“เป็นไงมึง”
ติณณภพที่มองเพื่อนกดโทรศัพท์ซ้ำๆ เลยอดถามไม่ได้
“ไม่รับว่ะ เหมือนจะปิดเครื่องด้วย”
ในใจต่อสู้กันอย่างหนักระหว่างอยากงอนก็งอนไป กับเป็นห่วงใจจะขาดแล้ว เขายกแก้วขึ้นดื่มหนักๆติดกัน สุดท้ายความเป็นห่วงก็ชนะ
“กลับกันมึง”
ณัฐนันท์ยกมือเรียกพนักงานมาเก็บเงิน
“เดี๋ยวกูจ่ายเอง แต่พวกมึงไปกับกูหน่อย”
ติณณภพ อคิน ปรมัตถ์มองหน้ากันอย่างงงๆ ไอ้นัทมันจะพาไปไหนของมัน
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสี่หนุ่มก็มาจอดรถหน้าบ้านของพัลลภาโดยมารถคันเดียวกันหมดเพื่อไม่ให้ใครสงสัย
“มึงจอดรถเลยบ้านเพิร์ลไปหน่อยแล้วดับเครื่อง”
ณัฐนันท์บอกอคินให้เอารถไปจอดหน้าบ้านหลังถัดไปที่เขาจำได้ว่าเธอบอกว่าบ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่จะมาช่วงสิ้นเดือน
“มึงจะทำอะไรวะไอ้นัท”
อคินถามงงๆ เมื่อจอดรถได้ ณัฐนันท์กดสายโทรออกหาพัลลภาหลายครั้ง แต่เธอปิดเครื่อง เขาเห็นว่ารถของเธอจอดอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกมันถูกจอดทิ้งไว้ที่คาเฟ่สาขาหน้ามอ
เธอน่าจะนั่งแท็กซี่ไปเอารถแล้วขับกลับบ้าน โล่งใจว่าเธอถึงบ้านโดยปลอดภัย แต่ก็อยากจะเจอหน้าพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ไม่งั้นเขาคงนอนไม่หลับ ไม่ชอบอะไรคาราคาซัง
“เพิร์ลไม่ยอมรับสายกูว่ะ ปิดเครื่องเฉยเลย”
ณัฐนันท์ยังคงกดโทรออกอยู่แบบนั้น
“แต่รถเพิร์ลจอดอยู่ในบ้านแล้ว น้องก็น่าจะถึงบ้านโดยปลอดภัยแล้ว กลับก่อนเถอะมึงเอาไว้อารมณ์เย็นค่อยคุยกัน”
ปรมัตถ์ชวนคนคลั่งรักกลับบ้าน แต่ดูท่าไอ้เพื่อนตัวดีจะไม่ฟัง มันเดินไปหน้าบ้านของเธอแล้วปีนรั้ว ไอ้ห่าเอ้ยปีนรั้วบ้านสาวตอนสี่ทุ่มกว่าเนี่ยนะ วอนคุกแล้วไหมล่ะ
อคิน ปรมัตถ์ ติณณภพ มองหน้ากันเลิ่กลักไม่กล้าเสียงดังกลัวบ้านอื่นได้ยิน แม้จะเห็นว่าบ้านหลังอื่นปิดไฟกันหมดแล้ว โชคดีที่บ้านพัลลภาอยู่หลังมุม ไม่มีบ้านข้างๆ อีกฝั่งหนึ่งก็เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่งั้นเสี่ยงมากที่จะมีคนมาเห็น
ณัฐนันท์พอจะรู้ว่าห้องนอนด้านหน้าคือห้องนอนของเธอเพราะเขาเคยเห็นเธอออกมายืนที่หน้าระเบียง เขาหันกลับมาหาเพื่อนอีกสามคน มองกำแพงรั้วสูงที่อยู่ใกล้กับห้องนอนของเธอ ถ้าปีนจากตรงนี้ขึ้นไปเกาะระเบียง จะทำได้ไหมวะ
“พวกมึงเข้ามาช่วยกูหน่อย”
ณัฐนันท์ส่งสัญญาณให้เพื่อนปีนรั้วตามมา
“ฮ่ะ ไอ้นัทมึงคิดจะทำอะไรของมึงวะ”
ติณณภพถามอย่างงงๆ
“กูจะปีนขึ้นไปหาเพิร์ล”
“ฮ่ะ!!!”
สามเสียงอุทานออกมาพร้อมกัน
“โอ๊ยไอ้ห่า ไอ้คนคลั่งรัก ไอ้เสือกลายร่างเป็นแมว เมื่อกี้ยังบอกไม่สนใจเขาอยู่เลย ตอนนี้เสือกอยากปีนบ้านเข้าหาเขา”
ปรมัตถ์อดรนทนไม่ได้ ต้องด่าออกมา ถ้ารีบง้อเขาแต่แรก คงไม่ต้องมาทำอะไรเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางแบบนี้
“เออน่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ลงเรือลำเดียวกันแล้วพวกมึงมาช่วยกูดีกว่า ทำยังไงจะปีนไปหาเพิร์ลได้”
ติณณภพเกาหัวอย่างเซ็งๆ
เก่งพอๆกับสไปเดอร์แมนเลยทีเดียว
เมื่อไปถึงระเบียงห้องของเธอ เขาก็ลองผลักประตูเลื่อนดู แทบอยากจะร้องเยสออกมาเมื่อพบว่ามันไม่ได้ล็อก
ดีใจอยู่แวบเดียวก็นึกบ่นขึ้นมาในใจว่าถ้าไอ้คนที่ปีนขึ้นมาไม่ใช่เขาจะทำยังไง สงสัยต้องอบรมหน่อยแล้ว
เขาเข้าไปในห้อง โล่งใจว่าไม่ผิดห้องแน่ เพราะเตียงนอนสีชมพูหวาน ชุดนอนแขนยาวแบบกระดุมหน้าของเธอวางอยู่บนเตียง และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอลอยอยู่ในอากาศ
แม่งเอ้ยแค่ได้กลิ่นก็แข็ง อาการหนักแล้วกู ตื่นเต้นนิดๆด้วยไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน
เขาได้ยินเสียงกุกกักในห้องน้ำ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น การได้ปีนหน้าต่างบ้านสาวแบบนี้ ให้ความรู้สึกคึกคักบอกไม่ถูก
เพื่อนรักทั้งสามคนที่รออยู่ด้านล่างเมื่อเห็นว่าณัฐนันท์เข้าไปในห้องของพัลลภาเรียบร้อยแล้ว ก็พากันปีนรั้วออกมา นั่งรอในรถ
“อานิสงส์ในการช่วยเพื่อนง้อแฟนในครั้งนี้ หวังว่าจะพาให้มึง มึงแล้วก็กู มีแฟนกับเขาสักทีนะ”
ติณณภพเอ่ยออกมา
พัลลภาที่โมโหจนหนีกลับบ้านมาก่อนเริ่มอารมณ์เย็นลงบ้างแล้ว พอได้อาบน้ำให้สดชื่นขึ้นก็รู้สึกผ่อนคลาย เห็นว่าคนรักโทรมาหาหลายสาย แต่เธอไม่ยอมรับเพราะตอนนั้นงอน
ไม่ชอบที่เขากอดผู้หญิงคนอื่น ไหนจะสายตาที่จับจ้องหน้าอกของผู้หญิงคนนั้นอีก เฮอะคงจะชอบใหญ่ๆสินะ มองตาปรอยเลย
ตอนนั้นโมโหแต่ตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว เดี๋ยวจะลองเปิดเครื่องดู จริงๆก็พอจะรู้ว่าตัวเองงี่เง่าไปหน่อย แต่ไม่รู้ล่ะนาทีนั้นมันหวง ไม่ชอบที่เห็นเขาใกล้ชิดคนอื่น
แฟนเธอหน้าตาดีขนาดนั้น ต่อให้เขาไม่คิดอะไร ผู้หญิงก็อาจจะคิด เธอไม่ชอบให้ใครมามองเขา เธออยากจะเก็บไว้มองคนเดียว
เธอเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อมีมือแข็งแรงมาโอบรัดและปิดปากเธอไว้ เธอตกใจมาก ดิ้นสุดแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ของตายคนโปรด My Deceitful Lover