บทที่ 299 เฝ้าข้างเตียง
เซวียนหยวนอวี้เหิงสายตาพร่ามัว สายลมและหิมะพัดพาให้ร่างกายสั่นสะท้าน ท้องฟ้าและแผ่นดินหมุนคว้างพลิกกลับ เขานอนแผ่บนพื้นหิมะ สายตาทอดมองท้องฟ้าสีเทา
ใบหน้ายังคงมีความหล่อเหลาอย่างร้ายกาจไม่เสื่อมคลาย
“นาชี…”
เขาพึมพำเสียงเบา ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะดับสิ้นไปในที่สุด
ทันใดก็มีเสียงชุดเกราะของเหล่าทหารดังใกล้เข้ามา จ้าวอู่เจียงรู้สึกโล่งใจขึ้นทันที เขาเหนื่อยล้านัก ร่างกายใช้พลังเยอะเกินไป เหนื่อยล้ายิ่งกว่าสู้ศึกกับบรรดาสาวงามสามร้อยรอบต่อเนื่องกันเสียอีก
ทั้งสายลมและหิมะสงบลงแล้ว จ้าวอู่เจียงเห็นร่างในชุดเสื้อคลุมสีทองเร่งฝีเท้าเดินผ่านซากปรักหักพังของกำแพงเข้ามาภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์จำนวนมาก
แววตาของชายหนุ่มสั่นไหว หลังโล่งใจ ศีรษะก็ห้อยพับลง และดวงตาก็ค่อย ๆ ปิดอย่างช้า ๆ
“จ้าวอู่เจียง!”
เสียงร้องเรียกด้วยความตื่นกลัวดังขึ้น มุมปากของชายหนุ่มยกเป็นรอยยิ้ม แต่แล้วร่างกายก็ล้มฟุบกับพื้น
จ้าวอู่เจียงรู้สึกพิศวงเป็นอย่างยิ่ง
เขามั่นใจว่าตนเองสลบไปแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกต่าง ๆ อย่างชัดเจน
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีคนรีบวิ่งเข้ามาหาเขา อุ้มร่างของเขาขึ้นจากพื้น
และจ้าวอู่เจียงรู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาจัดการร่างกายของตนทันทีที่ถูกวางลงอีกครั้ง
จากนั้นก็รู้สึกได้ถึงของเหลวร้อนอุ่นที่ไหลลงสู่กระเพาะ รับรู้ว่ามีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา
ไม่นาน ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความเงียบ ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงร้องไห้
ทั้งยังรู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังจับมือของเขาอยู่ และใครคนนั้นก็พูดอะไรบางอย่างข้างหู น่าเสียดาย เขาได้ยินไม่ชัดเจน
แต่หลังจากนั้น จ้าวอู่เจียงก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มหยุ่นชุ่มฉ่ำบนริมฝีปาก ใครคนนั้นประทับริมฝีปากลงมาบนเรียวปากของเขา
แล้วในที่สุดจ้าวอู่เจียงก็เข้าสู่ห้วงแห่งความมืดมิด เสียงทั้งหมดล่องลอยห่างไกล ความรู้สึกทั้งหมดเริ่มจางหายไปเรื่อย ๆ
“เฮ้ย! ข้าแค่ได้รับบาดเจ็บ ยังไม่ได้ตายสักหน่อย!”
เขาตะโกนออกไปเสียงดัง แต่กลับไม่มีใครได้ยิน…
…
ตำหนักหย่างซินในยามนี้
ปรากฏซากกำแพงพังถล่ม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า