บทที่ 966 ความโกรธแค้นจากความเจ็บปวดแสนสาหัส
“เก็บแขนขึ้นมาซะสิ”
จ้าวอู่เจียงใบหน้าซีดขาว น้ำเสียงราบเรียบดุจสายน้ำ ร่างเปียกน้ำฝน
ห่างออกไปสามจั้ง นิ้วทั้งสี่และแขนขวาทั้งท่อนของหลี่ชางเซิงแช่อยู่โคลน โคลนผสมเลือดไหลเจิ่งไร้ทิศทาง
เสียงของเขาเย็นชา แต่กลับแฝงไว้ด้วยความปรารถนาดี ราวกับกำลังบอกว่า… เก็บขึ้นมาสิ บางทีอาจต่อกลับได้
บทเพลงกระบี่ชิงเหลียน ปราณกระบี่เป็นดั่งบทเพลงช้า เรียบเรื่อยไพเราะ ทว่าจู่ ๆ ก็รวดเร็ว ชำระโลก
โผล่ขึ้นมาจากโคลนตมทว่าไม่แปดเปื้อน ชำระสิ่งโสมมด้วยละอองน้ำ
ปราณกระบี่ชิงเหลียน ร่างกายธรรมดาไม่มีทางต้านทานได้ ทำได้เพียงหลบหลีก
มีเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นสายฝนจากฟ้าที่กลมกลืนไปกับปราณกระบี่ชิงเหลียนอันบริสุทธิ์นี้ได้
ปราณกระบี่จึงสะบั้นเพียงเนื้อและเลือดของหลี่ชางเซิงร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อจะต้านทานได้อย่างไร
จ้าวอู่เจียงมั่นใจว่าหลี่ชางเซิงหยิ่งผยองและคิดว่าตนเองมีชัยชนะอยู่ในมือ จึงไม่หลบหลีกหรือหลีกเลี่ยงปราณกระบี่นี้แต่อย่างใด
หลี่ชางเซิงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บจากแขนที่ถูกตัดขาด แล้วยิ่งถูกตัดด้วยปราณกระบี่ชิงเหลียน บริเวณแผลนั้นราวกับมีบางสิ่งกำลังดูดซับเลือดเนื้อที่เหลือของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ความเจ็บปวดและความอ่อนแอติดตามดั่งเงาตามตัว
นี่คือบัวที่กำลังหยั่งรากลึก
ทั่วทั้งฟ้าดินมีเพียงเสียงฝนตกปกคลุม ไร้เสียงอื่นใด
ผู้คนที่มุงดูอยู่ต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก แทบจะชาไปทั้งตัว
พวกเขาไม่คาดคิด ปราณกระบี่ ที่ดูธรรมดากลับสามารถตัดแขนของหลี่ชางเซิงขาดได้โดยตรง!
หลี่ชางเซิงในตอนนี้มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับหก แต่กลับถูกจ้าวอู่หยางฟันแขนขาดไปหนึ่งข้าง?
ช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน! โลกนี้ช่างมีเรื่องประหลาดพิสดารเช่นนี้ด้วยหรือ?!
ปราณกระบี่นี้คืออะไรกันแน่?
พวกเขาเหมือนจะได้ยินคำว่าชิงเหลียน แต่อยู่ห่างออกไปพอสมควร จึงได้ยินไม่ชัดเจน
แต่พวกเขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนของหลี่ชางเซิงอย่างชัดเจน เสียงร้องนาวกับกำลังถูกทรมานอย่างทารุณ เจ็บปวดถึงกระดูก!
บรรดาผู้ฝึกตนอิสระที่ก่อนหน้านี้ซ้ำเติมและศิษย์บางส่วนของสำนักเติมฟ้า ในใจตอนนี้นอกจากตกตะลึงแล้วยังรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วย เป็นความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งต่อจ้าวอู่หยาง!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า