บทที่ 813 หนี่ผูซา เจ้าต้องการหมวกหรือไม่?
ในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ จูกัดเซี่ยวไป๋ลากร่างของหวังจวิ้นหลางที่เต็มไปด้วยเลือดไปตามพื้นทราย
เขาพึมพำว่า
“หวังจวิ้นหลาง ข้าหาคนที่จะมาเป็นพี่เขยของเจ้าได้แล้ว”
หวังจวิ้นหลางเพียงแค่ส่งเสียงฮึดฮัดออกมา เขาย่อมไม่หลงกลกับคำเย้ยหยันง่ายๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน
จูกัดเซี่ยวไป๋ไม่ได้โกรธ เขากล่าวอย่างเย็นชาต่อไปว่า
“เจ้าคิดว่า ถ้าหนี่ผูซารู้ว่าเจ้าสาวของเขามีความสัมพันธ์กับชายอื่น และชายคนนั้นยังเป็นศัตรูของเขา เขาจะทำอย่างไร? เขาจะโมโหจนตัวสั่นและรีบมาถึงที่นี่ จากนั้นทุกคนก็จะลือกันไปทั่ว เขาจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของคนทั่วไปในวงน้ำชาและวงอาหารเย็น”
“หรือว่าเขาจะเลือกทนกล้ำกลืนความขมขื่นแล้วทำตัวเป็นผู้ดีต่อไป? แต่ข้าว่า หนี่ผูซาเป็นคนใจบุญสุนทาน มีจิตใจเมตตาปรานีผู้อื่นเสมอ และที่แน่นอนก็คือเขาคงจะให้อภัยพี่สาวของเจ้า ใช่ไหม หวังจวิ้นหลาง?”
หวังจวิ้นหลางดวงตาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องมองจูกัดเซี่ยวไป๋และกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“จูกัดเซี่ยวไป๋ หากเจ้าพูดมากกว่านี้ ระวังว่าคำพูดของเจ้าจะนำภัยมาถึงตัว”
หวังจวิ้นหลางไม่กลัวคำเย้ยหยันของจูกัดเซี่ยวไป๋ แต่กลัวว่ามันจะเป็นความจริง
“อ้อ…” จูกัดเซี่ยวไป๋อ้าปากกว้าง หัวเราะเยาะหวังจวิ้นหลางแล้วเป่าลมออกมาเบาๆ
“ภัย… โฮะโฮะโฮะ…”
เขาหมุนม้วนภาพวาดในมือที่เปล่งแสงชมพูอ่อนๆ พลางพึมพำอย่างเฉื่อยชา
“หวังจวิ้นหลาง เจ้าต้องการพี่เขยหรือไม่? หนี่ผูซา เจ้าต้องการหมวกหรือไม่?”
————
“ข้าไม่ต้องการ!”
ในม้วนภาพวิเศษ สภาพฟ้าดินมืดมัวไปหมด ทุกอย่างโดยรอบกลายเป็นสีขาวโพลน
หวังชีร้องตะโกนด้วยความโกรธและหวาดกลัว
พวกเขาถูกผู้พิทักษ์สมบัติของหอสมบัติหมื่นวัตถุที่มีพลังจุดไฟวิญญาณมากกว่ายี่สิบคนร่วมมือกันผนึกไว้ในภาพม้วนนี้ โดยเฉพาะเมื่อภาพวาดถูกปิดผนึก การทำลายผนึกนั้นยากยิ่งต่อการทำได้สำเร็จ
และสิ่งที่ทำให้หวังชียิ่งหวาดกลัวมากขึ้นคือ ขวดของแถมที่ผู้พิทักษ์สมบัติทิ้งไว้ก่อนจากไปนั้นระเบิดออกเป็นกลุ่มควันสีชมพู เมื่อควันกระจายออกมา นางเพียงแค่สูดเข้าไปนิดเดียวก็รู้สึกว่าลมหายใจเริ่มร้อนแรง ใจเต้นระรัว และมีความคิดที่ไม่เหมาะสมเริ่มปรากฏขึ้นในใจโดยไม่รู้ตัว
ของแถมเหล่านี้ล้วนเป็นยาปลุกกำหนัด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า