ฉันดีใจจนลืมเอ่ยถามไปว่างานอะไร แต่งานที่ลูกชายเจ้าของทุนหาให้คงจะดีไม่น้อย ไม่ว่างานอะไรมันก็คงจะดีกว่าที่ฉันกับเพื่อนต้องหากันเอง
เพราะนี่ไม่ใช่ประเทศไทยการหางานสักงานหนึ่งมาทำขณะที่เรียนไปด้วยจึงเป็นเรื่องที่ยาก ถ้าฉันไปบอกเพื่อนว่าคุณเพลิงลูกชายเจ้าของทุนการศึกษาใจดีหางานให้เราทำสองคนนั้นต้องดีใจมากแน่ ๆ เลย
“ดูท่าเธอคงจะดีใจมากที่ได้งาน”
“ใช่ค่ะ เอยไม่คิดว่าจะได้งานเร็วขนาดนี้ ^_^”
“เธอถนัดงานแบบไหน ?” คุณเพลิงถามเสียงเย็น ทุกครั้งที่เขาพูดมันทำให้ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เอยทำได้หมดทุกงานเลยค่ะ เพื่อนเอยก็เหมือนกัน”
“แต่งานนี้ฉันสนใจแค่เธอ”
“…” คำพูดนั้นทำให้ฉันเงียบไป ถ้าเกิดเพื่อนรู้ว่าฉันได้งานแค่คนเดียวจะพากันงอนหรือเปล่านะ แบบนี้มันเหมือนว่าฉันกำลังเห็นแก่ตัวอยู่ยังไงก็ไม่รู้
“อยากให้เพื่อนได้งาน ?”
“ชะ… ใช่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะฝากเพื่อนเธอเข้าทำงานที่โรงแรม ส่วนเธอมาทำงานกับฉัน”
“หะ… ให้เอยทำงานกับคุณเพลิงเหรอคะ”
“อืม”
“งานอะไรเหรอคะ” ฉันถามออกไปอย่างประหม่า ด้วยท่าทางที่สุขุมแบบนั้นเริ่มทำให้รู้สึกเกร็งอีกครั้งแล้วละสิิ
คุณเพลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหาฉัน เขาหยุดที่หลังเก้าอี้ตัวที่ฉันนั่งอยู่แล้ววางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของฉันก่อนจะพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่ใกล้กับใบหูเอามาก ๆ
“งานที่ไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องใช้ความสามารถ ใช้แค่… ลีลา”
“ลีลาอะไรเหรอคะ เอยไม่เข้าใจ” ฉันถามกลับอย่างงุนงงอีกครั้ง ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจว่างานที่คุณเพลิงจะให้ทำคืองานอะไร
“เรื่องของงานเอาไว้เดี๋ยวเธอก็รู้ เรามาตกลงเรื่องเงินเดือนกันก่อนดีกว่าไหม”
“กะ… ก็ได้ค่ะ”
“เธออยากได้เท่าไหร่”
“เอยไม่กล้าเรียกเงินหรอกค่ะ แล้วแต่คุณเพลิงจะพิจารณาดีกว่า” ฉันบอกไปอย่างเจียมตัว ในฐานะลูกจ้างไม่กล้าที่จะเรียกเงินกับเจ้านายเลยจริง ๆ
“ฉันให้เธอเดือนละแสน คงไม่น้อยไป ?”
“สะ แสนเลยเหรอคะ” ดวงตาของฉันมันเบิกกว้าง นี่มันยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งอีกนะ แถมยังถามอีกว่าคงไม่น้อยไป สำหรับฉันมันมากไปด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (ของหวง) มาเฟีย BAD