บทที่ 1199 บทกวีสั้น ๆ หนึ่งบท
จ้าวอู่เจียงนั่งพิงอย่างเกียจคร้านบนเบาะ สีหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นจริงจัง
แต่ในสายตาของแขกเหรื่อส่วนใหญ่ที่อยู่ฝ่ายรัชทายาท ต่างมีความคิดเดียวกัน
แสร้งทำ… ดูเขาแสร้งทำไป รอดูว่าเมื่อพู่กันและหมึกมาถึง เขาจะยังแสร้งทำต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
รัชทายาทจีปออิงยิ้มกว้างขึ้น ท่าทางจริงจังของจ้าวอู่เจียงในสายตาเขา คือการเริ่มประหม่าแล้ว
ยังไม่ทันเริ่ม น้องชายผู้เป็นที่รักของเขาก็ประหม่าแล้วหรือ?
คงจะเหงื่อท่วมตัวเป็นแน่ ไม่รู้จะรับมืออย่างไรสินะ?
หลินอวี้ที่ยืนคุ้มกันอย่างเงียบ ๆ ไม่ไกลจากด้านหลังจ้าวอู่เจียงนั้นประหม่าจริง ๆ
หลินอวี้รู้ว่าตนเองไม่มีความรู้ด้านวรรณกรรม แต่ยิ่งรู้ดีว่า องค์ชายของเขาดูเหมือนจะ…เก่งกว่าเขาไม่เท่าไร
แต่ก่อนองค์ชายมักพาเขาปลอมตัวออกไปดื่มสุราชมดอกไม้ แต่แทบทุกครั้งมักพ่ายแพ้ในขั้นตอนการเล่นเกมชงชา สุดท้ายต้องติดสินบนแม่เล้าเป็นการส่วนตัว ถึงจะผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด
เห็นเสือขนเดียวก็รู้ว่าองค์ชายไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ มีก็น้อยนิด พอมีให้เห็นบ้าง เท่านั้นเอง
วันนี้รับปากรัชทายาทว่าจะแต่งกลอน ทำได้สักบทคงเป็นขีดจำกัดขององค์ชายแล้ว
แพ้… ต้องแพ้แน่ ๆ หวังแค่ว่าจะไม่แพ้อย่างไม่เป็นท่า…
หลินอวี้คิดอย่างสับสนวุ่นวาย
ไม่นานนัก เครื่องเขียนและกระดาษถูกส่งมาถึงโต๊ะของซูเสี่ยวเหยาด้วยความเคารพโดยเสมียนน้อย
หยางปิ่งเอินรอไม่ไหวที่จะได้เห็นองค์ชายสี่ขายหน้า เขาจึงรีบช่วยซูเสี่ยวเหยาเก็บถ้วยชามบนโต๊ะออก แล้วจัดวางเครื่องเขียนให้เรียบร้อยโดยไม่ต้องรอให้เสมียนน้อยลงมือ
ซูเสี่ยวเหยาเริ่มบดหมึกด้วยมือเรียวงามของนาง
“เชิญอิ้นอ๋องเพคะ”
นางเอ่ยปากด้วยริมฝีปากแดง น้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน ไม่มีความเย็นชาอย่างที่คิดไว้
บางทีอาจเป็นเพราะท่าทางจริงจังของจ้าวอู่เจียงในตอนนี้ ที่ส่งผลให้นางรู้สึกว่า ไม่ว่าจะแต่งบทกวีออกมาได้หรือไม่ อย่างน้อยท่าทางที่มีต่อการแต่งกวีของเขาก็ดูดี ไม่ได้เบาปัญญาเหมือนก่อนหน้านี้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า