บทที่ 350 หากข้าเป็นผู้มีอำนาจแห่งแคว้นหนานเจียง
จ้าวอู่เจียงยืนมองตามหลี่ชานซีร้องไห้วิ่งหนีไปก็ได้แต่ถอนหายใจ บัดนี้ตนเป็นหนี้ความรักสาวงามมากมายเกินไปแล้ว
แต่ความรู้สึกของคนเราแตกต่างจากสิ่งอื่น ๆ และไม่มีหนี้ใดยิ่งมียิ่งหนักใจไปมากกว่าหนี้รักแล้ว
หลี่ชานซีวิ่งผ่านประตูลานชั้นในออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลอาบหน้า นางวิ่งขึ้นไปที่เฉลียงทางเดิน มุ่งตรงไปยังห้องพัก
แต่ระหว่างทางหญิงสาวก็ชนเข้ากับสตรีผู้สวมชุดขาวที่มีความงดงามราวกับหิมะ สตรีผู้นี้คือซูฮัวอี
เมื่อเห็นเด็กสาวร้องไห้อย่างน่าสงสาร ซูฮัวอีก็อดถามด้วยความเวทนาไม่ได้
“ชานซี ผู้ใดรังแกเจ้ากัน?”
“ไม่มีเจ้าค่ะ…” หลี่ชานซีกัดฟัน สีหน้าเศร้าหมอง ทั้งยังร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ข้าสารภาพกับท่านพี่อู่เจียงไปแล้ว…”
ซูฮัวอีเข้าใจความหมายของหลี่ชานซีทันที
นับตั้งแต่วันแรกที่หลี่ชานซีถูกพาตัวมาอยู่ในสำนักไร้ขอบเขต ซูฮัวอีก็รู้แล้วว่าเด็กสาวผู้นี้มีความรู้สึกอย่างไรต่อจ้าวอู่เจียง แต่อีกฝ่ายก็เขินอายมากเกินกว่าจะพูดออกมา
หลังเห็นหยดน้ำตาของหลี่ชานซี ซูฮัวอีก็พอจะคาดเดาได้ว่าจ้าวอู่เจียงคงปฏิเสธรักของนาง
“เขาไม่ชอบอะไรที่รวดเร็วมากเกินไปนักหรอก” ซูฮัวอีสวมกอดหลี่ชานซีไว้ในอ้อมแขนพร้อมปลอบโยน
“เมื่อคนเราอดทนย่อมได้ผลตอบแทนเสมอ โดยเฉพาะสำหรับจ้าวอู่เจียง เจ้าต้องคอยเข้าหาเขา ทุกครั้งที่ข้าต้องการเขา ข้าก็จะหยอกเย้าเขาอย่างหนักหน่วงจนเขาไม่สามารถห้ามใจได้ หากเจ้าทำไม่สำเร็จในครั้งแรก เจ้าก็แค่ต้องพยายามทำต่อไปเรื่อย ๆ”
“บัดนี้อู่เจียงเห็นเจ้าเป็นเพียงน้องสาว เจ้าคงต้องใช้เวลามากสักหน่อย หากไม่ได้ผลจริง ๆ ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ รับรองว่าเขาหนีเจ้าไม่พ้นอย่างแน่นอน”
…
จ้าวอู่เจียงไม่ทราบชะตากรรมเลยสักนิด เขาไม่รู้เลยว่าสองสาวงามกำลังปรึกษาหารือว่าจะจัดการเขาอย่างไรดีอยู่ในห้องพัก
ชายหนุ่มยืนถือร่มกระดาษอยู่กลางหิมะพลางเงยหน้าจ้องมองหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ไม่นานจิตใจก็เริ่มเหม่อลอยอีกครา
เวลานี้จ้าวอู่เจียงกำลังลองคิดว่า หากตัวเขาเป็นผู้มีอำนาจในแคว้นหนานเจียง เขาจะเดินหมากต่อไปอย่างไรดี


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า