บทที่ 1342 เต่าหดคอ
เว่ยชิงหลิงเก็บยันต์ก่อนยิ้มหวาน
“คิก ๆ ขอบคุณท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ของข้าเป็นคนที่ดีที่สุด มีวิชาสูงส่ง เวทมนตร์ไร้ขอบเขต หล่อเหลากว่าจ้าวอู่เจียงอีก”
จางซวีคุนแรกทีเดียวก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มก็แข็งค้าง ดิ่งลงต่ำ และพังทลายลง
วิชาสูงส่ง เวทมนตร์ไร้ขอบเขต เขาสามารถหน้าหนายอมรับได้
แต่หล่อเหลากว่าจ้าวอู่เจียง ต่อให้หน้าหนาแค่ไหนก็ยากที่จะรับได้
เขากระแอมเบา ๆ
“ตอนท่านอาจารย์ยังหนุ่ม ความหล่อเหลาก็ไม่แพ้จ้าวอู่เจียงจริง ๆ”
“แล้วทำไม…” เว่ยชิงหลิงแสดงความสงสัยอย่างมากบนใบหน้าอันน่ารัก นางอยากถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมท่านอาจารย์ถึงไม่มีคู่ครองเล่า?
แต่นางเพิ่งจะเอ่ยปาก ท่านอาจารย์ก็โบกมือห้ามไม่ให้นางพูดต่อ
“ไปเร่งฝึกวิชาเถอะ” จางซวีคุนพูดอย่างจริงจัง ในใจคิดห้ามคำพูดนาง หากนางถามก็ตอบว่าตั้งใจฝึกวิชา ไม่สนใจเรื่องโลกีย์
“โอ้…” เว่ยชิงหลิงลากเสียงยาว ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้น
นางยกมือขึ้นเรียก ดาบไม้ท้อที่แบกอยู่ก็ลอยมาอยู่ข้างกาย ค่อย ๆ ลดระดับลงมาเสมอข้อเท้าของนาง
“บินไปเลย!” นางเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ การควบคุมดาบบินไปนั้น เป็นสิ่งที่พี่ใหญ่เซียวกั๋วสอนนางในครั้งที่ไปสำนักศรัทธาสวรรค์
แต่ก่อนนางมักใช้วิชาย่นพื้นที่ที่อาจารย์สอน
แต่วิชาย่นพื้นที่จะไปสง่างามเท่าการควบคุมดาบบินได้อย่างไร?
นางกระโดดเบา ๆ เหยียบบนดาบไม้ท้อ ร่างกายโคลงเคลงไปมา แล้วบินออกไปนอกเรือน
มองร่างของศิษย์เว่ยชิงหลิงที่หายลับไป จางซวีคุนถึงได้ถอนหายใจยาว
“ละทิ้งแก่นแท้ไล่ตามสิ่งไร้สาระ…”
เขาหลังค่อมอยู่ข้างเตาหลอมยา ดวงตาหม่นมัว
บุญบารมีที่พี่ใหญ่หลินต้าววางแผนเพื่อความรุ่งเรืองของสำนักศรัทธาษฎรจะปรากฏสู่โลก
เพียงแต่ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่หลินต้าวคำนวณได้หรือไม่ว่าภัยพิบัติกำลังมาถึง หิมะอสูรจะตกลงมาจากฟ้า?
สำนักศรัทธาษฎรจะลุกขึ้นมาในยามคับขันเช่นนี้ เป็นเรื่องดีจริงหรือ?
เหตุใดไม่รอให้ทุกอย่างสงบราบคาบเสียก่อนเล่า?
แล้วเหตุใดจางเซียวกั๋วถึงกำหนดเวลาไว้ที่วันที่สิบสามเดือนสิบสอง?



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า