บทที่ 1395 ข้าจะพานางไป!
แต่เมื่อเขาหยิบกระจกทองสัมฤทธิ์นี้ขึ้นมา นอกจากความรู้สึกราบรื่นเหมือนน้ำกับนมที่ผสมกลมกลืนแล้ว ยังมีความรู้สึกถูกพันธนาการอย่างรุนแรงที่สุด
ขณะที่แสงดาวมากมายเหนือหอชมดาวราวกับโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นได้พันรอบกระจกทองสัมฤทธิ์ เขาเพียงแค่กำกระจกไว้ก็รู้สึกเหมือนมีภูเขาหนักหมื่นชั่งกดทับร่าง และยากที่จะขยับแม้เพียงก้าวเดียว
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงกำกระจกแน่นจนมือสั่นเทา ขณะค่อย ๆ ยืดตัวขึ้น และต้องการเก็บกระจกเข้าอก
ขณะนี้ที่เสียงฝ่าอากาศดังมาแต่ไกล และร่างในอาภรณ์สีเหลืองกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว คำสาปต้องห้ามของสำนักโหราศาสตร์หลวงดูไม่มีผลต่อเขาแม้แต่น้อย
ทว่าเมื่อร่างนั้นเหินมาหยุดที่ขอบหอชมดาวในท่ามือไพล่หลัง ด้วยบารมีลึกล้ำดั่งห้วงเหว และน่าเกรงขามดั่งทะเล
“หลานรัก เจ้าต้องวางมันลง”
ท้องฟ้าสะอาดปราศจากเมฆ
บนหอชมดาว
จ้าวอู่เจียงกำลังสั่นเทาขณะค่อย ๆ ยกกระจกทองสัมฤทธิ์ขึ้น ทว่าบนกระจกราวกับมีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วนผูกมัดอยู่ ซึ่งเส้นด้ายเหล่านี้คือคำสาปต้องห้ามที่ห้ามผู้บุกรุกทุกคนพรากอาวุธศักดิ์สิทธิ์นี้ไป
เขาหันมองไปตามเสียงด้วยดวงตาลุกโชนราวกับมีพลังปีศาจลุกไหม้ในดวงตาของเขา
ร่างอ้วนของขันทีอาวุโสเวินปู๋เซิ่งก็เหินมาหยุดอยู่นอกหอชมดาว เขากำลังลอยอยู่บนอากาศพลางจ้องมองจ้าวอู่เจียง
“หลานรัก สิ่งที่เจ้าถืออยู่คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ของต้าเฉียน…” ฮ่องเต้อวิ๋นเหวินก้าวเข้ามาทีละก้าวด้วยบารมีอันท่วมท้น
ขันทีอาวุโสเวินปู๋เซิ่งได้ลองหยั่งเชิงมาแล้ว เพราะถึงแม้ว่าอิ้นอ๋องจะมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ และได้บรรลุถึงระดับเจ็ดภัยพิบัติของสามภัยพิบัติเบื้องบน
แต่พลังเจ็ดภัยพิบัติก็เท่านั้น
เพราะทั้งในและนอกเมืองหลวงมีผู้แข็งแกร่งมากมาย เช่นนั้นอิ้นอ๋องคงไม่สามารถก่อคลื่นอะไรได้อย่างแน่นอน



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า