บทที่ 524 ออกค้นหาความจริง
ท้องฟ้ามืดมิด มหาสมุทรก้อนเมฆกลายเป็นวังน้ำวน ภายในวังน้ำวน สายฟ้าแลบแปลบปลาบ และสายฟ้าก็พุ่งลงเข้าสู่ร่างจ้าวอู่เจียงผู้ลอยตัวอยู่กลางอากาศพร้อมด้วยมวลปราณกระบี่ที่ห้อมล้อมอย่างหนาแน่น เกิดเป็นภาพน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง
ช่วงขณะนั้นเอง ก้อนเมฆรูปร่างคล้ายมือขนาดยักษ์ก็ราวกับพยายามจะเอื้อมลงมาคว้าตัวจ้าวอู่เจียง และในเวลาเดียวกัน ก็เหมือนกับจ้าวอู่เจียงกำลังเงยหน้าระเบิดเสียงคำรามใส่ท้องฟ้า พยายามดูดกลืนก้อนเมฆเหล่านั้นให้หมดสิ้น
พลังปราณกระบี่ในตัวของจ้าวอู่เจียงยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายของเขาห่อหุ้มด้วยชั้นปราณกระบี่ กลุ่มยอดฝีมือจากสุสานกระบี่ซวนเซเล็กน้อย ต่างก็พยายามต้านทานความปั่นป่วนของมวลอากาศรอบกายให้ได้มากที่สุด
พวกเขาพากันจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยความตกตะลึง ด้วยสิ่งที่พวกเขากำลังเห็นในขณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นพลังทำลายล้างระดับเดียวกับท่านประมุข
มวลพลังที่หลั่งไหลออกมาจากวังน้ำวนบนท้องฟ้าคล้ายกับจะสามารถฉีกกระชากอากาศให้ขาดได้ หากเป็นคนธรรมดาลอยอยู่ตรงนั้น เลือดเนื้อและโครงกระดูกคงแหลกสลายไปนานแล้ว
ทว่าจ้าวอู่เจียงกลับทนได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้ง ๆ ที่จ้าวอู่เจียงไม่ได้กำลังรับปราณกระบี่จากคนเพียงคนเดียว แต่ชายหนุ่มกำลังหลอมรวมพลังจากผู้คนหลายร้อยคน
เมื่อจ้าวอู่เจียงหลอมรวมปราณกระบี่จากพวกเขา เช่นเดียวกับปราณกระบี่ของเป่ยจิ้งเฉิงและมือพระกาฬคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้แล้ว จุดมุ่งหมายเดียวที่พวกเขาอยากทำให้สำเร็จก็คือ…ผลักดันให้จ้าวอู่เจียงก้าวขึ้นสู่ขอบเขตเทวะขั้นสูงสุดให้ได้
นี่คือผลลัพธ์ที่ประมุขแห่งสุสานกระบี่วางแผนร่วมกับหมอดูเทวดาและคนอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
จ้าวอู่เจียงพอจะคาดเดาเรื่องนี้ได้ แต่เขาไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจุดประสงค์ของหมอดูเทวดากับประมุขแห่งสุสานกระบี่คืออะไรกันแน่?
บางทีหมอดูเทวดากับประมุขแห่งสุสานกระบี่คงต้องการจะฝึกฝนยอดฝีมือขึ้นมาสักคน เพื่อให้ร่วมต่อสู้กับเทพเจ้าหนี่ผูซาพร้อมกับพวกเขา
หรืออาจจะต้องการบางอย่างจากเขา จ้าวอู่เจียง?
แต่อย่างไรก็ไม่สำคัญอีกแล้ว หลังจากได้ครอบครองพลังครั้งนี้ จ้าวอู่เจียงจะมีความแข็งแกร่งในระดับที่พร้อมต่อกรกับหมอดูเทวดาหรือประมุขแห่งสุสานกระบี่ ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ชายหนุ่มพร้อมก็จะเผชิญหน้ากับมัน
สายลม สายฟ้า ก้อนเมฆและม่านหมอก ทุกสิ่งยังคงเคลื่อนไหวปั่นป่วนรุนแรง ปราณกระบี่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของจ้าวอู่เจียง ฝังตัวลงไปในจุดลมปราณและโครงกระดูก เสริมให้พลังของเขาเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง
จ้าวอู่เจียงเดินตรงเข้าไปหาเจี้ยนจิ่วผู้มาจากสุสานกระบี่ทีละก้าว เขาเดินจากกลางอากาศลงสู่พื้นดิน
“รบกวนพวกท่านช่วยปกป้องเมืองโดยรอบด้วย” ดวงตาของชายหนุ่มเยือกเย็นราวกับสายน้ำ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“รับทราบแล้วขอรับ!” กลุ่มยอดฝีมือโค้งตัวคำนับรับคำสั่ง



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า