ว

ณิชาได้รับความช่วยเหลือจากชาลีมาเยอะมาก

คุณย่าตรงหน้าก็คือย่าของเขา และการตั้งใจมาเยี่ยมสิดาก็เป็นเรื่องดี...

“ฉันแค่กังวลว่าข้างนอกหนาว ท่านไปไหนมาไหนไม่สะดวกน่ะค่ะ” ณิชารินน้ำอุ่นให้แก้วหนึ่งแล้วยกไป พยักหน้าเล็กน้อยให้กับคุณย่า คุณย่าหยิบแก้วน้ำมา ละสายตาจากใบหน้าอันสละสลวยของณิชา แล้วเหลือบมองที่ตุ๊ก

ตุ๊กเข้าใจได้ในทันที

เธอหยิบกล่องสีดำที่ดูเรียบๆแต่ดูหรูหราออกมาจากกล่องของขวัญบนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง เป็นรูปหัวใจขนาดประมาณแท็บเล็ต

ด้านนอกไม่มีป้าย แต่กล่องมีด้ายสีทองพันรอบขอบน่าจะ มีมูลค่าอยู่

ณิชาไม่ได้รับมา จ้องไปที่คุณย่าอย่างไม่รู้อะไร

“นี่คือของขวัญแต่งงานใหม่ที่คุณย่ามอบให้คุณณิชาและคุณเวธัสค่ะ” ตุ๊กถือกล่องในมือทั้งสองข้างแล้วพูดอย่างสุภาพ น้ำเสียงไม่สั่นคลอน เหมือนกับพูดว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็นอย่างสบายๆ

แต่ก็ทำให้เกิดความโกลาหลในใจของณิชา

ชลิดารู้ว่าพวกเขาแต่งงานกัน ประเสริฐก็รู้ว่าพวกเขาจะแต่งงาน ตระกูลรุ่งโรจน์ก็รู้เรื่องนั้นด้วย...

คนทั้งเมืองรู้กันหมดแล้วว่าเวธัสแต่งงานสินะ

เมื่อคิดว่าคนเหล่านี้เป็นสมาชิกที่มีเกียรติมากที่สุดในตระกูลใหญ่ทั้งสี่ เธอก็บังคับให้ตัวเองโล่งใจ

แต่เธอไม่ได้หยิบกล่องนั้นขึ้นมา แค่พูดด้วยรอยยิ้มว่า "ขอบคุณสำหรับความกรุณาของคุณย่านะคะ แต่ชาลีก็ให้ของขวัญมาแล้วเหมือนกันค่ะ"

"เขาคือเขา ฉันคือฉัน เธอไม่รับนี่ถือเป็นการดูถูกฉันเหรอ” คุณย่าศิริจันทร์เปลี่ยนน้ำเสียง เข้มขึ้นเล็กน้อย

“รับสิคะ! ทำไมจะไม่รับล่ะ!” สิดาเห็นออร่าของคุณย่าศิริจันทร์สว่างไปทั่วห้อง จึงรีบเอื้อมมือไปหยิบกล่องที่อยู่ในมือของตุ๊ก แล้วยิ้มให้ “ณิชาเด็กคนนี้ก็เป็นงี้แหละค่ะ กลัวว่ารับของแพงมาแล้วจะหามาคืนไม่ได้ แต่นี่เป็นความกรุณาของคุณย่า จะหาของอะไรมาเทียบเคียงได้ล่ะ จริงไหมคะ ฉันรับแทนเธอก็แล้วกันค่ะ!"

ในมือของตุ๊กว่างเปล่า แล้วมองดูอย่างละเอียด สิดาถือกล่องไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างไม่ยอมปล่อย หน้าเต็มไปด้วยความโลภ

ณิชาเห็นภาพนี้แล้วก็ไม่พอใจ!

แม้ว่าเธอจะไม่ได้ก้าวเข้าสู่แวดวงไฮโซของเวธัสอย่างเป็นทางการ แต่เธอก็รู้ว่ามีความไม่ลงรอยกันของตระกูลรุ่งโรจน์กับตระกูลสนธิไชย

ก็เหมือนกับที่หลายปีมานี้ ที่ตระกูลรุ่งโรจน์ยอมรวมงานกับตระกูลสถานนท์ แต่ไม่ยอมร่วมงานกับตระกูลสนธิไชย

ชาลีเป็นเด็ก เด็กๆให้ของขวัญกันไปมาก็ได้แล้ว แต่คุณย่าศิริจันทร์เป็นตัวแทนของท่าทีตระกูลรุ่งโณจน์

ณิชากังวลว่าการรับของขวัญแบบนี้จะทำให้เวธัสเกิดปัญหาได้

แต่สิดายิ้มแป้นราวกับดอกไม้ ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ เดี๋ยวก็บอกว่าคุณย่าใจกว้างเดี๋ยวก็บอกว่าใจดี ณิชาละอายใจจะตายอยู่แล้ว

โชคดีที่วันนี้คุณย่าศิริจันทร์ท่าทีดีอย่างเหลือเชื่อ แถมยังบอกว่าอยากจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วย

ตอนจะกลับ ณิชาก็ไปส่งคุณย่าขึ้นลิฟต์ ก็ลังเลอยากจะพูดอยู่หลายหน

คุณย่ารู้ดีว่า ณิชาอยากจะพูดอะไรไม่ทันที่เธอจะพูด ท่านก็ขัดจังหวะว่า “นี่เป็นของขวัญที่ฉํนให้ด้วยใจจริง ชาลีเคยบอกว่า กว่าพวกเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ง่ายเลย”

เมื่อพูดแบบนี้ ณิชาจะปฏิเสธก็ดูไม่ดีแล้ว ทำได้แค่พูดว่า “ขอบคุณค่ะ”

คุณย่าศิริจันทร์จับมือเธอแล้วบีบ ก็หัวเราะออกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊