บทที่ 292 เทพเจ้าบนท้องฟ้า
ยามค่ำคืน
แสงจันทร์สาดส่อง บางคนยังไม่หลับ
นอกเขตชายแดนแคว้นต้าเซี่ยทางตอนใต้ มีผู้คนที่ไม่หลับไม่นอนทั้งคืน
ณ แคว้นหนานเจียง หมู่บ้านของเผ่าเหมี่ยวเจียง
แคว้นหนานเจียงเป็นดินแดนร้อนชื้น สภาพอากาศคล้ายกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี แม้แต่ในช่วงฤดูหนาวอากาศก็ยังไม่หนาวเย็นสักเท่าไหร่ ภูเขาและป่าไม้โดยรอบยังคงความเขียวชอุ่ม ไร้ฤดูกาลผลัดใบ ใบไม้ไม่เคยเปลี่ยนสี และหามีต้นไม้แห้งตาย
ว่ากันตามตำนานเล่าขาน ผู้มีเชื้อสายเหมี่ยวเจียงเป็นทายาทของเทพปีศาจในอดีตกาล
คืนนี้ในหมู่บ้านมีการจุดกองไฟขนาดใหญ่
กองไฟมีเส้นรอบวงกว้างขวาง ครั้นมองดูจากระยะไกล เปลวไฟที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ต่างจากสะเก็ดดาราวูบไหวระยิบระยับ
และเบื้องหน้ากองไฟ ชาวเผ่าเหมี่ยวเจียงกำลังคุกเข่าทำพิธีกรรม
เสื้อผ้าของพวกเขาเป็นสีน้ำเงินเสียส่วนใหญ่ สองมือแผ่ราบลงไปบนพื้นดินอันชุ่มชื้น หน้าผากแนบติดอยู่กับหลังฝ่ามือ สีหน้าบ่งบอกถึงความศรัทธายิ่ง
ทว่าท่ามกลางพวกเขา มีสตรีในชุดขาวอยู่ผู้หนึ่ง นางใส่ผ้าคลุมหน้าสีขาว บนหน้าผากคาดไว้ด้วยสร้อยเงินเส้นใหญ่ที่ประดับด้วยอัญมณีอันเปล่งประกาย และบัดนี้ัเรือนร่างอันงดงามของหญิงสาวก็กำลังเต้นรำไปรอบ ๆ กองไฟด้วยเท้าเปล่า
ปลายนิ้วเท้าของนางเต้นระบำไปบนพื้นดินอย่างเป็นจังหวะ ร่างกายเคลื่อนไหวขึ้นลง รัศมีสง่างามเปล่งประกายจากเรือนร่าง ราวกับว่านางคือเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น
สตรีผู้นี้ย่อมต้องเป็นธิดาเทพแห่งชาวเผ่าเหมี่ยวเจียง มีนามว่า ซูหยานาชี และนางก็คือหนึ่งในกลุ่มผู้นำของชนเผ่านี้
นางเปล่งเสียงอันอ่อนหวานสวดมนต์ภาวนา
นี่คือช่วงสองวันศักดิ์สิทธิ์สำหรับชนเผ่าเหมี่ยวเจียง คล้ายกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นวันสำคัญที่สุดในรอบปีของพวกเขา
วันศักดิ์สิทธิ์ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งสิ่งวิเศษของชาวเผ่าเหมี่ยวเจียงเข้ารับการจำศีล รอคอยการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิครั้งถัดไป
ผ่านไปชั่วชงน้ำชาสองถ้วย ซูหยานาชีเสร็จสิ้นพิธีร่ายรำและสวดมนต์ บรรดาชาวเผ่าเหมี่ยวเจียงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นดินรีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะชูมือขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับว่ากำลังร้องขออะไรบางอย่างจากเทพเจ้า
หลังจากนั้นอาหารและเครื่องดื่มก็ถูกนำมาแจกจ่าย งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการเต้นรำและการร้องเพลงรอบกองไฟ
“ท่านธิดาเทพ” ใครคนหนึ่งร้องเรียกด้วยภาษาเหมี่ยวเจียง ซูหยานาชีหันกลับไปมอง และพบกับชายชราหน้าตาใจดีในชุดหลากสีสัน บนศีรษะคาดไว้ด้วยสร้อยลูกปัดเส้นหนึ่ง
สีสันบนชุดของชายชราตัดกับผู้คนโดยรอบอย่างชัดเจน เพราะส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่ผู้สูงอายุเผ่าเหมี่ยวเจียงสวมใส่มักจะเป็นสีม่วง หรืออาจจะมีสีน้ำเงินและสีฟ้าอ่อน ๆ ปะปนมาบ้างเล็กน้อย
ซูหยานาชียิ้มมุมปาก ผ้าคลุมหน้าสั่นไหว นางเดินมาข้างหน้าอย่างช้า ๆ แล้วเอื้อนเอ่ย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า