ด้านเจนิสร่างบางรู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีสี่ทุ่มกว่าๆ ให้ตายเถอะ ฉันเผลอหลับไปหลายชั่วโมง ฉันเสมองใบหน้าอันหล่อเหล่าที่กอดฉันเอาไว้ เปลือกตาของเขายังคงหลับสนิท พร้อมกับลมหายใจเข้าออกอย่างเสมำเสมอ ฉันเหลือบมองนาฬิกา ...นิฉันหลับไปนานขนาดนี้เชียวเหรอ เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ขยับตัวขึ้นเพื่อจะลุกออกจากเตียงนอน แต่แขนแกร่งของคนตัวโตกับรัดแน่นขึ้น
"ขอพักต่ออีกห้านาที และเดี๋ยวไปส่ง" เสียงทุ่มของคนที่ฉันคิดว่าหลับเอ่ยขึ้นมา ร่างบางถึงกระชับผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้แน่นขึ้น อารมณ์ก่อนหน้านี้กับตอนนี้ไม่เหมือนกันเลยซักนิด แต่นั้นร่างบางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่กับครุ่นคิดเรื่องของเขาและเธอขึ้นมาวุ่นวายรบกวนภายในจิตใจ สถานะของฉันตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากเด็กเลี้ยงของเขา ทั้งที่ฉันปฎิเสธ มันนักหนา แต่ฉันก็กายเป็นผู้หญิงใจง่ายยอมมีอะไรกับเขาอยู่ดี ใบหน้าสวยหวานถึงกับมีสีหน้าคิดหนัก ฉันจะจัดการความรู้สึกที่มันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นและเลยเถิดแบบนี้ได้ยังไงดี
ด้านริวหลังจากที่รู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาแล้วนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาเสมองคนตัวเล็ก
"ขอบคุณที่วันนี้เธอทำให้ฉันมีความสุขมาก อย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน" ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาและกดจมูกโด่งคมสันประทับลงหน้าผากบางคนตัวเล็กลงอย่างอ่อนโยน เจนิสที่โดยกระทำเช่นนั่นร่างบางถึงกับหลับตาพริบๆ และสบตาเข้ากับคนตรงหน้า จากนั้นร่างสูงก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนไปอาบน้ำเพื่อจะไปส่งเธอ
ร่างสูงใช้เวลาอาบน้ำและแต่งตัวเพียงสิบนาที ริวออกมาจากห้องน้ำก็เจอกับเจนิสที่อยู่ในชุดนักศึกษาที่พร้อมออกจากห้องอย่างเรียบร้อย
ด้านเจนิสแต่ขณะที่ฉันมองไปรอบๆ ห้องพักของเขา สายตากับสะดุดเข้ากับกรอบรูปที่ตั้งโชว์อยู่บนชั้น เป็นภาพถ่ายของพี่ริวและมีสาวสวยในชุดนักษาที่ทั้งสองแนบชิดกัน มันเป็นภาพที่ดูน่ารักเอามากๆ เหมือนที่ฉันเคยถ่ายกับเลย์
สายตาของคนเล็กที่จับจ้องไปกรอบรูปใบนั้น ด้วยความรู้สึกแปลก จู่ๆ มันก็รู้สึกแปลบๆ ขึ้นมาแน่นที่อกของฉัน อาการเช่นนั้นมันเหมือนกับตอนที่เลย์ทิ้งฉัน แต่ภายในหัวของฉันตอนนี้กับเกิดคำถามขึ้นมามากมาย ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาคนนั้นคือใครกัน ทำไมฉันต้องอยากจะทราบด้วย ภาพถ่ายของพวกเขาที่ดูเหมาะสม และน่ารักเอามากๆ
ผู้หญิงคนนั้นทั้งดูสวยและน่ารักขณะฉันเห็นเพียงแค่ภาพของเธอ ยังอดชื่นชมความสวยเธอไม่ได้ แต่จู่ๆ ความคิดหนึ่งกับวิ่งขึ้นมาในหัวของฉัน
"ถึงเราจะมีอะไรที่ลึกซึ่งกันมาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยปากขอฉันคบ เป็นแฟน หึ...นิฉันกำลังหวังอะไรที่มันมากไปกว่านั่นหรือเปล่า" เจนิสได้แต่ครุ่นคิดภายในใจ ด้วยความรู้สึกสับสน
จนกระทั้งร่างสูงของริวนั้นเดินเข้ามาหาและเอ่ยเรียกคนตัวเล็ก เขาเดินมาหยุดตรงหน้าเธอได้ซักพักแต่ร่างบางก็ยังคงนิ่ง หึ...นิจะทำหน้าหยิ่งไปถึงไหนกัน
"เจนิส...เจนิส" ในขณะที่ร่างบางกำลังคิดอะไรอยู่นั้นเสียงของพี่ริวก็ดังขึ้นมา ทำเอาคนขวัญอ่อนถึงกับสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ ร่างบางถึงกับหลุดออกจากห่วงความคิดของตน
"คะ..." ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับชะงัก ที่เขาเรียกเธอถึงสองครั้งแต่ร่างบางนั้นกับไม่รู้สึกสนใจเขาแต่อย่างใด หึ...เอากันไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว แต่ร่างบางตรงหน้ายังคงทำหน้าหยิ่งๆ นิ่งๆให้กับตน
"เจนิสเธอเป็นอะไร หรือเปล่า" ริวเสมองใบหน้าของคนที่เอาแต่นั่งนิ่ง เขาสังเกตุสีหน้าและท่าทีของเธอตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้ว
"ปะ...เปล่า " ริวทีเห็นท่าทีของเจนิสุึงกับหงุดหงิดไม่พอใจ
"หึ...อยู่กับฉันเธอไม่ควรใจลอยคิดถึงคนอื่นหนะ เพราะฉันคือผู้ชายคนแรกของเธอ และทีสำคัญเธอเป็นคนโปรดของฉัน ที่ฉันยังกินไม่เบื่อ เพราะฉะนั้นเธอห้ามคิดไม่ซื่อ ห้ามให้ใครซ้ำลอยฉัน" ร่างสูงที่คิดว่าเจนิสนั้นนั่งใจลอยคิดถึงคนอื่นริวถึงกับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างหัวเสีย
ร่างบางที่ได้ยินร่างสูงเอ่ยมาเช่นนั้น ใบหน้าหวานถึงกับชะงักและซีดเผือกลงทันที
"พี่หมายความว่ายังไง" เจนิสถามมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ฉันแค่ไม่ชอบให้เธอคิดถึงผู้ชายคนอื่น ขณะที่เธอยังอยู่กับฉัน เธอควรเป็นเด็กเลี้ยงที่น่ารัก และเชื่อฟังฉันให้มากๆ จะได้อยู่กับฉันไปนานๆ" ริวเอ่ยมาด้วยท่าทีที่ไม่รู้สึกอะไร
ด้านเจนิสที่เห็นริวพ้นวาจาออกมาราวกับคนละคน ถึงกับชะงักสีหน้า นี่เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ถึงเธอจะพลาดหรือยอมมีอะไรกับเขาแต่นั้นใช่ว่าเธอจะยอมเป็นเด็กเลี้ยงที่เขากำลังยัดเยียดให้กับเธอ
"ที่ฉันยอมเป็นของพี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่ว่าฉันต้องการเป็นเด็กเลี้ยงของพี่หรอกนะ ฉันว่าพี่คงจะเข้าใจอะไรผิดไป" เจนิสเอ่ยขึ้นมาโดยมีท่าทีโมโหขึ้นมาเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ