คำพูดของหยูเฟยเชว่ทำให้ จักรพรรดิตกอยู่ในความเงียบงัน
ความจริงแล้วภายในวังแห่งนี้ไม่มีอาหารจานไหนที่ไม่อร่อย แต่เพียงว่าเมื่อทานเข้าไปหลายครั้งเป็นเวลา 10 ปีก็ทำให้รู้สึกเอียนจนแทบทนไม่ไหว
“เสด็จปู่ บอกข้าหน่อย บอกข้าหน่อยสิเพคะ” หยูเฟยเชว่ได้พูดอย่างออดอ้อนอยู่ข้างๆ
จักรพรรดิครุ่นคิดสักครู่หนึ่งและกล่าวอย่างออกไปตรงไปตรงมาว่า "เจ้าลองคิดดูสิ"
ขนมที่ทำโดยสาวชาวบ้านจากจวนของหยูเฟยเชว่นั้นไม่ได้มีรสชาติที่น่าทึ่ง แต่รสชาตินั้นมีเอกลักษณ์ซึ่งหาได้ยากในวังซึ่งรสชาติก็ถือว่าเป็นของชั้นหนึ่งเช่นกัน
โดยรวมถือว่าค่อนข้างอร่อยเลยทีเดียว
แต่มันเป็นเรื่องที่น่าตลกมากเกินไปหากจะเปลี่ยนตำแหน่งของนางให้กลายเป็นนางบำเรอเพราะเรื่องนี้
หยูเฟยเชว่ยิ้มอย่างมีชัยในทันที
เธอได้กล่าวอีกว่า "ของที่ท่านแม่ทำอร่อยและดีที่สุดในโลก ใครจะไม่ชอบได้เพคะ"
แต่ในไม่ช้ารอยยิ้มของเธอก็หุบลง และเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ท่านลุงหยุนชูก็อายุตั้งยี่สิบเจ็ดปีแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน เสด็จปู่คงจะกังวลมากทีเดียว หม่อมฉันได้ยินมาว่าเสด็จป้าอู๋ซวงกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เสด็จมาร้องไห้กับเสด็จปู่ตั้งหลายรอบ”
เมื่อกล่าวถึงการแต่งงานของจี้หยุนชูใบหน้าของจักรพรรดิก็ดูหม่นหมองลง
แต่เมื่อเอ่ยถึงองค์หญิงอู๋ซวง ใบหน้าของจักรพรรดิกลับกระตุกขึ้นมา
หยูเฟยเชว่พูดถูก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงอู๋ซวงได้มาร้องไห้กับพระองค์หลายรอบโดยร้องขอให้เขากดดันจี้หยุนชูให้หาคู่ครอง
แม้ว่าผู้ชายไม่จำเป็นต้องแต่งงานเร็ว ๆ นี้ แต่ในเมืองหลวงจี้หยุนชูก็ถือว่าอายุมาก ซึ่งคนที่อายุมากกว่าเขาหลายปีก็ได้อุ้มหลานแล้ว แต่ตัวเขาเองไม่มีแม้แต่ทายาทด้วยซ้ำ
ไม่น่าแปลกใจที่องค์หญิงอู๋ซวงจะร้อนใจ
ในตอนแรก จักรพรรดิคิดว่าคงจะดีหากไม่ประทานการแต่งงานให้กับเขา แต่สุดท้าย เด็กคนนี้ก็ดื้อรั้นและไม่ยอมเชื่อฟัง ทั้งยังหนีไปที่มณฑลอันหยางเป็นเวลาหนึ่งถึงสองปี
อ๋องชิงผิงผู้สง่างามนั้นเป็นหลานชายที่เขาทั้งรักมากที่สุดทั้งยังรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยฝ่ายขวาของแคว้นแห่งนี้นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่เล็กๆเช่นนี้
แม้ว่าจะได้รับการยืนยันในภายหลังว่าเขานั้นทำเพื่อปกป้องเด็กๆ แต่จักรพรรดิก็ยังรู้สึกว่ามันช่างน่าเหลือเชื่อเสียเหลือเกิน
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือเด็กคนนี้เปิดเผยว่าเขาอยากกลับไปอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนั้นมาสักพักแล้ว
แม้ว่าจักรพรรดิจะทรงเฉลียวฉลาดราวกับสุนัขจิ้งจอก แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงทำให้เขารู้สึกตกตะลึง
ผู้ชายที่ดี รวมทั้งความสามรถที่ราชวงศ์ต้าหยูบ่มเพาะด้วยความอุตสาหะกลับหายตัวไป และไม่ได้ใช้ความสามารถของตัวเองช่วยพัฒนาประเทศมาสองสามปี และร้องขอให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสันโดษในชนบทแห่งนั้น
จักรพรรดิไม่ยอมตอบสิ่งใดกลับไป ซึ่งตอนนั้นเขาได้ปฏิเสธการจากไปของจี้หยุนชู
จี้หยุนชูไม่พูดสิ่งใดและจากไปอย่างเงียบ ๆ
ต่อมา องค์หญิงใหญ่อู๋ซวงได้มาร้องไห้ทูลขอจักรพรรดิให้พระราชทานการแต่งงานให้แก่จี้หยุนชู แต่จักรพรรดิก็ยังคงนิ่งเฉย
แล้วคิดว่าไม่มีภรรยาก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าจะให้ไปอยู่อย่างสันโดษในชนบทนั้น ไม่มีทาง
"การแต่งงานของท่านลุงหยุนชู..." หลังจากได้ยินคำพูดที่ดูไร้จุดหมายของหยูเฟยเชว่ จักรพรรดิก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "อย่ากังวล เรื่องแบบนี้รีบเร่งไม่ได้"
"ใช่เพคะ เรื่องแบบนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเพคะ" หยูเฟยเชว่ยิ้มกว้างแล้วพูดต่อว่า "บางทีในชีวิตนี้ ท่านลุงหยุนชูอาจจะไม่แต่งภรรยาก็ได้นะเพคะ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ชอบผู้หญิง แต่อาจจะชอบผู้ชาย"
คำพูดนี้ช่างกล้าหาญดีเหลือเกิน
ใบหน้าของจักรพรรดิไม่เพียงถมึงทึง แม้แต่มุมปากของจี้หยุนชูก็กระตุก
องค์หญิงผู้นี้ใจกล้าเสียเหลือเกิน
"เจ้า อย่าได้พูดไร้สาระเช่นนี้อีก" จักรพรรดินั้นเริ่มดุเธอ "เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ หยุนชูจะแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลใหญ่"
"หญิงสาวจากจวนไหนหรือเพคะ ทำขนมให้เสด็จปู่เป็นไหม ลุงหยุนชูจะยอมแต่งงานหรือไม่เพคะ" ดวงตากลมโตที่แสนมีชีวิตชีวาของหยูเฟยเชว่ได้กระพริบตาไปมา พร้อมทั้งแสดงออกถึงความอยากรู้อย่างเห็นอย่างเต็มเปี่ยม
จักรพรรดิสำลัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...