บทที่ 1127 นกน้อยโตแล้วย่อมมีป่าให้บิน
ฝนตกหนัก
ตกมาแล้วสองชั่วยามเต็ม ๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกแต่อย่างใด
เสียงสนทนาในโถงงานเลี้ยงที่คึกคักเงียบลงแล้ว
แขกเหรื่อทยอยจากไป
ภายในโถงเหลือคนอยู่เพียงห้าหกคน
รัชทายาทจีปออิงรินสุราให้จ้าวอู่เจียงจนเต็มจอก เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แววตาลึก ๆ เต็มไปด้วยความซับซ้อน
แต่สุดท้ายจีปออิงก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงชนจอกสุราเบา ๆ แล้วดื่มรวดเดียวหมด
ภายในท้องจ้าวอู่เจียงอุ่นวาบด้วยฤทธิ์ เขาลุกขึ้น แล้วบอกลา
หลินอวี้กางร่มน้ำมัน เดินตามหลังองค์ชายของตนอย่างนอบน้อม พร้อมเดินเข้าสู่ม่านฝนไปด้วยกัน
หลังจากจ้าวอู่เจียงและหลินอวี้หายลับไปแล้ว จีปออิงที่เดิมนั่งตัวตรงพลันทิ้งตัวหมดแรง
เขาเอนกายพิงเบาะอย่างเกียจคร้าน มือแกว่งจอกสุราเบา ๆ
“ปอฉางสงบเย็นเกินไปจนทำให้ข้าติดเชื้อไปด้วย ถึงขนาดทำให้ข้าพยายามเจรจาประนีประนอม”
“น่าขัน! ข้าควรจะกดดันเขาจนไม่กล้าเงยหน้า ควรจะกดดันเขาจนตาย! ข้า…”
หยางปิ่งเอินเอ่ยเสียงทุ้ม
“วันนี้สภาพท่านดูไม่ค่อยดี ข้าคงไม่เหมาะที่จะพูดต่อ สุดท้ายท่านก็ยังใจอ่อนอยู่ดี”
“ความผิดไม่ได้อยู่ที่ปอฉาง” จีปออิงดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย
“ข้า…ข้า…รู้ดี ผู้ที่จะทำการใหญ่ได้ แม้แต่ญาติสนิทก็ต้องฆ่าได้”
“แต่น้องชายน้องสาวมากมายของข้ามีสักกี่คนที่ทำผิดจริง?”
“ปกติข้าถือตัวว่าเป็นบุตรชายคนโตจากภรรยาเอก พวกน้องชายเป็นเพียงลูกอนุ”
“แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกภรรยาเอกหรือลูกอนุ สำหรับบิดาข้า…ต่างกันตรงไหน?”
“องค์ชายก็ดี เชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ ก็ดี หรือราษฎรของราชวงศ์ต้าโจว ในสายตาของบิดาข้าล้วนเท่าเทียม”
“ช่างเป็นฮ่องเต้ที่ดีจริง ๆ…”
“ฮ่า ๆๆ…”
เสียงหัวเราะของจีปออิงดังขึ้น เย็นยะเยือกราวกับสายฝนฤดูใบไม้ร่วง
หยางปิ่งเอินนั่งดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า สีหน้าเย็นชา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า