บทที่ 74 ตู๋กูหมิงเยว่ตั้งครรภ์!
จ้าวอู่เจียงนั่งอยู่เคียงข้างฮ่องเต้หญิง ซึ่งตอนนี้สีหน้าพระองค์เต็มไปด้วยความอับอายและโกรธแค้น
“เหตุอันใดฝ่าบาทจึงต้องทรงกริ้วกระหม่อมถึงเพียงนี้? กระหม่อมเพียงแค่จับพระหัตถ์เองนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเป็นถึงเจ้าชีวิตของเหล่าผู้คน ไยจึงได้มีจิตใจคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้กัน” ชายหนุ่มพูดเสียงขรึม
“คิดทำการใหญ่ใจต้องนิ่งนะพ่ะย่ะค่ะ… ฝ่าบาทจะมาสนใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร?” ขันทีหนุ่มกล่าวต่อ วาจาราวกับกำลังหยอกล้อทีเล่นทีจริง
เซวียนหยวนจิ้งไม่อยากจะพูดคุยกับขันทีลามกอีกแล้ว นางหันมามองเขาตาขวาง
จ้าวอู่เจียงไม่ยอมหยุดหยอกฮ่องเต้หญิงง่าย ๆ เขายื่นมือออกมาข้างหน้า พลางกล่าววาจาทะเล้น
“กระหม่อมให้ฝ่าบาทจับคืนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หญิงสาวถลึงตาใส่เขา แล้วเบือนหน้าหนีทันที …จ้างอู่เจียงเจ้าคนไร้ยางอาย!
“หากฝ่าบาทคิดว่าการจับมือนั้นขาดทุนเกินไป กระหม่อมก็พร้อมให้ฝ่าบาทจับได้ทุกส่วนเลยพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวอู่เจียงยังคงไม่เลิกรา เขาเอื้อมมือออกไปหมายจะตบไหล่ฮ่องเต้หญิงอีกครั้ง
ไม่ต้องมาแตะตัวข้า!… ฮ่องเต้หญิงรีบปัดมือของเขาทิ้งไปทันที ชายหนุ่มเองไม่ได้รู้สึกเสียหน้าแต่อย่างใด กลับดูภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้นเสียอีก ราวกับยิ่งเซวียนหยวนจิ้งปฏิเสธ นางจะยิ่งขาดทุนมากกว่าเดิม
…
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็นั่งอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ในขณะที่รอคอยการมาถึงของตู๋กูหมิงเยว่
แต่ผ่านไปได้พักใหญ่ ก็ยังคงไร้วี่แววการมาเยือนของฮองเฮา ทำเอาทั้งสองคนเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นในใจ
“กราบทูลฝ่าบาท ชิงเอ๋อร์จากตำหนักฉีเฟิงต้องการขอเข้าเฝ้าเพคะ” เสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลใจของชิงเอ๋อร์ดังขึ้นหน้าประตูหลังจากเวลาผ่านไปราวหนึ่งถ้วยชา
นางกำนัลส่วนตัวของตู๋กูหมิงเยว่… ฮ่องเต้หญิงได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดเมื่อผู้มาเยือนหาใช่ตัวฮองเฮา แต่เป็นนางกำนัลของนางแทน
“เข้ามาได้”
ชิงเอ๋อร์เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเศร้าหมอง พลันนางนั่งคุกเข่าลงกับพื้น “กราบทูลฝ่าบาท ฮองเฮาทรงประชวรเพคะ พระองค์มีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าคงไม่สามารถมาเข้ารับใช้ฝ่าบาทในคืนนี้ได้เพคะ”
“ไม่เป็นไร สุขภาพต้องมาก่อนเสมอ” ฮ่องเต้หญิงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ว่าแต่มีหมอหลวงไปตรวจฮองเฮาบ้างแล้วหรือไม่?” พระองค์เอ่ยถามต่ออย่างห่วงใย
“กราบทูลฝ่าบาท หัวหน้าขันทีจ้าวมีทักษะทางการแพทย์สูงส่ง ชิงเอ๋อร์ได้รับคำสั่งจากฮองเฮาให้มาตามตัวท่านกงกงไปวินิจฉัยอาการเพคะ” ชิงเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพและร้อนรน
เซวียนหยวนจิ้งขมวดคิ้ว และออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“จ้าวอู่เจียง เจ้าไปตรวจอาการของฮองเฮาเสีย”
หากไม่สบายจริง ๆ คงไม่มาเรียกตัวไปเช่นนี้ สงสัยคงต้องมีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่เป็นแน่แท้… จ้าวอู่เจียงคาดเดาในใจ พลางโค้งตัวลงและประสานมือคำนับ
“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท ชิงเอ๋อร์ต้องขอตัวก่อนเพคะ” ชิงเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะเดินถอยออกไปจากตำหนักหย่างซินพร้อมกับจ้าวอู่เจียงทันที
…
ตลอดเส้นทาง ทั้งสองย่างก้าวด้วยความเร่งรีบ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า