บทที่ 32 ของขวัญ
เมื่อเห็นตู๋กูหมิงเยว่ยกมือลูบหน้าท้องของตน บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
หากนางยังปรนนิบัติฮ่องเต้อย่างต่อเนื่อง อีกไม่นาน ตู๋กูหมิงเยว่จะต้องตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
บัดนี้ ฮ่องเต้ยังไม่มีทายาท ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่สามารถตั้งครรภ์มังกรได้เป็นคนแรก สถานะของบุคคลผู้นั้นก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งวังหลวงทันที
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงน้องหญิงชิงชิงเท่านั้นแล้วกระมัง ที่ต้องการความช่วยเหลือจากจ้าวอู่เจียง หลิวเหม่ยเอ๋อร์ยิ้มแย้มออกมาอย่างอ่อนหวาน นางเองก็ต้องการผูกมิตรกับขันทีผู้นี้เช่นกัน ในเมื่อเขามีสูตรลับสำหรับเร่งการตั้งครรภ์ จ้าวอู่เจียงก็ย่อมมีสูตรลับสำหรับเรื่องอื่น ๆ ด้วยอย่างแน่นอน
“งั้นหม่อมฉันก็ต้องขอแสดงความยินดีแก่ฮองเฮาแล้ว”
เฮอะ โกหกทั้งนั้น คนเราจะตั้งครรภ์รวดเร็วปานนั้นได้อย่างไร หลิวเหม่ยเอ๋อร์ยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่บนใบหน้า แม้ในใจกำลังเหยียดหยามตู๋กูหมิงเยว่อยู่ก็ตาม
“ท่านพี่ว่านจวินทำให้ข้านึกบางอย่างขึ้นมาได้ หากท่านไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ข้าก็คงลืมไปแล้วว่าตนเองยังติดหนี้บุญคุณขันทีจ้าวอยู่ไม่น้อย”
“เยี่ยนเอ๋อร์” หลิวเหม่ยเอ๋อร์ส่งเสียงเรียกเบา ๆ นางกำนัลผู้สวมใส่ชุดกระโปรงสีชมพูก็ก้าวออกมาจากกลุ่มหญิงรับใช้ที่รออยู่นอกศาลา โค้งตัวคำนับพร้อมกับพูดว่า
“เยี่ยนเอ๋อร์มาแล้วเพคะ พระสนมต้องการสิ่งใดเพคะ”
หลิวเหม่ยเอ๋อร์ยื่นกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อ บนกล่องไม้สลักเป็นคำว่า ‘หลิว’
กล่องนี้แตกต่างจากกล่องไม้ที่นางเคยให้จ้าวอู่เจียงก่อนหน้านี้ เพราะด้านหลังของกล่องมีการประดับด้วยทองคำบริสุทธิ์
หากกล่องไม้ที่ใส่ของขวัญก่อนหน้านี้เป็นกล่องไม้สำหรับมอบให้แก่แขกทั่วไป กล่องไม้ประดับทองคำใบนี้ก็เป็นสิ่งที่มีเอาไว้มอบให้แก่ผู้คนระดับสูงในวังหลวงเท่านั้น
“นำทองคำ เงิน และอัญมณีส่งไปให้ขันทีจ้าวด้วย”
นางส่งกล่องไม้ประดับทองคำให้เยี่ยนเอ๋อร์ ก่อนจะตบกล่องไม้นั้นเบา ๆ เป็นสัญญาณว่ากล่องไม้ใบนี้ต้องส่งมอบให้ถึงมือจ้าวอู่เจียง
“เยี่ยนเอ๋อร์รับทราบแล้วเพคะ”
เยี่ยนเอ๋อร์รับกล่องไม้ และล่าถอยออกไปด้วยความนบนอบ
หลิวเหม่ยเอ๋อร์กล่าวว่านี่เป็นการให้ของขวัญเพื่อตอบแทนบุญคุณ มิได้เป็นการให้ของขวัญเพื่อสานสัมพันธ์ไมตรี ดังนั้น นางสนมคนอื่น ๆ จึงไม่สามารถฉวยโอกาสนี้มอบของขวัญให้แก่จ้าวอู่เจียงได้ เพราะพวกนางกับขันทีจ้าวยังไม่มีบุญคุณอันใดต่อกัน
ตู๋กูหมิงเยว่ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ กล่าวออกมาพร้อมกับยกยิ้มเล็กน้อย “เอ่ยถึงเรื่องนี้แล้ว ข้าก็นึกขึ้นมาได้เช่นกัน จ้าวอู่เจียงทำการรักษาพระวรกายของฝ่าบาทจนกลับมาแข็งแรงดีอีกครั้ง ฝ่าบาททรงประทานรางวัลให้แก่เขาแล้ว แต่ข้ายังไม่ได้มอบรางวัลอันใดให้เลย ชิงเอ๋อร์ เจ้ารีบส่งทองคำไปให้จ้าวอู่เจียงสามพันเหลี่ยง เสื้อคลุมผ้าไหมอีกหนึ่งร้อยตัว และไข่มุกระดับสูงอีกสิบเม็ด”
“ชิงเอ๋อร์รับคำบัญชาเพคะ”
ชิงเอ๋อร์รีบเดินออกไปจากสวนว่านชุนอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ ตู๋กูหมิงเยว่กับหลิวเหม่ยเอ๋อร์ต่างแย่งกันส่งมอบของขวัญให้แก่จ้าวอู่เจียง แววตาของเซียวว่านจวินเกิดความร้อนรนขึ้นมาในทันใด นางไม่รู้เลยว่าตนเองสมควรมอบรางวัลให้แก่จ้าวอู่เจียงมากเพียงใด จึงจะเอาชนะสตรีทั้งสองได้
แต่แล้วดวงตาของนางก็เป็นประกายวาวโรจน์
“ตายจริง ข้าลืมไปเสียสนิทเลย พี่ชายของข้าก็อยากจะขอบคุณขันทีจ้าวเช่นกัน เขาบอกให้ข้านำตำราโบราณไปมอบให้แก่ขันทีจ้าว อวี้เอ๋อร์ รีบไปที่ห้องเก็บตำรา และส่งตำราเล่มนั้นให้แก่ขันทีจ้าวเดี๋ยวนี้”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า