บทที่ 920 ถามทาง
เสียงสตรีอ่อนหวานในห้วงความคิดของจ้าวอู่เจียงไม่ได้ตอบคำถามของเขาโดยตรง เพียงแต่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความถอนใจเบา ๆ ว่า
“เจ้าเคยเห็นแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่เคยใส่ใจ”
จ้าวอู่เจียงยังคงต้องการถาม แต่สิ่งที่เขาได้รับมีเพียงคำตอบเดียว
“ข้ารอเจ้าอยู่ที่ในกลางเต๋อเหลียน บางทีถ้าเจ้าเห็นข้า เจ้าอาจจะนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่าง และจะรู้คำตอบ”
แล้วเสียงหญิงก็หายไป สมองของจ้าวอู่เจียงมีเสียงหึ่ง ๆ เบา ๆ สติและความคิดในสมองกลับมาชัดเจนอีกครั้งเขา มีหลายสิ่งที่อยากถาม แต่เสียงหญิงสาวมักปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิดและไปอย่างไม่บอกกล่าว
แต่บัดนี้นางบอกเขาว่า นางรออยู่ใจกลางเต๋อเหลียน
เขาสับสนอย่างยิ่ง เหตุใดนางไม่บอกทุกอย่างให้กระจ่างในคราวเดียว ทำไมต้องทำตัวลึกลับเช่นนี้?
หรือว่ามีข้อห้ามบางอย่างจึงไม่สามารถพูดตรง ๆ ได้?
ดวงตาของจ้าวอู่เจียงเริ่มแน่วแน่ขึ้น ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องเดินตามจังหวะของตัวเอง หากเป็นไปตามจังหวะที่ผู้อื่นกำหนดให้ ในที่สุดก็จะติดกับดักเท่านั้น
……
ฟ้าใกล้มืด
จ้าวอู่เจียงกลับมาถึงชั้นที่สิบหกของดินแดนลับเต๋อเหลียน
บริเวณที่พำนักของเผ่าจิ้งจอกชิงชิว เขาได้พบกับจิ่งเอ๋อร์กับหลินหลางที่กำลังเป็นห่วงเขา และเป็นห่วงเขามาตลอด หลี่ฉวนจวินกำลังฝึกกระบี่ และไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเขามากนัก
ตามคำของหลี่ฉวนจวิน เขา จ้าวอู่เจียง ไม่มีอะไรที่ต้องให้ผู้อื่นกังวล โดยเฉพาะหลังจากที่มีชีวิตมาถึงโลกใบนี้แล้ว ทุกสิ่งยิ่งไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
การที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ ก็เป็นการท้าทายโชคชะตาอยู่แล้ว
สิ่งที่ควรกังวลได้ถูกฝังไปพร้อมกับโลกเก่าแล้ว
ความไม่ยึดติดของหลี่ฉวนจวินทำให้จ้าวอู่เจียงละอายใจอยู่บ้าง เขาเพิ่งตระหนักได้อย่างฉับพลันว่า หลี่ฉวนจวินไม่เคยเป็นสหายเก่าที่มีอายุใกล้เคียงกับเขา แต่เป็นชายชราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วกว่าร้อยปี
แม้บางครั้งจะดูเซ่อซ่าไปบ้าง ทว่าแต่ละปีที่ผ่านพ้น ทิวทัศน์ที่ได้เห็น และความเป็นไปของโลกมนุษย์ที่ได้ประสบมาล้วนเหนือกว่าเขามากนัก
ภายในกระท่อมที่จ้าวอู่เจียงพักผ่อน
หลี่ฉวนจวินใช้ผ้าเช็ดกระบี่ล้ำค่า พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแฝงรอยยิ้ม
“เจ้าน่ะ ตั้งแต่แรกเริ่มก็จมอยู่ในม่านหมอกเลยอยากหลุดพ้น อยากเห็นสิ่งที่เรียกว่าความจริง แต่เจ้าเดินผิดทางมาตลอด”
จ้าวอู่เจียงรินชาร้อนให้หลี่ฉวนจวิน
“หมายความว่าอย่างไร?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า