ณัฐนันท์ส่ายหน้า
“ไม่ดีกว่า ผมต้องขับรถ”
พริมาเลิกคิ้วมีท่าทีแปลกใจ
“ไม่อยู่กับปริมก่อนเหรอคะ”
ณัฐนันท์สบตาของเธอ ก่อนจะบอกว่า
“พอดีผมมีนัดกับตี๋ นัทไปทำรายงานกัน”
พริมาสบตากับเขา
“นัดตี๋หรือนัดสาว”
เธอถามกึ่งกระเซ้า ไม่ได้ดูคาดคั้น
“สาวที่ไหนไม่มี”
“ก็สาวคนนั้นไง ที่อยู่’ถาปัตย์”
ณัฐนันท์นิ่งไป ตั้งแต่เช้าที่ปิดประตูใส่หน้าเธอไป พัลลภาก็ไม่โทรมาอีกเลย ไม่ส่งข้อความมาด้วย ซึ่งก็...ดี
“เลิกแล้ว”
ณัฐนันท์ตอบสั้นๆ พริมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“เลิกแล้ว! สั้นกว่าที่คิดแฮะ ปริมนึกว่าคนนี้จะอยู่นานกว่านี้”
ก็ดูเขาจะหลงคนนี้มากกว่าทุกคน และดูเป็นคนที่เขาจริงจังมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะจบความสัมพันธ์ลงเร็วขนาดนี้ สามเดือนเองมั้ง
“อืม ผมอาจจะเหมาะที่จะอยู่เป็นโสดไปแบบนี้”
พริมาเดินมายืนตรงหน้าเขา เอื้อมมือมาโอบรอบคอของเขาเอาไว้
“พูดแบบนี้ ปริมน้อยใจแย่ ไม่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับปริมบ้างเหรอ”
ณัฐนันท์หัวเราะออกมาเบาๆ
“บางทีถ้าเราคบกันจริงๆ ปริมอาจจะเบื่อผมก็ได้ ผมอาจจะแย่กว่าที่คิดในบทบาทคนรัก”
พริมาเกลี่ยนิ้วไปบนริมฝีปากของเขา
“มีคนทำให้นัทคิดแบบนั้นเหรอ”
ณัฐนันท์ชะงักไป
“ไม่หรอก แค่คิดว่าบางทีผู้ชายเจ้าชู้อย่างผม คงจะเป็นแฟนที่ดีของใครยาก”
พริมาเขย่งตัวขึ้นจูบที่ปลายคางของเขา
“คนคนนั้นไม่ใช่ปริมแน่ๆ”
ปากอวบอิ่มสีแดงที่เผยอรออยู่ดึงดูดณัฐนันท์ให้ก้มลงมาจุมพิต พริมาก็ยังเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุดอยู่ดี
“วันนี้ไม่ค้างกับปริมจริงๆเหรอ”
พริมาถามเขาอีกรอบ ณัฐนันท์นิ่งคิด
“ผมมีธุระจริงๆ เอาไว้วันไหนว่างๆมีเวลายาวๆผมมาหานะ คืนนี้ปริมจะได้พักผ่อนด้วย”
เมื่อวานพัลลภาไม่ไปเรียนส่งข้อความไปบอกเธอว่าฝากจดเลคเชอร์แล้วก็อัดเสียงของอาจารย์ทุกวิชา เธอก็เข้าใจว่าเพื่อนไปง้อแฟน พอคืนดีกันเลยอาจจะใช้เวลาด้วยกัน
วันนี้ก็ไม่มีเรียน ทั้งคู่เลยไม่ได้เจอกัน จนพี่ชายเพื่อนโทรหา เธอเลยรีบมาดู
“ส้ม พี่นัทเขาใจร้ายกับฉันมาก มากจนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่ได้รักฉันเลย”
พัลลภาน้ำตาไหลออกมา
“โธ่เพิร์ล เป็นยังไงไหนเล่ามาซิ”
พัลลภาที่ดวงตาแดงช้ำ หน้าซีดเซียวร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
“ฮึก ฉันไปหาเขาที่ห้อง ห้องที่เขาบอกว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าไป ฉันเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้ไป ฉันคิดว่าฉันสำคัญ สำคัญกับเขามากพอที่เขาจะให้อภัย ฮึก แต่ส้มเขาไม่แม้แต่จะเปิดประตูรับฉัน พอเขาเห็นว่าเป็นฉัน เขาก็ปิดประตูใส่หน้า เขาทำเหมือนกับว่าฉันไม่ใช่คนรักของเขา ไม่ใช่คนที่เขาเคยบอกว่ารัก ฮึกแกรู้ไหมผู้ชายห้องตรงข้ามเขา เปิดมาเรียกฉันเข้าห้อง ฉันตกใจมาก พยายามเคาะประตูเรียกให้พี่นัทมาเปิดให้ แต่ฉันเคาะยังไงเขาก็ไม่ยอมเปิด ส้มแกบอกฉันหน่อยสิ ว่าคนรักกันเขาจะทำแบบนี้ได้จริงๆเหรอ”
พัลลภาสะอื้นอยู่เป็นระยะ เธอจำสีหน้าท่าทางของเขาในตอนที่เห็นว่าเป็นเธอที่ไปเคาะห้องของเขาได้ เขาดูรำคาญและหงุดหงิด ไม่ได้ดีใจเหมือนที่เธอคิดเลยสักนิด
เธอจำความรู้สึกผิดหวังเสียใจของตัวเองในตอนนั้นได้ดี มันเจ็บจุกไปหมด จำได้แม้แต่ความกลัวตอนที่มีผู้ชายอีกคนส่งสายตาแทะโลมมาให้
นาทีนั้นเธอกลัว เธออยากจะให้เขาเปิดประตูรับ อยากจะให้เขาปกป้องและปลอบโยน หรือจัดการกับผู้ชายเลวๆที่คุกคามเธอ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิด ปล่อยเธอไว้ตรงนั้นโดนไม่สนใจเธอสักนิด
แค่คิดถึงมันก็เจ็บไปทั้งใจ มันเหมือนฝันร้าย โกรธอะไรจะโกรธกันขนาดนี้ ความผิดของเธอมันเกินจะให้อภัยจริงๆเหรอ
“โธ่เอ้ยเพิร์ล เอาตรงๆนะ ฉันจะพูดตรงๆเจ็บแต่มันจะจบ คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก แกนึกถึงตอนที่แกโกรธเขาสิ พอเขาง้อแกให้อภัยเขาไหม”
พัลลภาพยักหน้า ให้สิ ทุกครั้งที่เธอโกรธ ทุกครั้งที่เขาง้อ เธอพร้อมจะให้อภัยเสมอ เพราะเธอรักเขา แต่เขาทำไมไม่ให้อภัยเธอบ้าง เขาตัดขาดเธอได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ เป็นคำถามที่เธอถามตัวเองซ้ำ ๆ
“แก ต่อให้เขาทำให้ฉันโกรธแค่ไหน แค่เขาเอาหน้ามาให้เห็น ฉันก็พร้อมจะให้อภัยเขาตลอด ฉันถึงไม่เข้าใจไงว่าความผิดของฉันมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ”
สุธาสินีถอนหายใจออกมาตัดสินใจพูดกับเพื่อนตรงๆ แผลนี้ต้องกรีดเอาหนองออกแล้วเอาแอลกอฮอล์ราด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ของตายคนโปรด My Deceitful Lover