บทที่ 1133 จางซวีคุน มันเผา และจีปออิง
อารามอู๋เหวย
ควันสีเขียวลอยขึ้นเป็นสาย
จางซวีคุนล้วงมันฝรั่งเผาออกมาจากเตาหลอม ปลายนิ้วทั้งสองข้างเปื้อนดำ เขาค่อย ๆ ปอกเปลือกมันฝรั่งอย่างเชื่องช้า
หลังจากเผาแล้ว เปลือกมันฝรั่งติดดิน ทำให้ปอกออกได้ยาก
ไม่นาน มันฝรั่งที่ขรุขระ มีทั้งสีดำและสีเหลืองปนก็ถูกปอกเสร็จ
จางซวีคุนกัดกินหนึ่งคำ เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
แก้มของเขาขยับเคี้ยวไปมาพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ยังคงหอมอยู่เหมือนเดิม สบายกว่าหลอมยาตั้งเยอะ”
เมื่ออยู่คนเดียว จางซวีคุนมักจะพูดภาษาบ้านเกิด ทำสิ่งที่ชอบทำตอนเด็ก กินของที่ชอบกินตอนเด็ก
อาจเป็นเพราะเขาเป้นผู้บำเพ็ญเซียน โดยเฉพาะผู้ที่ล่วงรู้ความลับสวรรค์มากมักจะไม่มีอายุยืนยาว
จางซวีคุนรู้ดี ตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว
เร็วสุดสองปีครึ่ง เขาก็จะต้องจากโลกนี้ไป ช้าหน่อยก็มากกว่าสองปีครึ่ง
นอกเสียจากว่าวิชาที่หยุดชะงักของเขาจะพัฒนา ไม่เช่นนั้น พันปีคือขีดจำกัดอายุขัยของเขา
เขาไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ และไม่ได้คิดว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกพันปีหมื่นปี
คนเรา กินก็กิน ดื่มก็ดื่ม ถึงเวลาไปก็ไป
ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
แผนการที่ควรวางไว้ เขาก็ได้วางให้ราชวงศ์โจวเรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่อาจารย์สั่งไว้ก่อนตายเขาก็ทำสำเร็จแล้ว
เรื่องที่ศิษย์พี่ใหญ่จางหลินต้าวสำนักศรัทธาษฎรฝากไว้ เขาก็ช่วยจัดการไปหลายอย่าง
ส่วนเรื่องจ้าวอู่เจียงที่เกี่ยวพันกับเหตุและผลของทั้งโลก ไม่ใช่ธุระของเขา
การที่เขาใช้จีปอฉางสลับตัวเพื่อช่วยจ้าวอู่เจียง เป็นความสมัครใจแค่ส่วนสองส่วน อีกแปดเก้าส่วนเป็นการแลกเปลี่ยน
เขาไม่ติดค้างใคร และใครก็ไม่ติดค้างเขา
เขาเกิดมาก็ไม่ได้เอาอะไรมา ตายไปก็ไม่ได้เอาอะไรไป เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องนอนในโลง ทุกอย่างก็ได้จัดการไว้หมดแล้ว กลับไปที่เขาซูต้าวซานก็จะถูกฝังอยู่บนเนินเขาแห่งหนึ่งบนเขาซูต้าวซาน

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า