กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 570

พอเวธัสแน่ใจแล้วว่าณิชาไม่เป็นอะไร ก็ขับรถตามรถพยาบาลไปอย่างบ้าคลั่ง

ณิชานั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ มองสองมือของเขาจับอยู่ตรงพวงมาลัย ขอบตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำ เท้าเหยียบคันเร่งจนมิด เร่งความเร็วของรถขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับกำลังลอยอยู่ในอากาศ แทบจะเหยียบไม่โดนวัตถุอะไรเลยสักนิด……

แม้แต่ตอนที่รถผ่านโค้ง ความเร็วก็ยังไม่ลดลงเลยสักนิด

ราวกับว่าวินาทีต่อไปจะชนเข้ากับแผงกั้นอย่างไรอย่างนั้น!

ณิชาตกใจจนหลับตาปี๋ ตัวก็เอนไปเอนมาอย่างนิ่ง ไหล่ถูกเข็มขัดนิรภัยรัดจนเป็นรอยช้ำ

เธอสามารถรู้สึกได้ว่าล้อรถชนเข้ากับของแข็งบางอย่างได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็ขับมุ่งตรงไปข้างหน้าต่ออย่างโซเซ

เธอรีบดึงมือที่ควบคุมพวงมาลัยอยู่ของเวธัสทันที เหงื่อไหลท่วมตัว……

“เวธัสคุณขับให้ช้าลงหน่อยสิ!น้าเล็กเธอเป็นคนดีฟ้าจะต้องคุ้มครองอยู่แล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันไม่อยากให้ตัวเองกับลูกเป็นอะไรไปพร้อมกับคุณก่อนที่จะได้เจอน้าเล็กนะ!”

เวธัสจ้องมองถนนหนทางอย่างนิ่งเงียบ ใบหน้าบึ้งตึง มองไม่ออกว่ารู้สึกอะไรอยู่ เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังพุ่งกระโจน

มือที่จับพวงมาลัยยังคงออกแรงอย่างต่อเนื่อง……

ณิชาไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเวธัสมาก่อน กัดฟันพูดขึ้น “ฉันรู้ว่าคุณมองว่าน้าเล็กเป็นแม่มาโดยตลอด ฉันเองก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะเสียสติ พวกเราจะยังเป็นอะไรไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นใครจะไปตรวจสอบคนร้ายที่เป็นคนทำร้ายน้าเล็กจนตกบันไดล่ะ?”

เวธัสเงยมองเธอผ่านกระจกในรถ สีหน้าซีดขาว หยดเหงื่อเม็ดใหญ่เม็ดเล็กที่หน้าผากกำลังไหลลงมา……

รู้สึกตกใจ แรงที่เหยียบอยู่ตรงคันเร่งก็ผ่อนปรนลงครึ่งหนึ่งทันที ความเร็วของรถลดลง

ณิชาเพิ่งหายจากอาการตื่นตระหนก จ้องมองเขา ส่งสายตาปลอบประโลม

เวธัสเพิ่งจะมาถึงโรงพยาบาล ก็ได้ยินหมอพูดขึ้น “จากการวินิจฉัยเบื้องต้นมีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ ตามตัวมีร่องรอยของกระดูกหักหลายจุด ต้องรีบทำการผ่าตัดโดยด่วน สถานการณ์ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไรนัก”

“ถ้าอย่างนั้นยังมัวรออะไรอยู่ล่ะ? ไปทำสิ!”เวธัสพูดตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นถึงที่สุด

หมอถือแบบฟอร์มที่เขาเซ็นชื่อเดินจากไป เข็นจงกลเข้าไปในห้องผ่าตัด

ณิชาคว้ามือที่อยู่ข้างลำตัวของเขาเอาไว้เบาๆ หัวเอนพิงที่บนไหล่ของเขา ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น ในเวลานี้เธอเองก็ไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องพูดเหมือนกัน แค่อยู่เคียงข้างเขาอย่างเงียบๆเท่านั้น

คนของตระกูลสนธิไชยกับตระกูลรุ่งโรจน์ก็รีบตามมาทันที

ตรงทางเดินที่เงียบสงบเปลี่ยนเป็นวุ่นวายขึ้นมา ทุกคนต่างพากันพูดสอบถามอาการในตอนนี้ของจงกล ตามด้วยท่านประเสริฐที่ค้ำไม้เท้าเอาไว้

“จะมีใครบอกฉันไหม ว่าในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนเห็นจงกลตกบันได้เป็นคนแรกสุด?”

จริงๆแล้วประเสริฐก็มองว่าจงกลเป็นคนของตระกูลสนธิไชยครึ่งหนึ่ง

การที่ได้มาเห็นเลือดในงานวิวาห์แบบนี้ เขาจะต้องตรวจหาสาเหตุที่มาให้ได้

ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ หรือว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่?

แต่น่าเสียดายนั่นมันเป็นห้องบันได ไม่มีการเฝ้าระวัง ก็เลยไม่เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย

สาวรับใช้ที่ตามมาคอยปรนนิบัติดูแลคนหนึ่งก็เดินออกมาอย่างสั่นไม่หยุด “……ดิฉัน ดิฉันเองค่ะ ในตอนนั้นดิฉันกำลังไปส่งอาหารเช้าให้กับแขกที่อยู่ชั้นบน ได้ยินเสียงตะโกนจากห้องบันได ก็เลยตามไปดูค่ะ”

พูดจบ จู่สาวรับใช้ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หันมองณิชาอย่างสั่นๆ

เวธัสแววตาเยือกเย็น “เธอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็พูดออกมา!”

สาวรับใช้พูดอย่างตะกุกตะกัก “ตอนที่ดิฉันไปถึงห้องบันได คุณจงกลก็ตกลงไปเรียบร้อยแล้ว คุณผู้หญิงกำลังนั่งลงอยู่ข้างกายของคุณจงกลด้วยท่าทางตื่นตกใจ ตามตัวเต็มไปด้วยเลือด แถมคุณจงกลก็ยัง……ชี้ไปที่คุณผู้หญิงพร้อมกับเรียกชื่อของเธอค่ะ”

เวธัสได้ฟังแบบนั้นก็หันมองณิชา เสียงเคร่งขรึมลงไม่น้อยทันที “คุณก็อยู่ในที่เกิดเหตุเหมือนกันเหรอ?”

เนื่องจากการระบุยืนยันตัวของสาวรับใช้และการสอบถามของประเสริฐ ทำให้สายตาของคนนับไม่ถ้วนต่างจับจ้องไปที่ณิชา

ณิชาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พยายามรักษาน้ำเสียงให้นิ่งคงที่ที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊