บทที่ 342 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
จ้าวอู่เจียงกับชิงเอ๋อร์เดินเข้าไปในตำหนัก
ด้านในมีเตาไฟให้ความอบอุ่นสองจุดตั้งอยู่บริเวณมุมห้อง ช่วยทำให้อบอุ่นมากขึ้น
ตู๋กูหมิงเยว่สวมชุดเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่ นางดูสง่างาม ทรงเสน่ห์และหรูหรา แต่ก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนอยู่ในเวลาเดียวกัน
หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ และค่อย ๆ ใช้สากหินขนาดเล็กบดดอกท้อ
หน้าท้องของตู๋กูหมิงเยว่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อนางเห็นการปรากฏตัวของจ้าวอู่เจียงกับชิงเอ๋อร์ซึ่งเป็นสองคนที่นางเชื่อใจมากที่สุด นางก็หยุดบดส่วนผสมสำหรับการทำขนมในมือ ยกแขนเสื้อขึ้นซับเหงื่อบนหน้าผากเล็กน้อยและยิ้มว่า
“ใต้เท้าจ้าว ท่านมาได้ถูกเวลาพอดี เมื่อวานนี้ข้าทำขนมดอกท้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ว่าจะให้ชิงเอ๋อร์นำไปส่งมอบให้กับท่านอยู่”
ชิงเอ๋อร์วางตะกร้าใบเล็กลง ก่อนจะหยิบกล่องใส่อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างขึ้นมายื่นส่งให้แก่จ้าวอู่เจียง ก่อนจะตบหน้าอกของตนเองเล็กน้อยพลางเชิดหน้าขึ้น กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
“ข้าเป็นคนไปเก็บดอกท้อมาด้วยตัวเองเชียวนะเจ้าคะ”
“ขอบพระทัยฮองเฮา ขอบใจเจ้ามากนะ ชิงเอ๋อร์”
จ้าวอู่เจียงรับกล่องอาหารมาถือไว้ในมือ อุณหภูมิภายในตำหนักอบอุ่น อีกทั้งบรรยากาศก็เงียบสงบ ปลอดโปร่งใจ เขารู้สึกได้ว่าตู๋กูหมิงเยว่ค่อนข้างอารมณ์ดี และไม่มีความแปรปรวนทางอารมณ์ระหว่างตั้งครรภ์ แสดงว่าในช่วงหลังคงมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นเป็นแน่
“ฮองเฮาเสวยโอสถครบถ้วนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ช่วงหลังไม่ทราบว่ามีอาการอื่นใดแทรกซ้อนบ้างหรือไม่?” จ้าวอู่เจียงสอบถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
ตู๋กูหมิงเยว่จำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน และด้วยความที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ เรือนร่างของนางจึงมีน้ำมีนวลมากกว่าเก่าหลายเท่า
หญิงสาวทราบดีว่านี่เป็นภาวะปกติของหญิงตั้งครรภ์ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้นางก็ยังอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้อยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น มีสาวงามผู้ใดบ้างไม่ต้องการมีเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบ?
“ทุกอย่างก็ดีอยู่หรอก…” ตู๋กูหมิงเยว่ยิ้มตอบกลับมาอย่างอบอุ่นใจ
“แต่ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องใต้เท้าจ้าวอยู่สักหน่อย ท่านมีฝีมือด้านการแพทย์เป็นเลิศ ฉะนั้นช่วยตรวจร่างกายข้าสักหน่อยเถอะ ท่านอาจจะพบบางอย่างที่ข้ามองข้ามไปก็เป็นได้”
ชายหนุ่มพยักหน้า วางกล่องอาหารในมือลง ก่อนจะเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สำหรับการทำขนมออกไป เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วจึงนั่งลงข้างกายตู๋กูหมิงเยว่ เขาทำการจับข้อมือของอีกฝ่ายเพื่อตรวจชีพจรโดยละเอียด
ชีพจรเต้นเป็นจังหวะปกติเช่นเดียวกับหัวใจ
เมื่อเทียบกับการตรวจหลายครั้งก่อน ขณะนี้จ้าวอู่เจียงสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรของทารกที่อยู่ในครรภ์ตู๋กูหมิงเยว่ได้อย่างชัดเจนแล้ว
เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ หลังจากยืนยันว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ชายหนุ่มก็โน้มตัวลง แนบใบหูชิดกับหน้าท้องของตู๋กูหมิงเยว่ รับฟังเสียงการเคลื่อนไหวของทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์ให้ชัดเจน
รอยยิ้มของตู๋กูหมิงเยว่ยิ่งปรากฏความอ่อนโยนมากขึ้นและมากขึ้น จ้าวอู่เจียงเปรียบเสมือนหมอประจำตัวและเป็นคนสนิทของนาง ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า