ไป๋ซีเยว่รู้สึกกระอักกระอ่วนราวกับถูกคนเปลื้องผ้า เธอขมวดคิ้ว ผลักจี้เหลียนเฉิงไปครั้งหนึ่ง ตัวเองก็ออกจากห้องนอนแล้วปิดประตู ถึงได้เอ่ยว่า “เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย!”
เอ่ยจบก็หงุดหงิด ก่อนหน้านี้คิดเรียบร้อยแล้วว่าจะให้มู่มู่เป็นข้อบอกปัด ทำไมพริบตาเดียวก็ลืมซะแล้ว
ความจำอะไรเนี่ย!
เธอมีสีหน้าไม่น่ามอง จี้เหลียนเฉิงก็ไม่พูดอะไรอีก
หวางลุ่ยเจินเดินเข้ามาถาม “หลับแล้วหรอ”
ไป๋ซีเยว่ตอบอืม
จี้เหลียนเฉิงถึงได้เอ่ยว่า “คุณป้า ผมกลับแล้วนะครับ”
หวางลุ่ยเจินมองสีหน้าลูกสาวตัวเองแวบหนึ่ง คำพูดที่จะรั้งให้อยู่ต่อด้วยความเกรงใจก็ไม่กล้าพูดออกมา ทำได้แค่ยิ้มๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ขับรถช้าหน่อยนะ”
จี้เหลียนเฉิงเดินไปทางประตู แต่จู่ๆก็หยุดนิ่ง หันหน้ามามองไป๋ซีเยว่ “ถ้าหากว่าคุณจะไปเดทในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมสามารถดูแลมู่มู่ได้สองวัน”
เขาพูดจาแปลกๆ ไป๋ซีเยว่จึงโมโหขึ้นมา “ตาข้างไหนของคุณที่เห็นว่าฉันไปเดท? ฉันเป็นคนที่จะไปเดทโดยไม่สนใจลูกรึไง”
หวางลุ่ยเจินที่อยู่ข้างๆมึนงง เดท? ลูกสาวมีแฟนแล้ว?
จี้เหลียนเฉิงตอบ “ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณ เพียงแค่พูดตามความจริง เมื่อครู่เลขาซ่งเห็นคุณที่ร้านอาหาร”
เขาเอ่ยจบก็หมุนตัวจากไป
ไป๋ซีเยว่นิ่งอึ้ง
เลขาซ่งเป็นผู้ช่วยข้างกายจี้เหลียนเฉิง ติดตามจี้เหลียนเฉิงมาหลายปีแล้ว
เห็นเธอที่ร้านอาหาร...หมายถึงว่าเห็นเธอกินข้าวอยู่กับหลี่หยูนชิง?
มิน่าเขาถึงได้พูดว่าเดท
ไป๋ซีเยว่รู้สึกว่าไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง แต่กลับไม่รู้ว่าจะระบายออกมายังไง
หวางลุ่ยเจินถามเธอ “ที่จี้เหลียนเฉิงพูดมันหมายความว่าอะไร เลขาซ่งเห็นลูกแล้ว? ลูกไปเดทมาหรอ กับใคร?”
คำถามที่รัวเป็นปืนกลของเธอทำให้ไป๋ซีเยว่หงุดหงิดมากขึ้น เธอเอ่ยอย่างหมดความอดทนว่า “แม่คะ หนูแค่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงาน ไปเดทอะไรที่ไหนกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย)