บทที่ 72 คุณหมอใจดี
ใบหน้าที่งดงามของฮั่วหรูอี้กลายเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาด้วยความเขินอาย จ้าวอู่เจียงสูดดมกลิ่นกายนางในระยะประชิด ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ
ฉีหลินถามด้วยความสงสัย “น้องจ้าว เจ้าจะได้อะไรจากการดมกลิ่นเช่นนี้?”
“ร่างกายของมนุษย์จะมีกลิ่นพิเศษเฉพาะตัวในการบ่งบอกร่องรอยของอาการป่วยไข้ขอรับ” จ้าวอู่เจียงที่กำลังจะก้มลงไปใช้จมูกดมแถวหน้าอกของนาง ก็ต้องรีบเงยหน้ากลับขึ้นมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“หากตรงส่วนใดของร่างกายเกิดความเสียหาย ก็จะมีกลิ่นเฉพาะตัวลอยออกมา นี่เรียกว่าเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายขอรับ”
ฉีหลินเข้าใจขึ้นมาทันที
จ้าวอู่เจียงหันกลับมาสูดดมกลิ่นตามลำตัวของเจ้าสำนัก ก่อนจะรีบหันหน้าหนีไปในพริบตา
“พี่ฉี หัดอาบน้ำบ่อย ๆ หน่อยนะขอรับ”
อีกฝ่ายไอออกมาแห้ง ๆ พลางกล่าวแก้ตัว
“นี่คือกลิ่นของความเป็นบุรุษต่างหาก…”
ฮั่วหรูอี้ยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก ทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นมาทันที
“ปกติแล้วท่านร่วมรักกันบ่อยแค่ไหน?” จ้าวอู่เจียงถูนิ้วมือพลางถาม
ฉีหลินยกมือถูคางตนเอง
“ประมาณสามหรือสี่วันครั้ง…”
“บางครั้งก็ห้าหรือหกครั้งต่อเดือน…” ฮั่วหรูอี้เหยียดยิ้มอย่างขมขื่น พูดด้วยเสียงเศร้าสร้อย
ในขณะนี้ ฮั่วหรูอี้มีอายุสามสิบต้น ๆ สตรีในวัยนี้ไม่ต่างจากพยัคฆ์ร้าย การร่วมรักห้าหรือหกครั้งต่อเดือน นับว่าน้อยเกินไปจริง ๆ… จ้าวอู่เจียงใช้ความคิดก่อนพูดออกมาว่า
“พี่ฉี ท่านปล่อยให้พี่สะใภ้โดดเดี่ยวเกินไป”
ฮั่วหรูอี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย และจ้องมองขันทีหนุ่มด้วยความสนิทสนมมากขึ้นเล็กน้อย
“แต่ว่าข้ามีงานต้องทำนี่นา?” ฉีหลินโต้แย้งกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าสำนัก ยังจะต้องทำงานอะไรนักหนา? จ้าวอู่เจียงได้แต่คิดอยู่ในใจ ก่อนจะยิ้มและกล่าวต่อ
“ยิ่งท่านร่วมรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่พี่สะใภ้จะมีทายาทมากขึ้นเท่านั้น”
“เข้าใจแล้ว… เข้าใจแล้ว….” ฉีหลินดูลำบากใจ
จ้าวอู่เจียงถามขึ้นมาอีกครั้งว่า
“แต่ละครั้งใช้เวลาเท่าใด?”
เจ้าสำนักเกล็ดมังกรลังเล “บางครั้งก็ประมาณหนึ่งถ้วยชา… บางครั้งก็ครึ่งถ้วยชา…”
“…”
นี่ท่านเป็นมือกระบี่อันดับที่ 11 ในยุทธจักรจริงหรือเปล่า? ทำไมอ่อนด้อยถึงเพียงนี้ เฮอะ…
จริงสิ… เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ฉีหลินมีสถานะเป็นมือสังหาร ต้องทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วฉับไวอยู่เสมอ! ชายหนุ่มไอออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า
“เข้าใจแล้วขอรับ พี่ฉี การวินิจฉัยของท่านเสร็จสิ้นแล้ว…”
หลังจากนั้น เขาก็เดินกลับไปหาฮั่วหรูอี้ และกล่าวว่า
“พี่สะใภ้ อย่างที่ข้าน้อยเคยพูดก่อนหน้านี้ ถ้าไม่มีแสงตะวัน โลกนี้ก็จะไม่มีเงา หยินและหยางคือของคู่กัน พี่ฉีอาจจะมีปัญหาก็จริง แต่ข้าน้อยอยากจะตรวจพี่สะใภ้ให้ละเอียดอีกสักนิด”
“น้องจ้าวเป็นหมอ พี่สะใภ้จะเชื่อฟังเจ้า” ฮั่วหรูอี้เข้าใจความหมายของขันทีน้อยอย่างรวดเร็ว
ฉีหลินพยักหน้าช้า ๆ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า