บทที่ 959 ปกป้องจ้าวอู่หยางของพวกเรา
เมื่อเห็นหลู่เสี่ยวจินตั้งใจแน่วแน่ที่จะปกป้องจ้าวอู่หยาง หลี่ชางเซิงขมวดคิ้วแน่น
เสียงอุทานของผู้คนที่มุงดูดังขึ้น
หลู่เสี่ยวจินผู้เย็นชากลับยอมทำถึงขนาดนี้เพื่อผู้บำเพ็ญไร้ภูมิหลังอย่างจ้าวอู่หยาง ถึงกับไม่เกรงกลัวที่จะต่อกรกับหลี่ชางเซิง ยอดฝีมือขั้นจักรพรรดิระดับสี่
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสงสัยและงุนงง ขณะเดียวกันก็เกิดความอิจฉาขึ้นในใจ
โดยเฉพาะบรรดาผู้บำเพ็ญจากสำนักเติมฟ้าที่อยู่ในกลุ่มผู้ชม เดิมก็พวกเขาก็มีความแค้นต่อจ้าวอู่เจียงอยู่แล้ว เกลียดชังจ้าวอู่เจียงที่สังหารเพื่อนร่วมสำนักและสหายไปไม่น้อย
บัดนี้เมื่อเห็นหลู่เสี่ยวจิ่นและหลู่เฟิงปกป้องจ้าวอู่หยางอยู่เบื้องหน้า ยิ่งทำให้พวกเขาเพิ่มเคียดแค้นมากขึ้นอีกหลายส่วน
จ้าวอู่หยางมีคุณธรรมความสามารถอันใด ทำไมหลู่เสี่ยวจิ่นถึงต้องปกป้องเขาด้วย?
“เช่นนั้นก็แล้วไป” หลี่ชางเซิงกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น อาภรณ์ยาวสีเทาเข้มภายใต้ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับถูกเงามืดปกคลุม พลังมืดวนเวียนรอบกาย
“อย่าได้โทษข้าว่าลงมือไร้ปรานี!” เขาโบกมือ ธงยาวผืนหนึ่งปรากฏในมือ ธงสีเทาอ่อนวาดลวดลายสีแดงเลือดน่าพิศวง
หลู่เฟิงเบิกตากว้าง สีหน้าเคร่งเครียด “ธงดูดวิญญาณ!”
ธงดูดวิญญาณของตระกูลหลี่ถูกสร้างขึ้นจากการทำพิธีบูชายัญวิญญาณผู้ที่ยังมีชีวิต
ธงแต่ละผืนล้วนเป็นอาวุธระดับปฐพีเป็นอย่างน้อย
ธงในมือของหลี่ชางเซิงที่อยู่ตรงหน้าเต็มไปด้วยพลังอาฆาตและกลิ่นคาวเลือดที่พลุ่งพล่าน มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นอาวุธระดับสวรรค์ แม้ไม่ใช่สิ่งหายากสำหรับผู้คนจากตระกูลและสำนักใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พบได้ง่าย
สำหรับหลี่ชางเซิง จักรพรรดิระดับสี่ การใช้อาวุธระดับสวรรค์แตกต่างจากผู้บำเพ็ญเพียรระดับเทวะ
ผู้บำเพ็ญเพียรระดับเทวะจะสามารถดึงพลังของอาวุธระดับสวรรค์ออกมาใช้ได้เพียงหนึ่งส่วนจากสิบส่วน มากที่สุดก็สองส่วน ขณะที่ขั้นจักรพรรดิสามารถใช้พลังได้ขั้นต่ำสามส่วน หากเก่งกล้าก็อาจใช้ได้ถึงก้าวส่วน
การที่หลี่ชางเซิงเรียกธงดูดวิญญาณออกมา แสดงให้เห็นว่า เขาไม่คิดจะยั้งมืออีกแล้ว
ขณะนั้นเอง เสียงฝ่าอากาศดังขึ้นจากทุกทิศทางท่ามกลางม่านฝนที่โปรยปราย ฝูงชนมากมายก็ปรากฏตัว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า