บทที่ 729 หลู่จง
หลู่จงกำลังจูงหนวดของปลามังกร เดินกระโดดโลดเต้นออกจากศาลาริมน้ำ
ปลามังกรที่ถูกจับหนวดไว้ ดวงตาไร้ชีวิตชีวา ดูเหมือนมันหมดหวังในชีวิตเรียบร้อยแล้ว
มันเคยได้ยินเต่าและกุ้งปูในน้ำพูดหลายครั้งว่าทุกที่ที่หลู่จงไปทำให้ผู้บำเพ็ญชายทั้งหลายหวาดกลัว
การผูกมิตร? การพูดคุย? การเกี้ยวพาราสี? ไม่มีเลย!
เมื่อหลู่จงออกจากตระกูลหลู่ สุนัขที่เดินผ่านต้องโดนชกสองครั้งก่อนถึงจะไปได้
มีผู้บำเพ็ญชายที่หลงใหลในความงามและพื้นเพของหลู่จงมากมาย แต่ก็ถูกหลู่จงต่อยจนหน้าตาบวมช้ำไปหมด
ตอนนี้หลู่จงจะเดินทางไปยังอาณาจักรเทพวารี เพื่อสำรวจดินแดนลับ ปลาตัวนี้เริ่มกังวลใจแทนผู้บำเพ็ญระดับสูงที่อยู่ในนั้นแล้ว
นี่ไม่ใช่การสำรวจดินแดน แต่เหมือนหมาป่าเข้าไปในฝูงแกะ ไปปล้นไปขโมยไปทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของผู้อื่นมากกว่า
สิ่งที่นายท่านบอกว่าตัวมันเป็นเสมือนเครื่องรางป้องกันตัว ไม่ได้หมายถึงการปกป้องหลู่จง แต่หมายถึงการหยุดหลู่จงไม่ให้ทำร้ายคนอื่น
แต่ผู้ใดจะกล้าหยุดนาง?
ในบ่อมีเต่าที่มีอายุกว่าสามพันปี เคยถูกส่งไปเป็นเครื่องป้องกันตัวของหลู่จง แต่เมื่อเต่าพยายามหยุดนางไม่ให้ทำร้ายผู้บำเพ็ญชื่อดังจากสำนักอื่น เต่าตัวนั้นก็ถูกต่อยจนกระดองแตก กระดูกหลังหัก สลบไปโดยไม่ได้ร้องออกมาสักคำเดียว
ปลามังกรตัวเล็กนี้ ถ้ากล้าพูดอะไร มันคงถูกโยนลงไปในหม้อต้มทำเป็นซุปปลาตั้งแต่เที่ยงแล้ว
ในระหว่างที่เดินทาง มันทำได้เพียงแกล้งทำเป็นหูหนวกและโง่เง่า และอธิษฐานให้คนอื่นๆ รอดพ้นจากหมัดของหลู่จง
หลู่จงยังมีพลังไม่ถึงขอบเขตจักรพรรดิ แต่นางจุดไฟวิญญาณได้เกือบเต็มที่ พลังของนางจึงเทียบเท่ากับขอบเขตจักรพรรดิ
นอกจากนี้ หลู่จงยังสามารถใช้พู่กันแห่งความตายของนายท่านได้อย่างคล่องแคล่ว
การตวัดพู่กันครั้งหนึ่ง จะทำให้ไม่เพียงแต่ผู้บำเพ็ญระดับสูงได้รับอันตรายเท่านั้น แต่แม้แต่คนที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิก็อาจตายได้โดยไม่มีโอกาสร้องออกมาแม้แต่คำเดียว
นอกจากนี้หลู่จงยังฝึกฝนทักษะที่หายากในระดับสูงสุดของการบำเพ็ญตน ซึ่งผู้บำเพ็ญระดับสูงไม่กล้าแม้แต่จะท้าทาย
“คุณหนู…”
“สวัสดีเจ้าค่ะ คุณหนู”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า