ภารดีมองรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกสาวแล้วได้แต่ถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้ง สายตาที่ไพลินจ้องมองแฟนหนุ่มเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่คนเป็นแม่อย่างเธอเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี ไม่ต่างจากสายตาของบดินทร์ที่มองลูกสาวของเธอนัก มันเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น
"ถ้าจะคบกันแม่อยากให้คุยกันไปเรื่อยๆก่อน ไม่ต้องรีบร้อน" หลายนาทีต่อมาหลังจากเงียบไปภารดีจึงพูดขึ้นอีกครั้ง ทำให้บดินทร์และไพลินรีบละสายตาจากกัน "ความรู้สึกของคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วันนี้รักมาก พรุ่งนี้อาจจะหมดรักกันง่ายๆก็ได้ คำพูดสวยหรูจะพูดออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การกระทำที่จริงใจมันต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ แม่เชื่อในการกระทำมากกว่าคำพูดสวยหรู"
"ถ้าผมจะขอเวลาพิสูจน์การกระทำและความจริงใจของตัวเองแม่จะให้ไหมครับ อย่าเพิ่งตัดสินผมเพียงเพราะแม่ไม่ถูกใจในสิ่งที่ผมเป็นได้ไหมครับ" บดินทร์เอ่ยขอโอกาสเมื่อเห็นภารดีเริ่มมีท่าทีอ่อนลง
"กล้าขอแม่ก็กล้าให้ ถ้ามั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนเลวร้ายก็ต้องพิสูจน์ให้แม่เห็นว่าสามารถดูแลน้องลินได้จริงๆ" ภารดีตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทำเอาบดินทร์ที่กำลังแอบลุ้นในใจฉีกยิ้มแก้มปริ ความจริงใจที่เขาแสดงออกทำให้แม่ของไพลินยอมเปิดใจให้ในที่สุด
"แล้วถ้าคืนนี้ผมจะขอนอนค้างที่นี่แม่จะว่าอะไรไหมครับ" ไม่ใช่แค่ภารดีที่ชะงักไปกับคำขอของบดินทร์ แต่แฟนสาวอย่างไพลินก็ตกใจกับความกล้าบ้าบิ่นของเขาเหมือนกัน
"ตอนขับรถมาฟ้ามืดเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว ผมไม่อยากขับรถแข่งฝนตอนกลางคืน ให้ผมนอนค้างที่นี่สักคืนได้ไหมครับ" บดินทร์ส่งยิ้มให้ว่าที่แม่ยายโดยไม่หลบสายตา แต่ก็โดนไพลินหยิกหลังมือเบาๆเป็นการปราม
"ได้จ้ะ" ภารดียิ้มตอบหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง บดินทร์ที่ได้ยินอย่างนั้นดีใจจนไม่สามารถกลั้นยิ้มได้ แต่ทว่าคำพูดถัดมาของว่าที่แม่ยายก็ทำให้หัวใจแกร่งที่กำลังพองโตห่อเหี่ยวขึ้นมาทันควัน "จะนอนค้างที่นี่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ห้องน้องลินนะ"
"ครับ" เขาพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำเอาไพลินหลุดยิ้มเอ็นดูกับท่าทางผิดหวังของแฟนหนุ่ม
"กินข้าวกันเถอะค่ะ มัวแต่คุยกันไม่ได้กินสักที" เธอปล่อยหมัดใส่หน้าท้องแกร่งเบาๆเป็นการหยอกเย้า ก่อนจะเริ่มลงมือรับประทานอาหาร ภารดีเองก็เหมือนกัน มีเพียงบดินทร์ที่นั่งมองจานอาหารแล้วเอาแต่ถอนหายใจเบาๆ
@ตกดึก
บดินทร์นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงนอนที่ไม่คุ้นเคยในช่วงกลางดึกที่เป็นเวลาพักผ่อน ท่ามกลางความมืดสลัวภายในห้องนอนเขายังนอนลืมตามองเพดานสีขาวที่ได้รับแสงกระทบจากแสงสว่างของดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา
เขาดีดตัวลุกขึ้นพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากเตียง ใช้แสงสว่างจากดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามานำทางเดินออกไปเปิดประตู ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆขณะที่แง้มประตูเปิดออกทีละนิด
"แม่หลับยังวะ" ท่อนขาเรียวยาวราวกับนายแบบค่อยๆก้าวพ้นกรอบประตูออกมา ดวงตาคมกริบกลอกกลิ้งไปมาเมื่อยามกวาดมองรอบๆตัวอย่างหวาดระแวง
"ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย" บดินทร์พึมพำเบาๆ นึกอายการกระทำของตัวเองที่กำลังทำตัวเหมือนโรคจิตย่องเข้าหาลูกสาวคนอื่น
"อ้าวดิน มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้" สองเท้าที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าหยุดชะงักกะทันหันเมื่อเสียงของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไฟในบ้านถูกเปิดให้สว่างจ้าพอดี
เขายกกำปั้นขึ้นมากระแทกหน้าผากเบาๆพลางพ่นลมหายใจหนักๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปส่งยิ้มให้ภารดีที่เป็นเจ้าของคำพูดเมื่อสักครู่
"ผมว่าจะลงไปกินน้ำข้างล่างหน่อยครับ แม่จะไปไหนเหรอครับ"
"ว่าจะลงไปเอาน้ำหน่อย เมื่อตอนเย็นลืมหยิบน้ำขึ้นมาด้วย แล้วจะเดินลงไปข้างล่างทำไมไม่เปิดไฟ มาเดินย่องมืดๆอะไรอยู่ตรงนี้" ภารดีตอบและถามต่อในประโยคเดียวกัน ทำเอาบดินทร์เลิ่กลั่กที่จะตอบความจริงออกไปว่าจริงๆแล้วเขาตั้งใจจะไปหาไพลินที่ห้องนอนของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กำราบรัก 20+