บทที่ 405 เนื้อหาที่น่าตกตะลึง (3)
ข่าวจากชายแดนเหนือเดินทางมาถึงวังหลวงและหูของเหล่าขุนนางทั้งหลายด้วยความรวดเร็ว
ตู๋กูเทียนชิงปลอดภัยดี เนื่องจากสามารถหลบหนีการลอบสังหารของศัตรูได้สำเร็จ และพื้นที่ทางชายแดนเหนือก็แข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม เมืองจูเป่ยยังคงเป็นแนวหน้าในการป้องกันแผ่นดินต้าเซี่ยจากการรุกรานของคนเถื่อนแห่งโหลวหลานต่อไป
บรรดาขุนนางที่ได้ทราบข่าวต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลายกลุ่มเริ่มเกิดความขัดแย้งและทะเลาะกันเอง แต่สุดท้ายทุกคนต่างก็หวังเหมือนกันว่าแผ่นดินต้าเซี่ยจะสามารถรอดพ้นไปจากพายุร้ายในครั้งนี้ได้
แต่หลังจากทราบข่าวดี พวกเขาก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าตกตะลึง พวกเขาตะลึงเนื้อความของข่าวสารที่ตนเองได้ทราบ ซึ่งมันยากต่อการเมินเฉย
“จ้าวอู่เจียงเตรียมรับมือเหตุร้ายล่วงหน้าอยู่แล้ว นอกจากส่งยอดฝีมือไปคอยคุ้มกันท่านแม่ทัพตู๋กูเทียนชิง เขาก็ยังส่งสมุนไพรไปป้องกันพิษโดยเฉพาะด้วย ท่านแม่ทัพตู๋กูเทียนชิงจึงสามารถรอดพ้นอันตรายได้”
กลุ่มขุนนางตะลึงจนถึงขีดสุด ในสถานการณ์ที่วุ่นวายและโกลาหลเช่นนี้ จ้าวอู่เจียงต้องเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นและมั่นคงมากเพียงใดกัน ถึงสามารถคิดหาทางป้องกันได้อย่างรอบคอบจนสมบูรณ์แบบเช่นนี้
ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้จ้าวอู่เจียงเป็นผู้คิดค้นระเบิดเพลิงอัสนี ที่ทำให้สถานการณ์สู้รบทางเขตชายแดนใต้เปลี่ยนแปลงไป และในขณะนี้ชายหนุ่มก็ยังเตรียมแผนการสำรอง เพื่อรักษาความแข็งแกร่งให้แก่ชายแดนเหนืออีก
ด้วยเหตุนี้เองสินะ จ้าวอู่เจียงถึงกลายมาเป็นขุนนางคนสนิทของฮ่องเต้ เขาเป็นคนอายุน้อยและมีพรสวรรค์ล้นฟ้า คงเป็นเรื่องยากที่ฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรด…
กลุ่มขุนนางพากันถอนหายใจออกมา บางคนรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองที่มีโอกาสยืนเข้าแถวร่วมกับจ้าวอู่เจียงภายในท้องพระโรง
แต่ก็ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความปวดใจ เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่กล่าวโทษและโยนความผิดใส่ชายหนุ่มต่อหน้าฮ่องเต้
เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องการใช้ความตายของตู๋กูเทียนชิงทำลายอนาคตของจ้าวอู่เจียง ต่อให้ไม่สามารถโค่นล้มอีกฝ่ายได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาเกิดความหมางใจกับขุนนางใหญ่อีกหลายท่าน พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะตั้งตนเป็นศัตรูกับจ้าวอู่เจียง
แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวอู่เจียงจะแอบวางแผนช่วยเหลือตู๋กูเทียนชิงไว้ล่วงหน้าอย่างเงียบงันเช่นนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวตลกในท้องพระโรง เกรงว่าในอนาคตต่อจากนี้ พวกเขาคงจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของสหายขุนนางไปชั่วชีวิตแล้ว
ในหัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเสียใจ
ไม่ใช่เศร้าเสียใจที่กล่าวโทษจ้าวอู่เจียง แต่พวกเขาเสียใจที่ตัดสินใจล่วงเกินอีกฝ่ายและต้องถูกตบหน้ากลับมาอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์อันใดแก่พวกเขาเลยสักนิด นอกจากทำให้คิดอิจฉาริษยาในวาสนาของกลุ่มขุนนางที่ติดตามชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะหลังจากจ้าวอู่เจียงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเป็นขุนนางยศมี่ซูเส้า ทว่ามีอำนาจเทียบเท่าขุนนางยศมี่ซูเจี้ยน
พวกเขากลัวว่าขอเพียงจ้าวอู่เจียงเพิ่มหรือลบข้อความในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่กี่บรรทัด ภาพลักษณ์ของพวกเขาก็คงจะต้องเสียหายไปนานหลายพันปี


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า