บทที่ 109 เจรจากับเสนาบดีกรมคลัง
จ้าวอู่เจียงได้ทำการตรวจสอบกลุ่มขุนนางที่ควบคุมการขนส่งสมุนไพรจากโรงหมอหลวงไปที่ท่าเรือในวันนั้นแล้ว และเขาก็ได้พบว่าขุนนางเหล่านั้นเป็นคนจากกรมคลังทั้งสิ้น
อาศัยเจ้าหน้าที่ระดับต่ำเช่นผู้ดูแลโรงเก็บสมุนไพรอย่างหวังอวี้ข่ายย่อมไม่สามารถกล้าทำเรื่องราวอุกอาจเช่นนี้ได้ หากไม่มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลัง
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ดูแลโรงหมอหลวงจะร่วมมือกับเสนาบดีกรมคลังที่ยืนอยู่ตรงหน้าจ้าวอู่เจียงในเวลานี้
“ข้ารู้จักกับเฉินอันปังมายาวนานหลายปี สมัยยังเยาว์วัย ข้าเคยกระทำผิดบางอย่าง และเฉินอันปังก็รับทราบเรื่องนั้น” เสนาบดีกรมคลังเรียบเรียงคำพูดอย่างระมัดระวัง
“ข้ากำลังเป็นกังวลว่าเขาอาจจะเก็บหลักฐานบางอย่างไว้…”
จ้าวอู่เจียงพยักหน้า พลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ความผิดที่ท่านเคยกระทำไว้ในวัยเยาว์นั้น บัดนี้คงผ่านมาเนิ่นนานมากแล้ว ข้าเชื่อว่าหากฝ่าบาทรับทราบ ฝ่าบาทจะต้องไม่กล่าวโทษท่านอย่างแน่นอน”
“แหม… ใต้เท้าจ้าว ข้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง เป็นขุนนางขั้นสาม แม้ความผิดเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำลายภาพลักษณ์ของข้าให้ย่อยยับแล้ว” เสนาบดีกรมคลังกล่าวด้วยสีหน้าประจบประแจง
“ในโลกนี้ทุกอย่างล้วนมีราคาทั้งสิ้น แม้แต่ตัวของใต้เท้าจ้าวเองก็เช่นกัน หากท่านพบหลักฐานที่เฉินอันปังตั้งใจใส่ร้ายข้า โปรดช่วยส่งมอบให้กับข้าได้หรือไม่ เรื่องราคาข้ายินดีจ่ายไม่อั้น!”
“หนึ่งแสนตำลึงเงิน!” จ้าวอู่เจียงตอบด้วยแววตาลึกล้ำ
“โอ้…” เสนาบดีกรมคลังอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าของจ้าวอู่เจียงด้วยความยินดี
“ไม่มีปัญหา แต่หากท่านพบเจอหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปถึงผู้อื่น ใต้เท้าจ้าวก็ต้องส่งมอบให้กับข้าด้วยเช่นกัน”
จ้าวอู่เจียงสั่นศีรษะ ระเบิดเสียงหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม และความไม่พอใจ มุมปากยกเป็นรอยยิ้มหยัน
“ราคาของข้อตกลงนี้คือหนึ่งแสนตำลึงเงิน ไม่ทราบว่าท่านเสนาบดีตกลงหรือไม่? ข้าคิดว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท่านเสนาบดีจางคงทำเงินได้ไม่น้อย”
“ข้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง หนึ่งแสนตำลึงเงินถือเป็นจำนวนเล็กน้อย หรือท่านคิดว่าข้าจะไม่มีปัญญาจ่าย? ท่านคิดว่าข้ากำลังโกหกท่านอยู่หรือ?” จางทุยจึงได้หรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดเขาจึงคิดว่าจ้าวอู่เจียงจะปฏิเสธข้อเสนอของตนเอง เพื่อเรียกเงินเพิ่ม
“มิใช่อย่างนั้นขอรับ ข้าเชื่อมั่นในตัวของท่านเสนาบดีจางเป็นอย่างยิ่ง” จ้าวอู่เจียงสั่นศีรษะ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูง และพูดยิ้ม ๆ
“ข้าเพียงอยากถามคำถามท่านเสนาบดีจางซักเล็กน้อย”
“เชิญถามมาได้เลย” จางทุยเอามือข้างหนึ่งไขว้ไปทางด้านหลังของตนเอง
จ้าวอู่เจียงถามด้วยเสียงแหบแห้งว่า
“เหตุใดกรมคลังจึงมีเงินมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งที่เมืองอวิ๋นโจวกำลังประสบภัยพิบัติ?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า