เวธัสตอบอื้อกลับมาอย่างลวกๆหนึ่งที
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปซื้ออาหารหมากันตอนนี้เลยไหม?”ณิชาพูดเสนอขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจอีกครั้ง
เวธัสสีหน้าดำมืดเหมือนปกคลุมไปด้วยความมืดมิด“เดี๋ยวให้ลุงชัยซื้อแล้วกัน ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านก่อน ดึกมากแล้ว”
“ถ้าลุงชัยซื้อแต่มันก็ไม่ใช่ด้วยมือของฉันเอง แถมของที่มันก็ต้องการก็ยังมีอีกเยอะแยะ พวกเราไปเดินเลือกดูสักหน่อย ก็ถือว่าได้เดินเล่นด้วยกันกับฉันด้วย”
ณิชานอกจากความรู้สึกแปลกใหม่ที่จะได้เลี้ยงลูกหมาแล้ว ก็ไม่อยากกลับไปบ้านเร็วๆด้วยเหมือนกัน
รอยายหลับไปแล้ว เธอค่อยกลับไปยิ่งดี
เวธัสเห็นว่าเธอดีกับหมาจรจัดขนาดนี้ ก็เกิดความรู้สึกหึงหวงขึ้นมา“คุณตื่นเต้นกับการเลี้ยงหมามากกว่าออกไปทานข้าวกับผมอีกนะ”
ณิชาไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ยิ้มแหะๆ“เพราะว่านี่คือประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยังไงล่ะ ก็เหมือนกับปัณณ์กับน้องอรัลตอนที่ปลูกต้นไม้ครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีใจ จดบันทึกการรดน้ำต้นไม้แทบทุกวัน……”
เวธัสเงียบสงบ เขามีลูกแต่ยังไม่เคยไม่ซื้อของใช้ประจำวันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาให้เป็นพิเศษเลยด้วยซ้ำ
ก็อิแค่หมาจรจัดตัวเดียว? ยุ่งยากวุ่นวายจริงๆ
ณิชาถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความสิ้นหวัง“ก็ได้ ให้ลุงชัยซื้อก็แล้วกัน แต่ต้องจำไว้นะว่าจะต้องซื้ออาหารสุนัขที่มีโภชนาการนะ ลูกหมาร่างกายอ่อนแอมาก”
เวธัสจ้องมองลงไปที่ผมดำเงาของหญิงสาว ในใจเหมือนมีอะไรมาขีดข่วน
……
ตอนที่ออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เวธัสสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา แต่ในมือกลับถืออาหารสุนัขหนึ่งถุง
ณิชาซื้อของมาอีกตั้งมากตั้งมาย แต่ของเหล่านั้นก็ล้วนแต่ไม่ใช่ของที่ต้องรีบใช้ เวธัสทิ้งที่อยู่ของคฤหาสน์สนธิไชยเอาไว้ให้พนักงานของซุปเปอร์มาร์เก็ตไปส่งถึงที่
เขาไม่มีทางเอาหมาตัวนี้ไปไว้ที่Martin Modernแน่นอน นั่นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของพวกเขา ไม่ต้องการให้มันสอดแทรกเข้ามายุ่ง
รอยยิ้มตรงมุมปากของณิชากลับไม่ได้จางหายไป
ในแต่ละครั้งเขาเอาแต่ดูชั่วร้ายอยู่ตลอด ในความเป็นจริงแล้วเขาก็ยอมประนีประนอมเพื่อเธอ รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา จ้องมองเงาหลังของเขา รู้สึกเย็นสบายไปทั่วร่างกาย
เวธัสไปส่งเธอที่ คฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ รถจอดห่างจากประตูทางเข้าคฤหาสน์ประมาณครึ่งกิโลเมตร
ก่อนที่ณิชาจะลงจากรถ ยื่นมือออกมาคล้องคอของเวธัสเอาไว้ เข้าไปจูบที่ริมฝีปากของเขา ตอนที่เดินเล่นอยู่ท่ามกลางสายฝนเมื่อตะกี้นี้ ก็อยากจะทำแบบนี้
ต่อมาเขาก็“ยอมอ่อนข้อ”ให้กับตัวเองอยู่ตั้งหลายครั้ง เธอก็ยิ่งอยากมากขึ้นไปอีก
ลิ้นชอนไชเข้าไป ตวัดในปากของเขาไปทั่วทุกตารางนิ้ว ลมหายใจของเขาเริ่มถี่มากขึ้น กัดริมฝีปากของเธอ มันทำให้เธอร้องครางออกมาเบาๆด้วยเสียงอู้อี้
เลือดเริ่มสูบฉีดพุ่งพล่านอย่างช้าๆ เวธัสเปลี่ยนมาเป็นผู้กระทำแทน ปรับพนักพิงเก้าอี้เอนลงไปข้างหลัง ร่างกายที่สูงใหญ่ขึ้นมาคร่อม เลื่อนริมฝีปากที่อ่อนนุ่มลงมา หยุดตรงลำคอที่ขาวเรียว
ณิชาพันเขาเอาไว้แน่นราวกับงูน้ำ ขึ้นๆลงๆภายในโลกแห่งประสาทสัมผัสที่เขานำพาเข้าไป สองมือจับเสื้อเชิ้ตของเขาเอาไว้แน่นจนเป็นรอยยับเต็มไปหมด
แต่ถึงยังไงที่นี่ก็ห่างจากคฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ไปแค่สองสามร้อยเมตรเท่านั้น คนขับรถติดตามทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา
พอเห็นรถจอดนิ่ง แต่ยังไม่เห็นคุณณิชาลงมา คนขับรถก็นึกถึงคำสั่งของคุณย่าศิริจันทร์ขึ้นมา อารมณ์ซับซ้อนทันที เขาจะเข้าไปขัดจังหวะ? หรือจะรอถูกคุณย่าศิริจันทร์ไล่ออก?
สุดท้ายเหตุผลก็อยู่เหนือความรู้สึก คนขับรถเดินไปอยู่ตรงหน้ารถ
เขากำลังกะที่จะเคาะประตูรถเตือนทั้งสองคนว่าให้แยกจากกันได้แล้ว เสียงปึงก็ดังขึ้นมาก่อน ประตูรถมีคนเปิดออกมาจากข้างใน ชนเข้าหับปลายจมูกของคนขับรถ
คนขับรถเอามือกุมจมูกถอยหลังไปสองสามก้าว เงยหน้าขึ้น รู้สึกเหมือนเลือดจะไหล
เวธัสลงมาจากรถเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จูงณิชามือเดียว ถือร่มบังร่างกายที่ผอมบางของเธอเอาไว้อย่างระมัดระวัง
ณิชายังไม่ทันได้ดึงสติกลับมาจากความสนิทชิดเชื้อเมื่อตะกี้อย่างสมบูรณ์ แก้มแดง หูร้านผ่าว แล้วก็ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางอับอายของคนขับรถด้วยเหมือนกัน
ก่อนที่จะไป ณิชาหันมองลูกหมาด้วยความรู้สึกเป็นห่วง นอนขดเป็นก้อนขนนุ่มฟู ดูเหมือนจะกำลังหลับอยู่ เธอเอามือไปลูบๆอย่างไม่กลัวสกปรก
“เป็นเด็กดีนะ หายไวๆ”
แม้ว่าลูกหมากำลับนอนหลับอยู่ แต่ก็ยังมาถูที่ฝ่ามือของณิชาอยู่หลายครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ แถมยังแลบลิ้นออกมาด้วย……
จู่ๆเวธัสก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ยื่นมือข้างหนึ่งมาคว้าลูกหมาขึ้นมา แหวกขาทั้งสองข้างของมันออกแล้วมองดูโดยอาศัยแสงจากไฟถนน
ณิชามองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ด้วยความตกใจ
“คุณทำอะไร?”
เวธัสเส้นเสียงหนา“จะดูสักหน่อยว่ามันเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...