คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 35

ด้านเจนิส หลังจากที่ริวมาส่งที่คอนโด แล้วนั้น ร่างบางถึงกับนอนพลิกตัวไปมา คำพูดของริว ทำเอาร่างบางถึงกับข่มตานอนไม่หลับ และที่หนักไปกว่านั้นคนใจร้ายนั้นยังเข้ามาวุ่นวายภายในใจของเธอ สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ตัวนะ ฉันรู้มันดีทุกอย่าง แต่ฉันก็ห้ามความรู้สึกตัวเองนั้นไม่ได้ ฉันลืมไปเสียสนิทความรู้สึกที่ฉันมีให้กับเลย์ก่อนหน้านี้นั้นมันหหายไปตั้งแต่ตอนไหนกัน

3 วันต่อมา

และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันมีเรียนแค่ช่วงเช้า หลังจากที่เลิกเรียนฉันก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารกับพวกเพื่อนของฉัน เอาจริงตั้งแต่วันที่พี่ริว เขามาส่งฉันที่คอนโดนี่ก็ผ่านไปสามวันแล้ว ที่เขาหายไปแบบจู่ๆ ก็หายไป ไม่ไลน์มาแกล้งหรือโทรกวนฉันอย่างที่เคยเป็น ข้าวในจานที่วางอยู่ตรงหน้าถูกคนตัวเล็กนั้นเอาแต่นั่งเขี่ยไปมา แต่ขณะที่เอาแต่คิดเรื่องฟุ้งซ่านอยู่นั้น ร่างบางถึงกับสะดุ้งด้วยแรงสั่นของสมาร์ตโฟนในกระเป๋าที่วางอยู่บนตัก ร่างบางที่คิดว่าเป็นสายของคนต้นเหตุที่ทำให้เธอฟุ้งซ่านนั้น มือเรียวถึงกับรีบหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู แต่มันกับไม่ใช่สายของริว คนที่โทรเข้ามาคือเลย์นั้นเอง เมื่อเห็นว่าเป็นสายของเลย์ มือเรียวถึงกับกดตัดสายและเก็บมันลงในกระเป๋าไปทันที

จากนั้นเจนิสก็หันมาสนใจข้าวในจานของตนต่อ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ลึกๆเธอยังแอบหวังให้ริวนั้นโทรเข้ามา

"หึ...นิฉันกำลังหวังอะไรไปมากกว่านี้หรือเปล่า" ร่างบางพยายามสลัดความคิดนั้นออกจากหัว เธอพยายามที่จะไม่คิดถึงเขา แต่ขณะที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากนั้น

"แปลกวะ วันนี้กลุ่มพวกพี่อรัณมาทานข้าวที่นี่ด้วย ปกติไม่ค่อยได้เห็น" ยัยเฟย์ที่นั่งตรงข้ามกับฉันถึงกับหันมา เจนิสพอได้ยินเช่นนั้นร่างบางถึงกับหันไปมองกลุ่มรุ่นพี่ต่างคณะทันที

"แต่พี่ริวของแกไม่ได้มาด้วยยะ ยัยเจ" ยัยเฟย์เอ่ยพร้อมกับยกยิ้มมาให้กับฉัน

"พี่ริวของฉัน บ้าหนะ นี่แกพูดไรออกมา" เจนิสที่โดนเฟย์เอ่ยมาเช่นนั้นใบหน้าหวานถึงกับแดงซ่านขึ้นมาทันที

"ยัยเฟย์แก ชั่งพูดมาได้ เขาไม่ใช่ของฉันเสียหน่อย" เจนิสเอ่ยมาอย่างแก้ตัวเพราะเขานั่นไม่ใช่ของเธอจริง

"จ้า...ไม่ใช่ก็ไม่ไม่ใช่ แต่วันนั้นใครน๊า ที่โดนพี่ริวลากไปห้องพยาบาล" แซมมี่เอ่ยมาเสียงสูง พร้อมกับเหลือบมองเจนิสมาอย่างไม่วางตา และยังทำสีหน้าท่าทางล้อเลียนเธอมา ให้ร่างบางนั้นรู้สึกเขินอาย ยิ่งนึกถึงเรื่องวันนั้นเจนิสถึงกับหลบสายตาของทั้งสามสาวที่เอาแต่จ้องมองเธอ

"พวกแกเลิกมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ได้ แล้วน๊า" เจนิสเอ่ยตัดบทกับเพื่อนๆ ของเธอ ร่างบางยังคงรู้สึกเขินอายเมื่อนึกถึงเรื่องในคืนวันนั้น พร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในอก ที่วันนี้ที่เธอไม่เจอริวนั้นมากับกลุ่มๆ เพื่อนของเขา และมันกับเกิดคำถามขึ้นมามากมายในหัวของฉัน เขาหายไปไหนกัน เมื่อเห็นว่าพี่ริก พี่อรัณ และพี่เรียวตะ นั้นนั่งอยู่อีกฝั่งถัดจากพวกฉันไปประมาณห้าโต๊ะ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าพี่ริวนั่นจะตามพวกเพื่อนๆ เขามา สายตาของคนตัวเล็กมองไปยังโต๊ะที่ทั้งสามหนุ่มเป็นพักๆ ซึ่งท่าทีของเจนิสนั้นก็ไม่หลุดพ้นของเพื่อนสนิททั้งสามสาวแต่อย่างใด

จนกระทั้งผ่านไปราวเกือบสิบนาทีที่พวกเรานั่งทานข้าวกัน

"เออ แกวันนี้พวกเราเลิกเร็วไปเดินเล่นที่สวนกันไหม" ขณะที่ยัยน้ำอุ่นกำลังนั่งทานข้าวตรงข้ามกับฉันก็หันมาถาม

"ก็ดีนะ ฉันกลับคอนโดก็คงนอนดูซีรี่ย์ ไปเล่นที่สวนก็ดีเหมือนกัน" ใบหน้าหวานของเจนิสตอบกับเพื่อนของเธอไป

"พวกแกละไปด้วยกันปะ" จากนั้นยัยน้ำอุ่นก็ถามต่อ เพราะยัยแซมมี่และยัยเฟย์เอาแต่นั่งนิ่ง เพราะที่ยัยเฟย์นิ่งหูอีกข้างของนางใส่หูฟังคงไม่ได้ยินที่ยัยน้ำอุ่นถาม

"ก็ไปด้วยกันหมดนี้แหละ...แก" ยัยแซมมี่หันมาตอบ

"งั้นตามนี้นะพวกแก เรานั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีX และไปที่ห้างXก่อน ฉันสั่งสลักชื่อแหวนให้สาวฉัน ขอแวะไปเอาของแป๊บนึ่ง" ยัยแซมมี่เอ่ยกับพวกฉันมา จากนั้นพวกเราก็รีบลงมือทานข้าวกันทันที

หนึ่งชั่วโมงต่อมาร่างบางในชุดนักศึกษาของเจนิสและเพื่อนๆ สนิทของเธอทั้งสามสาวก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ขณะที่รอแซมมี่ไปเอาแหวนให้กับพี่สาวนั้น

"พวกแกไปเข้าห้องน้ำกันไหม" ยัยเฟย์เอ่ยถามฉันและยัยน้ำอุ่นมาขณะที่เราเดินดูของรอยัยแซมมี่

"ไปดิแก ฉันกำลังปวดฉี่อยู่พอดี" ฉันบอกเพื่อนไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ