ไพลินยังคงหอบหายใจหนักๆแม้ว่าบทรักร้อนแรงจะจบลงแล้ว เธอใช้เวลานานหลายนาทีในการปรับจังหวะการหายใจให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เช่นเดียวกับคนที่นอนซบหน้าอยู่บนเนินอก ลมหายใจอุ่นของเขายังเป่ารดลงมาบนผิวกายชุ่มเหงื่อของเธอถี่ๆ
"ลุกออกไปได้แล้ว ฉันจะไปอาบน้ำ"
"คืนนี้จะไม่กลับมานอนที่คอนโดจริงๆเหรอ"
"นายนี่ทำตัวงอแงเหมือนเด็กเลยนะ เมื่อก่อนยังนอนคนเดียวได้ไม่เห็นเป็นอะไรเลย"
"นอนคนเดียวก็ได้วะ" บดินทร์ทำหน้าเซ็ง แล้วค่อยๆนอนลงข้างๆ ทำให้ไพลินรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่ร่างกายได้รับอิสระ ในขณะที่บดินทร์ยังนอนทำหน้าเซ็งอยู่บนเตียง
@บ้านของไพลิน
"น้องลิน กลับมาแล้วเหรอลูก" ไพลินอมยิ้มเล็กน้อยกับคำทักทายอบอุ่นของผู้เป็นแม่ที่ดังขึ้นทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ของบ้าน เธอส่งยิ้มหวานให้ภารดีผู้เป็นแม่ที่นั่งรออยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แล้วสาวเท้าเข้าไปหา
"ทนคิดถึงลูกสาวไม่ไหวเหรอคะถึงต้องโทรตามให้ลินกลับมานอนที่บ้านเลย" เธอเย้าหยอกผู้เป็นแม่ พร้อมหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ
"แม่ก็อยากให้น้องลินกลับมากินข้าวเย็นเป็นเพื่อนแม่บ้าง ช่วงนี้คุณพ่อไปคุยงานที่ฮ่องกงอีกแล้ว แม่เหงา" ภารดีส่งยิ้มหวานให้ลูกสาว พร้อมกับกดจมูกลงบนพวงแก้มใสของไพลินฟอดใหญ่ให้คลายความคิดถึง
"แล้วทำไมแม่ไม่ไปเที่ยวกับพ่อล่ะคะ"
"แม่ชอบอยู่บ้านมากกว่า แต่ถ้ามีพ่อเขาอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่เหงาหรอก"
"คนรับไช้เต็มบ้านยังเหงาอีกเหรอคะ"
"ช่วงนี้เหงาเป็นพิเศษ เพราะลูกสาวไม่ค่อยกลับบ้านมาให้หอมแก้มเลย"
"ก็มาแล้วนี่ไงคะ" ไพลินหลุดยิ้มกับท่าทางเง้างอดราวกับเด็กของผู้เป็นแม่ พร้อมกับใช้ปลายจมูกเชิดรั้นคลอเคลียพวงแก้มที่ยังคงความเต่งตึงของผู้เป็นแม่เบาๆ หยอกเย้าจนภารดีหลุดขำกับการกระทำน่าเอ็นดูของลูกสาว
"หายงอนลินรึยังคะ ลินหิวข้าวแล้วค่ะ วันนี้คุณแม่เข้าครัวเองเลยเหรอคะ ไม่ได้กลับบ้านหลายอาทิตย์คิดถึงฝีมือของคุณแม่ที่สุดเลย"
"พูดเหมือนบ้านกับคอนโดของน้องลินอยู่ไกลกันเป็นร้อยกิโลฯเลยนะ"
"สำนึกผิดแล้วค่ะคนสวย นับตั้งแต่วันนี้ต่อไปจะกลับบ้านบ่อยๆนะคะ" เธอทำน้ำเสียงหนักแน่นทั้งที่สีหน้ายังยิ้มแย้ม ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น
"ลินหิวแล้วค่ะ ไปกินข้าวกันดีกว่า"
"เดี๋ยวจ้ะ" ภารดีรั้งแขนลูกสาวไว้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้านพอดี เรียกความสนใจจากไพลินที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารให้หันกลับไปตามต้นทางของเสียง
"แม่ลืมบอกน้องลินไปว่าวันนี้เพื่อนแม่ที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศจะมาทานข้าวเย็นกับเราด้วย"
"อ๋อค่ะ" ไพลินพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เธอคลี่ยิ้มหวานตามมารยาทเมื่อเห็นหญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงความสะสวยเดินนวยนาดเข้ามาในห้องโถง ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆจางหายไปเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับนายแบบเดินเสยผมตามเข้ามา
"น้องลินคะ" ภารดีเรียกลูกสาวเสียงหวานเมื่อเห็นไพลินมองลูกชายของเพื่อนตนเองไม่วางตา เธอลุกขึ้นมาพูดกับลูกสาวเสียงเบาให้พอได้ยินกันแค่สองคน "คนนี้แม่ไฟเขียวนะ"
ไพลินรีบละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังเดินเข้ามาเมื่อโดนเขามองกลับ เธอหันมองผู้เป็นแม่เป็นเชิงคำถาม แต่คำตอบที่ได้คือรอยยิ้มหวานจากผู้เป็นแม่
"เพื่อนฉันยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ" ภารดียิ้มรับคำชมจากแอนนา เพื่อนรักที่รู้จักกันมานานนับหลายสิบปี นับตั้งแต่ที่ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กำราบรัก 20+