บทที่ 1026 อู๋ตี้
การมาถึงของสำนักเติมฟ้าและกองกำลังตระกูลหลู่ทำให้เหล่าผู้ฝึกฝนเกือบทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัว
ไม่ผิดคาดหลู่เสี่ยวจินได้บรรลุถึงขั้นจักรพรรดิแล้ว
นี่เป็นเรื่องที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพียงหลู่เสี่ยวจินคนเดียวก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น หลู่เสี่ยวจินยังนำกลุ่มตระกูลหลู่และสำนักเติมฟ้าซึ่งมีผู้แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อยนับเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
เมื่อเมล็ดบัวสุกงอมและใจกลางเปิดออก ระหว่างกระบวนการแย่งชิงเมล็ดบัว ตระกูลหลู่ที่หลู่เสี่ยวจินสังกัดอยู่และสำนักเติมฟ้าจะเป็นกลุ่มที่ทำให้ผู้คนปวดหัวมากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังสังเกตเห็นว่าในกลุ่มของสำนักเติมฟ้ามีหญิงสาวที่งดงามอีกคนหนึ่ง นางแบกกระบี่ยาวสามเล่มไว้ที่หลัง
หญิงสาวคนนี้หลายคนเคยเห็นมาก่อน
นางคือคนที่ใช้กระบี่ฟันหลี่ชางเซิงแห่งตระกูลหลี่ในตอนนั้น หลี่ชางเซิงมีพลังถึงขั้นจักรพรรดิระดับหกแต่กลับถูกหญิงสาวและจ้าวอู่หยางร่วมมือกันสังหาร
ไม่ว่าพลังของหญิงสาวจะเป็นของตัวเองหรือไม่ แค่สามารถนำมาใช้ได้ก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวแล้ว
ตอนนี้หญิงสาวผู้นี้ก็อยู่ในกลุ่มของสำนักเติมฟ้าด้วย
หมายความว่า สำนักเติมฟ้าและตระกูลหลู่ ไม่มีใครเทียบได้!
ทุกคนรอคอยการเปิดออกของในกลางเต๋อเหลียนอย่างเงียบ ๆ เพื่อทำการแย่งชิงครั้งสุดท้าย ผู้ฝึกฝนมากมายมุ่งหน้ามายังชั้นที่สามสิบสาม เสียงแหวกอากาศดังขึ้นไม่หยุด
ตู้ม!
กระบี่ใหญ่เล่มหนึ่งฟาดลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง กว้างครึ่งคนและสูงกว่าคนหนึ่งคน กระบี่ใหญ่จมลึกลงในพื้นดิน ดินโดยรอบกระเด็นและปลิวว่อน
แล้วชายผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มก็ลอยลงมาอย่างเบา ๆ เหยียบยืนบนด้ามกระบี่ใหญ่ เขาสวมหน้ากากผี แผ่พลังปราณทั่วร่างอย่างน่าตกใจ กอดอกพลางเปล่งเสียงแหบห้าวดังก้อง
“เมล็ดดอกบัวแห่งเต๋า ข้าอู๋ตี้ขอจองสองเมล็ด!” ทุกคนขมวดคิ้ว ชายผู้ถือกระบี่ใหญ่สวมหน้ากากผีนามว่าอู๋ตี้ ชัดเจนว่าเป็นผู้ฝึกฝนอิสระที่มีพลังมหาศาล พลังปราณที่แผ่ออกมาอย่างไร้รูปแบบแทบจะถึงความแข็งแกร่งของขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่งแล้ว
แต่นั่นเป็นเพียงกลิ่นอาย หากแสดงพลังออกมาเต็มที่ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่งแน่นอน
และคำพูดอวดดีของอู๋ตี้ก็มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่าง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า